ดู: 1770|ตอบกลับ: 7
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[เสริมจมูก] กระทู้พลีชีพ My Make Over มหากาพย์ 30 กำ ลังแจ๋ว

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย applebow37 เมื่อ 2014-5-26 22:14

กระทู้พลีชีพ  My Make Over  มหากาพย์ 30 กำ  ลังแจ๋ว
Part 1 ถอยมาแล้นจ้า ดั้งใหม่
             ก่อนจะอ่าน บอกก่อนนะคะ ว่าพยายามเขียนอย่างละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลให้คนอื่นอื่นด้วย เราคิดว่าคงไม่มีใครอยากจะต้องทำ  ดั้งหลาย หลายครั้ง  เลยพยายามเก็บข้อมูลให้มากที่สุดทั้งเก็บไว้เป็นข้อมูลของตัวเอง และให้เพื่อนเพื่อนด้วยค่ะ   
    ใครที่เห็นรีวิวนี้แล้วรู้จักข้าพเจ้า เจอหน้าไม่ต้องถามไถ่นะคะ ถอยดั้งใหม่มาชัวร์ค่ะ  เอารูป before ไปดูก่อนละกันนะ

รูป Before ทุกรูป ไม่ได้ผ่านการแต่งภาพโดยแอพ หรือ photoshop ใดใดทั้งสิ้นนะฮ้าฟฟ   รูปบนซ้ายที่สีมันออกแดง
เพราะถ่ายบนรถทัวร์ตอนไปเที่ยวกะออฟฟิศ  ผ้าม่านรถทัวร์มันเป็นสีส้ม รูปเลยเป็นเช่นนี้คับ ส่วนรูปซ้ายล่าง ขวาล่าง
และบนขวา ถ่ายโดยใช้กล้องหน้า OPPO ของน้องที่ออฟฟิศ ( แหม แทบอยากจะไปถอย OPPO กันทั้งออฟฟิศอะ)
สองรูปกลางกล้อง Sony คับ

   เอาละ ร่ำไร กันพอเป็นพิธีแล้ว มาเข้าเรื่องกันเถอะจ้า  คือเราเนี่ยอยากทำจมูกมานานละ ดูรีวิวเยอะมาก แต่ยังไม่กล้า
บวกกะเวลา และวันลาไม่ลงตัวด้วย ดูมาดูไปมาหลายปี ไม่ได้ทำซะที   ปีนี้เอาวะ ตั้งใจว่าจะทำจิงจังละ กะว่าสงกรานต์
ลาหยุดยาว 9 – 16 เลย  ทำแล้วได้พักเต็มที่  แต่ประเด็นคือทำที่ไหนดีนี่สิ???
  ก้อคงเหมือนคนอื่นอื่นเนอะ ที่ต้องหาดูทั้งรีวิวจากเว็บโน้นเว็บนี้เต็มไปหมด  เราเองก้อเช่นกันจ้าอาศัยประสบการณ์
จากเพื่อน ๆ  ในเว็บที่เราสิง (อ่าน) เป็นประจำ และในเฟซบุ๊ค  เพื่อหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจ สำหรับเรานะ
ตอนแรกใจนึงเวลาที่อ่านรีวิวก้ออยากไปทำกะคุณหมอที่ดังดังอยู่ในเว็บเหล่านั้นแหละ  แต่มาพักหลังหลังเริ่มมีกระทู้
ที่คอมเมนต์เรื่องบริการหลังจากที่ทำไปแล้วมีปัญหา  ทำให้เริ่มต้องกลับมาหาข้อมูลเพิ่มละว่านอกจากดังแล้วหมอจะมี
เวลาให้เรามั้ย ถ้าเราเกิดเคสหลังจากทำไป  อันนี้สำคัญมากนะ  เห็นหลายคนมาโพสว่าหมอบางท่านรับแต่ลูกค้าใหม่
เคสเก่าไป รอคิวคุยนานมาก แบบนี้ต้องคิดหนักเลยยคะ ( อันนี้เราอ่านมาจากรีวิวคนอื่นอีกทีนะคะ จริงเท็จประการใดต้องใช้วิจารญาณเอาเอง แต่สำหรับเราขอหมอชัวร์ไว้ก่อนดีที่สุด)  
และอีกข้อคือ คิวหมอต้องได้ช่วงสงกรานต์อะ เราหยุดงานได้แค่นั้น

  
   เราเห็นมีคนที่ทำแล้วรีวิวในเฟซบุคของคลีนิด แล้วทรงโอเคอะ(เราไม่ได้ลงรูปของคนที่เราดูมานะคะ   เพราะเราไม่ทราบว่าไปเอารูปเค้ามาลงโดยไม่ขออนุญาตได้รึป่าว )  เลยลองเข้าไปดูข้อมูล  และดูรีวิวของคนที่
เค้าทำมาแล้ว เพื่อดูทรงที่หมอทำด้วยอะ ปรากฎว่าเค้ามีคลีนิคสาขาแรกที่อุบล และสาขาที่สองแถวกัลปพฤกษ์
ซึ่งสาขากัลปพฤกษ์ใกล้บ้านเราด้วย   เลยโทรนัดเพื่อเข้าไปคุยรายละเอียดกับหมอก่อน

      ตอนเข้าไปครั้งแรก งงนิดหน่อยคลีนิคเค้าชั้นล่างเหมือนเป็นสปาอะ แล้วพอเดินขึ้นมาชั้นบนต้องผ่านห้องนวดสปา
และถึงเจอคลีนิค แต่เราชอบที่ดูสะอาดสะอ้านดี  ชอบสุดตรงรองเท้าที่เค้าให้เปลี่ยน มันเหมือนเป็นรองเท้านวดนวดเท้า
อะ  ใส่สบายดีนะ
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-26 22:17:35 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย applebow37 เมื่อ 2014-5-26 22:19

เปิดประตูมาเจอคุณหมอนั่งรออยู่ละ คุณหมอก้อสอบถามเรา คำถามหลักหลักมีประมาณว่า  อยากได้จมูกทรงประมาณไหน ( อันนี้เราเปิดรูปจากเฟซบุคของคลีนิคให้คุณหมอดู คุณพยาบาลบอกว่ามีสาวสาวรีเควสทรงนี้ กันเยอะมากค่ะ แบบหวานหวานหน่อย มีสโลป ไม่โด่งมาก ปลายพุ่ง แต่ไม่เชิด)
ความโด่งของจมูก อยากได้โด่งสุดเท่าที่จะโด่งได้ หรือโด่งธรรมชาติ
    ซึ่งอันนี้คิดว่าเป็นคำถามทั่วไปที่หมอทุกท่าน น่าจะถามอยู่แล้วนะคะ   หลังจากนั้นคุณหมอก้อเอาไม้บรรทัดมาวัดวัดจมูกเรา  น่าจะนะ วัดความยาว ความโด่งสัน ความโด่งปลาย และก้อจับจับจมูกดูค่ะ  ออกมาเป็นแบบนี้


  ถามคุณหมอบาสว่า ไอ้ Hum ที่คุณหมอมาร์คไว้คืออะไร คุณหมออธิบายว่ามันคือกระดูกจมูก ที่เป็นจุดที่ต้องระวัง
เวลาใส่ซิลิโคน ไม่งั้นอาจมีผลทำให้เบี้ยวได้ และฐานจมูกเราเดิมไม่เท่ากันนิดหน่อย แต่หมอจะทำไม่ให้เบี้ยวนะ
แหะ  แหะ แอบซีดนิดหน่อย ตอนคุณหมอบอกอาจเบี้ยวได้  ^ ^ “   
  ส่วนเรื่องชนิดซิลิโคน คุณหมอบาสบอกว่าเรามีเนื้อจมูกปานกลาง  ใส่ซิลิโคนแบบนิ่มของอเมริกาได้ โดยคุณหมอ
จะเน้นเรื่องความปลอดภัย( ไม่โด่งเวอร์จนทะลุ อยู่กะหนูไปจนแก่จนเฒ่า)  ส่วนเรื่องความโด่งคุณหมอบาสอธิบายว่า
จมูกที่สวย ไม่ใช่จมูกที่โด่งที่สุดเท่าที่จะโด่งได้  แต่เป็นจมูกที่โด่งในระดับที่พอดีที่สุดกับองค์ประกอบอื่นบนใบหน้า
( ถ้าเป็นภาษาหนู  ก้อคือ ดูหนังหน้าของคนทำด้วยนั่นเอง)   
ซึ่งคุณหมอบาสเองรับทำแค่วันละประมาณ 3 เคส สำหรับงานเสริมจมูก  นอกนั้นจะเป็นเคส ฟิลเลอร์  หรือดูแลความงามทั่วไป    คุณหมอบาสบอกว่าไม่เน้นปริมาณอะ  ส่วนมากลูกค้ามาแบบปากต่อปากมากกว่า
     เสร็จสรรพเรียบร้อย นัดวันได้ วันที่ 9 เมษายน  ห้าโมงเย็น
   แต่งานมาเข้าเพราะเราเอง  เราเคยฉีดฟิลเลอร์มา แต่เราลืมบอกคุณหมอ เพราะตอนนั้นเราไปเป็นเพื่อน เพื่อนสาว
ที่นางไปเหมาฉีดฟิลเลอร์แบบบุฟเฟต์แพคเกจ ที่คลีนิคนึง แล้ว unit นางเหลือ นางเลยบอกว่าให้เราฉีดส่วนที่เหลือเถอะ เพราะคลีนิคเค้าเหมา ไม่คืนเงิน เราก้อเนอะ ตอนนั้น ไม่คิดไร เพราะคุณหมอที่ฉีดเพื่อนบอกว่าเหลือไม่มากค่ะ
ฉีดแล้วไม่โด่งเวอร์หรอก  เราก้อแบบ เอาฉีดก้อฉีด รู้แค่ว่าเป็นเรสทิเรน แต่ไม่รู้เลยว่าคุณหมอฉีดไปกี่ unit หรือกี่ CC
เพิ่งมาคิดได้ตอนบอกเพื่อว่าจะไปเสริมนะ ก่อนหน้าวันนัดไม่กี่วัน ละนางทักว่า แกฉีดมาคราวนั้นพร้อมชั้นอะ
( สามสี่ปีได้นะ) แกบอกหมอป่าวววว      โอ้วววววยูว์  รีบคุยกะคุณหมอบาสอย่างว่องเลยครับ คุณหมอบาสบอกว่า
เสริมได้แต่ต้องขูดนะ  ซึ่งต้องขูดออกให้หมด  ไม่งั้นจะเบี้ยววววววว  
   ฮือ  !!! หนูละป๊อดตรงเนี้ย  ตอนฉีดไม่โด่งเลยนะ ไม่มีคนทักเลย   ไม่น่าฉีดเลยตรู
  คุณหมอบาสมีอธิบายเพิ่มเติมว่า อาจมีการบวมช้ำมากกว่าปกติ ถ้าคนที่ช้ำได้ง่ายมาก อาจจะตาบวมจนปิดเลยอะ
โฮวววววว  !!!!  คุณหมอขา หนูอะ มนุษย์ช้ำง่ายเลยค่ะ เจาะเลือดจิ๊ดเดียว เขียวปนม่วงเป็นอาทิตย์   ด้วยความป๊อดจัด
เลยเสริชหารีวิวดู    ไปเจอคุณน้องท่านนึงมารีวิวเรื่องขูดฟิลเลอร์ก่อนเสริม น้องเค้าทั้งบวมช้ำใต้ตา  ตาบวมปิด แถมยังมีเส้นเลือดฝอยในตาแตกอีก   เรานี้ คืนนั้น นอนไม่หลับเลยนะ คิดเลยว่าจะทำดีหรือไม่ทำดี อีกแค่ไม่กี่วันจะถึงวันนัด
คิดอยู่หนึ่งคืน กะ หนึ่งวันเต็ม  เลยตัดสินใจถามคุณหมอดีกว่า เผื่อยกเลิกทัน  
    บอกคุณหมอบาสไปตามตรงหนูไปดูรีวิวมาค่ะ เห็นคนที่เค้าขูดแล้วช้ำตาปิด เส้นเลือดฝอยในตาแตก หนูจะเป็นงั้นมั้ยคะ   คุณหมอบาสตอบว่า อาการบวมจนดวงตาเหมือนปิด อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งอันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล  แต่อาการเส้นเลือดฝอยในตาแตกนั้นคุณหมอบาสไม่เคยมีเคสนี้
     ไอ้เราก้อโล่งใจไปนิดนึง เพราะเราลาได้แค่ 7  วันอะ  เอาวะ ทำก้อทำ ฮึ่ยยยยยยยย.
      แถมก่อนหน้ายังมีเคสน้องที่ออฟฟิศ ไปทำจมูกมาเกือบปีปรากฎว่าซิลิโคนทะลุหลุดอยู่ด้านในโพรง ต้องรีบไป
ถอดออก    กลัวนะเฟ้ยยยยยยย  ยังคุยกะน้อง  แกจะมาหลุดไรช่วงนี้ว้าาาาา  พี่กำลังจะไปทำ  น้องมันหัวเราะ
พี่อย่าคิดมาก   หนูไปทำราคาโปรโมชั่น หมอใช้เวลาแค่ยี่สิบนาทีอะ นี่หนูโทรไปคลีนิคที่ทำ หมอเค้าก้อบอกว่าเพราะ
เราดูแลไม่ดีรึป่าววว  ตึงงงงงง !!!!!!   คือ ยิ่งคิดเลยอะ กลัวมากว่าหลังทำจะเป็นไร

3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-26 22:19:50 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย applebow37 เมื่อ 2014-5-26 22:21

   ช่วงซักอาทิตย์ก่อนถึงวันนัดนี้ แอบกังวล แอบนอยเล็กเล็ก   แต่พอถึงวันนัดจิงวันที่ 9 เมษาปรากฎว่าชีวิตวุ่นวายมาก
จนไม่มีเวลานอยด์อะ  ตื่นเช้ามาไปทำใบขับขี่ใหม่ หมดไปครึ่งวัน( ยังไม่เสร็จ ต้องไปทำต่อวันหลัง)  ยังจ้า พอตกบ่าย
ไปทำพาสปอร์ต เสร็จเกือบสี่โมง ไปหาคุณหมอต่อ นึกว่าจะไปทัน ไปถึงคลีนิคด้วยสภาพโทรมมากกกค่ะ

     ตอนไปถึงก้อยังร่าเริง ลัลลา คุยกะคุณหมอบาส คุณพยาบาลเฮฮา  พอถึงเวลาคุณพยาบาลมาพาไปคลีนหน้า
เริ่มละเรา เริ่มมือเย็นละ   หลังจากคลีนหน้าเสร็จก้อใส่ชุดคลุมสีเขียว ยังเฮฮาอยู่ ถ่ายรูปกันลัลลา เก็บไว้เป็นที่ระทึก
หลังจากคลีนหน้าเสร็จคุณพยาบาลมาพาไปที่ห้องเผื่อเตรียมตัวผ่า  พอเข้าห้องปุ๊ป คุณพยาบาลบอกให้นอนบนเตียง ตอนนี้หล่ะเริ่มกลัวละ  พอนอนลงจะมีผ้าสีเขียวมาปิดหน้าเหลือแต่ ตรงจมูกไว้ หลังจากนั้นคุณหมอจะบอกว่าฉีดยาชานะครับ  ของเราฉีดยาชาสามเข็ม ระหว่างรอยาชาออกฤทธิ์คุณหมอก้ออธิบายสเต็ปไปพลางพลาง  สำ หรับเรา

ขั้นตอนแรก  คือการขูดฟิลเลอร์เดิมออก  ไอ้การขูดฟิลเลอร์ที่เราเรียกกันจนติดปากนั้น แท้จริงแล้วคือ คือการเอาผังพืดออกนั่นเอง เนื่องจากฟิลเลอร์ในจมูกนั้น จะมีเนื้อเยื่อของเรามาพันไว้ คุณหมอบอกว่าเรียกว่าเป็นเนื้อเยื่อเ กี่ยวพันหรือ
ผังพืดนั่นเอง  
ขั้นตอนที่สอง คือ ใส่ซิลิโคนที่คุณหมอได้วัดและเหลาเตรียมไว้แล้ว แต่อาจต้องมีการเหลาตกแต่งอีกนิดหน่อย
ขั้นตอนสุดท้าย คือ การเย็บ  เป็นอันเสร็จ

เอาละ คุณหมออธิบายจบ ยาชาเริ่มออกฤทธิ์ เต็มที่ ก้อลงมือได้  ไม่มีรูประหว่างทำ นะจ๊ะ เพราะเป็นห้องปลอดเชื้อ
ไม่ได้ถ่ายรูปนะจ๊ะ   ระหว่างทำ  ไม่ได้รู้สึกเจ็บหรืออะไรนะคะ เพียงแต่ช่วงที่คุณหมอบอกว่ากำ  ลังขูดฟิลเลอร์อยู่มีความรู้สึกว่ามีอะไร กึก กึก แต่ไม่เจ็บนะคะ  
   ของเราใช้เวลาประมาณหนึ่งช่วงโมงครึ่ง รวมขูดฟิลเลอร์ โดยระหว่างทำ  คุณหมอจะคอยบอกตลอดเวลาว่ากำ  ลังทำ  อะไรอยู่   เหมือนตอนขูดฟิลเลอร์ คุณหมอจะบอกว่าใช้เวลานิดนึงนะ เพราะคุณหมอต้องการขูดออกให้ได้ทั้งหมด
   เพื่อให้ไม่มีผลกระทบจากฟิลเลอร์ที่เหลืออยู่  มาทำ  ให้ซิลิโคนที่จะใส่เข้าไปใหม่เกิดการเบี้ยว
   
   หลังจากที่คุณหมอขูดเสร็จก้อจะล้างด้วยยาฆ่าเชื้อ ซึ่งคุณหมอจะคอยบอกว่าแสบนิดนึงนะ ทุกอย่างในขณะที่คุณหมอ กำ  ลังทำ  การผ่าตัด ให้เราพยายามกลืนนะคะ  ไม่งั้นเราจะหายใจลำ  บาก เหมือนมีอะไรติดคอ
   ตรงนี้มีเคล็ดลับมาบอกค่ะ คือให้พยายามเอาสมาธิเราไปจดจ่อที่ลมหายใจนะคะ ลืมบอกไปว่าระหว่างที่คุณหมอทำการผ่าตัดเราต้องหายใจทางปาก  ห้ามหายใจทางจมูกไม่งั้นจะติดเชื้อค่ะ  สำ  หรับเราใช้ หายใจเข้า - หายใจออก- กลืน
   ทำ  อย่างนี้ตลอดการผ่าตัดค่ะ จะช่วยให้เราหายใจได้ง่ายขึ้น และตื่นเต้นน้อยลงค่ะ  
   หลังผ่าตัดเสร็จคุณหมอก้อติดผ้าก๊อชให้ แล้วออกมานั่งพักประคบเย็นแล้วรับยาค่ะ ออกมาไม่มีอาการเจ็บหรือตึงแต่อย่างใดนะคะ  ปกติ ยังถ่ายรูปได้อยู่เลยค่ะ  โดยคุณหมอจะมาอธิบายเรื่องยาและแนะนำ  การปฏิบัติตัวระหว่างนี้
   คือช่วง 7 วันหลังจากทำ  การผ่าตัดไปถึงวันที่มาตัดไหมค่ะ

สำ  หรับเรา คุณหมอแนะนำ  ให้ประคบเย็นมากมาก เพื่อลดอาการบวมค่ะ เนื่องจากเรามีการขูดฟิลเลอร์ร่วมด้วย
และท ี่สำ  คัญคือ  ฟิลเลอร์ที่เราคิดว่าฉีดมาน้อยนั้น คุณหมอบอกว่า จริงจริงแล้วเยอะเอาการทีเดียวค่ะ   ซึ่งจากผลตรงนี้
ทำ  ให้คุณหมอเป็นห่วงมากว่าเราอาจช้ำ  จนถึงขั้นตาบวมปิด

   
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-26 22:22:30 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย applebow37 เมื่อ 2014-5-26 22:28


มาดูกันดีกว่า  ว่าผลจะเป็นยังไง
วันที่ 1  มีรอยช้ำ  ที่มุมตาทั้งสองด้านเล็กน้อย  ใต้ตา  โหนกคิ้ว หน้าผาก ปกติค่ะ  ตาไม่ปิดค่ะ
วันที่ 2  รอยช้ำ  ที่หัวตาสองข้างดูลดลง  แต่ด้านข้างจมูกทั้งสองข้างดูบวมกว่าวันแรก ไม่มีรอยช้ำ  ใต้ตา  ตาไม่ปิดค่ะ

วันที่ 3  รอยช้ำ  ที่หัวตาสองด้านแทบไม่มีแล้วค่ะ   ด้านข้างจมูกสองด้านยุบบวมลงจากวันที่ 2 อย่างชัดเจน
เหมือนใต้ตาในรูปแรก บวม ตึงนิดหน่อย แต่ไม่เขียว ไม่ช้ำ   ไม่ม่วงนะคะ   ตาไม่ปิดเลยค่ะ  ไม่บวม

วันที่ 4   วันแกะผ้ากอซแห่งชาติค่ะ 555  สังเกตุรอยผ้ากอซที่หน้านะคะ  
อาการช้ำ  ที่หัวตาไม่มีแล้วค่ะ( เหลือแต่แพนด้าดำ  ใต้ตาเพราะหลับไม่ค่อยสนิท) ด้านข้างจมูกสองข้างยุบบวมลง
ใต้ตาจากวันที่ 3 ที่บวมนิดหน่อยและตึง ยุบลงเกือบปกติ  แต่ว่าช่วงสันจมูกยังดูบวมบวมใหญ่ใหญ่อยู่
โล่งอกมากค่ะ ผ่าน 3 วันอันตราย ไม่ตาปิด  ไม่ช้ำ  เว่อร์ ไม่มีอาการเส้นเลือดในตาแตก
กราบคุณหมองามงาม

วันที่ 5   ไม่มีรอยช้ำ  เลย ทั้งใต้ตา  ด้านข้างจมูกทั้งสองข้างยุบลงจนเป็นปกติ  ระหว่างคิ้วที่บวมในวันที่ 4 ลดลง
แต่ยังเหลือบวมนิดหน่อย

วันที่ 6  ยุบลงจนดูแทบเป็นปกติเลยค่ะ ทั้งด้านข้างจมูก ช่วงแก้ม  หว่างคิ้วเหลือแค่ ตัดไหม ของเรามองไม่เห็นไหมนะ ถ้าไม่สังเกตุ เพราะคุณหมอเย็บแผลด้านใน เห็นแค่ปลายไหมโผล่จากรูจมูก 2 เส้นเหมือนขนจมูกยาว 5555
นอกนั้นปกติทุกอย่างจ้าาาา

หลังตัดไหม    หลังตัดไหมคุณหมอจะแปะเหมือนพลาสเตอร์ให้อีก 1 วันนะคะ หลังจากนั้นก้อแกะออกได้เลยค่ะ


ไม่ต้องสงสัยนะคะ ว่าทำ  ไมเรามีแต่รูปถ่ายเฉพาะใบหน้า อย่างเดียว  เพราะเราไม่ออกไปไหนเลยค่ะ กะพักยาวพักเต็มที่
ให้หายทันเปิดงาน  มิฉะนั้นพาหนังหน้าไปพบลูกค้ามิได้งานจะเข้าค่ะ  
   แต่ !!!!!  ถ้าจบแค่นี้จะเป็น make over ได้ไง โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ  
PART 2 ร้อยไหม  +  ฟิลเลอร์ + โบท๊อกซ์   
ราคาเท่าไหร่คะ ^^  ทรงสวยมากเลยยยค่ะ ชื่อคลินิคอะไรค๊าาาา
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-6-1 16:03:43 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
PPeach.p ๅ>>ราคา 25000  ค่ะ ของเราทำที่ wind holistic แถวชัยพฤกษ์ ค่ะ
ทรงสวยมากอ่ะ ไม่เปนแท่ง ๆ ด้วย
รอ ๆ พาร์ทสองค่ะ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้