|
ศัลยกรรมปลูกผมคือ การปลูกถ่ายเซลล์รากผมของตัวเอง โดยย้ายจากหนังศีรษะบริเวณด้านหลัง มาไว้ในตำแหน่งที่ต้องการ ซึ่งต้องทำโดยแพทย์และทีมศัลยกรรมปลูกผมที่มีความชำนาญมาก จึงจะทำให้เซลล์รากผมที่ย้ายออกมาไม่เสียหายและสามารถเจริญต่อได้ และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
วิธีการย้ายเซลล์รากผมแบ่งเป็น 2 วิธี หลัก ๆคือ การผ่าตัด (FUT ) และการเจาะเก็บเฉพาะรากผม (FUE) ทั้ง 2 วิธีมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน คนส่วนใหญ่กลัวการผ่าตัด แต่จริง ๆแล้ว เทคนิค FUT หากกระทำโดยศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญ จะมีความปลอดภัยสูง FUE เป็นเทคนิคการเจาะเก็บรากผม หลังการเจาะเก็บรอให้แผลปิดตัวเองแผลหลังผ่าตัด ของ FUT เป็น closed wound ส่วนแผลหลังผ่าตัด ของ FUE เป็น opened wound อัตราการติดเชื้อหลังผ่าตัดของ FUT จึงจึงต่ำกว่า FUE กราฟที่ได้จาก FUT จะสมบูรณ์กว่า FUE โอกาสรอดจึงสูงกว่า
FUE อาจใช้เครื่องได้หลายชนิด ตามแต่บริษัทที่ผลิตเครื่องมือจะทำขึ้นมา
Robot Hairtranspant เป็นนวัตกรรมล่าสุดที่ถูกพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ , ศัลยแพทย์ที่ USA ชื่อที่ใช้เรียกคือ ARTAS ซึ่ง Robot จะทำหน้าที่เจาะรากผมเท่านั้น
ส่วนเครื่องมือที่เจาะและปลูกถ่ายด้วยคือ Neograft หรือ Omnigraft ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ถึงผลลัพธ์ที่ได้
FUT ยังเป็นวิธีที่ศัลยแพทย์ปลูกผมทั่วโลกเลือกใช้ จากข้อได้เปรียบในเรื่องของผลลัพธ์ที่ได้
FUE อาจมีโอกาสที่เครื่องมือจะเจาะตัดรากผมขาดโดยไม่ได้ตั้งใจมากกว่า FUT โดยทั่วไปมีอัตราการตัดรากผมขาดโดยไม่ตั้งใจ
( Transection rate ) ประมาณ 10 %
จะเลือกวิธีไหนต้องศึกษาให้เข้าใจถึงข้อดีข้อเสีย สุดท้ายคือ เรารับข้อดีข้อเสียของวิธีไหนได้มากกว่า
|
|