|
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Beji เมื่อ 2013-3-19 15:13
อันนี้ก่อนแก้ - หลังแก้นะค่ะ เราแก้มาก็จะค่อนข้างบางขึ้นมากนะค่ะ แต่ก่อนแก้หมอบอกก่อนแล้วละค่ะ
แต่ยอมปากบาง ดีกว่าเป็นคีลอยด์อะค่ะ 55555 เราบอกให้ตัดได้เต็มที่ ขออย่าเห็นแผลเป็น !! แล้วก็ขอสวยๆด้วยนะค่ะ 555
ดูภาพแบบนี้อาจจะไม่เห็นแผลก่อนแก้นะค่ะ
เพราะเราครอปเอาจากภาพถ่ายมือถือ ไม่ค่อยชัดอะค่ะ แต่แผลก็อย่างที่เห็นภาพปัญหารีวิวข้างบนอะค่ะ
ของเราหมอตัดเอาคีลอยด์ออกซะเกือบครึ่งปาก คีลอยด์มันมันกินปากขึ้นมาอะค่ะ
แต่ตัดเถอะเราไม่ซีเรียสนะค่ะ ขอให้มันไม่น่าเกลียดเกินไป
ของเราใช้เวลาทำ 1.30 ชม. อาจเพราะเป็นเคสแก้ หมอก็เล็งเล็งอีก
ถามความแน่ในกับผู้ช่วยว่าตรงละหรือยัง ช่วยกันดูแบบเรารู้สึกว่าพิถีพิถันอะ
แต่พอทำเสร็จ!!! หมอแกพูดขึ้นมา มันเบี้ยวเปล่าว่ะ เราได้ยิน...ใจแป๊วเลยนะ!!! 555
ในใจคิดเอาไงว่ะๆ ไปส่องกระจกแม่งมันบวมแล้วดูเบี้ยวจริงอะ นอยบ่นกับพี่ผู้ช่วยเต็มที่
กลัวเบี้ยวกับแผลเป็นเนี้ยแหละจริงๆ แล้วเราก็รู้สึกว่ามันเบี้ยว ตอนนั้นมันบวมมากอะ บวมกว่าครั้งแรกมาก เพราะใช้เวลาทำนานด้วย
ยาชานี่ก็สุดๆอะ ฉีดปุ๊บชาเลย ไม่ต้องรอชาเหมือนที่แรกนะ แล้วช้าไม่ทั่วอีกต่างหาก
แต่นี่ชาไปถึงในคอ ไม่รู้ดีหรือเปล่านะ แต่ให้ตายเถอะ ยามันขมมาก
ชอบที่นี้อีกอย่างคือ เราเข้าไปหน้าที่คลินิกนะ ดูข้างนอก นี่มันห้องแถวปะเนี้ย 5555
อันนี้คิดจริงๆนะ เหมือนบ้านห้องแถวอะ
พอเข้าไปแล้วแบบว่า ชอบเฟอร์นิเจอร์มาก ขึ้นไปห้องหมอ
คิดในใจ ...หมอท่าทางจะไฮโซมากก เฟอร์อย่างหรู เราชอบนะ มันเป็นความประทับใจอะ
อีกอย่างคือยาแก้ปวด เอาแบบแผงของไทลินอลนะ ไม่ใช่แบบเม็ดกลมๆผสมแป้งที่ราคาถูกๆมาให้
นี่อีกข้อที่เราประทับใจ คือไม่ใช่ยากากๆ หรือยาแป้งอะ ของอุปกรณ์ รวมถึงตอนตัดไหม ก็ไม่เจ็บเลย
คือมันทำให้เรารู้สึกประทับใจอะ เมื่อเทียบกับที่แรกนะ
ส่วนราคาแพงกว่าเคสปกติ ราคาแก้ 15000 นะ ปกติ 10000 หรือ 12000 นี่แหละ จำไม่ได้อะ |
|