ดู: 3123|ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[ทั่วไป] ปัญหาฟิลเลอร์คาง จมูกบางใกล้ทะลุ หลังทำศัลยกรรมบวมนาน

[คัดลอกลิงก์]
ก่อนอื่นขอพูดถึงกระทู้นี้ก่อน ว่าโพสต์ขึ้นเพื่อให้คำแนะนำ และเป็นวิทยาทานสำหรับผู้ที่มีปัญหาจากการศัลยกรรม ซึ่งสิ่งที่โพสต์นี้เกิดจากประสบการณ์ส่วนตัวของเจ้าของกระทู้เอง ไม่มีการแอบแฝงการโฆษณา หรือมีส่วนได้เสียกับคลีนิค รพ. หรือ สินค้าใดๆทั้งสิ้น (จะเชื่อหรือไม่่ ก็แล้วแต่วิจารณญาณผู้อ่าน)


เนื่องจากเจ้าของกระทู้ได้ผ่านประสบการณ์ต่างๆตามที่กล่าวไว้ในหัวข้อกระทู้ข้างต้นแล้ว จึงอยากแชร์ข้อมูลนี้ เพื่อให้ผู้ที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกับเจ้าของกระทู้ ได้มีทางเลือกสำหรับที่จะหาทางออกในการแก้ปัญหาเหล่านี้ เพราะเจ้าของกระทู้รู้ว่าคนที่ประสบปัญหาเหล่านี้มีความทุกข์ใจมากแค่ไหน อยากสวย แต่กลายเป็นซวย


เริ่มที่ คาง ก่อน

เมื่อหลายปีก่อน (มากกว่าสี่ปี) เจ้าของกระทู้เคยไปฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมคางตรงปลายที่แตก (เป็นตั้งแต่เกิด คือคางบุ๋มตรงกลาง) ทำให้ถ่ายรูปแล้วคางดูตัดไม่สวย (เจ้าของกระทู้เป็นคนคางยื่่นอยู่แล้ว แต่ปลายคางไม่สวย) จึงตัดสินใจไปเติม ตอนแรกทีี่เติมคือชอบมาก เพราะคางดูเต็ม สมส่วน ไม่แหลม เพราะเติมนิดเดียว ต่อมารู้สึกว่าฟิลเลอร์เริมหาย คางกลับมาแตกเหมือนเดิม จึงไปเติมซ้ำแบบนี้อีกสองสามครั้ง แล้วก้ไม่ได้เติมอีก ในใจตอนนั้นคิดว่ามันสลายได้ คงไม่น่ากลัวอะไร เวลาผ่านไปหลายปี ฟิลเลอร์ที่ฉีดไว้เริ่มหดหรือสลายตัวไปบางส่วนก้ไม่ทราบได้ เพราะรู้สึกว่าก้อนฟิลเลอร์มันเล็กลง แต่นั่นยังไม่ใช่ปันหาที่น่ากลัวอะไร เวลาผ่านไป เจ้าของกระทู้เริ่มรู้สึกว่าคางมันแหลมขึ้นเรื่อยๆ (เหมือนฟิลเลอร์มันเปลี่ยนรูปร่างไปแล้วไปกระจุกตัวตรงปลาย ทำให้คางดูแหลมกว่าเดิม) เจ้าของกระทู้ก็นอย เลยไปฉีดสลาย ฉีดสลายทีแรก มันก้เล็กลง แต่ยังไม่หมด พอฉีดครั้งที่สองเริ่มมีปัญหาละทีนี้ คือยาที่เข้าไปไม่สามารถสลายฟิลเลอร์ได้ แถมทำให้คางดูแหลมแล้วยาวกว่าเดิม งานงอกแล้วสิคะ นอยหนักไปอีกค่ะ ทีนี้เลยตัดสินใจว่าต้องเอาออกแล้วล่ะ เพราะปลายคางเริ่มแดงนิดนึงละด้วย ใจคอไม่ดี เลยเริ่มศึกษาหาข้อมูลทางอินเตอร์เนตนี่แหละ แต่เห็นมีคนไปแก้คางมาแล้วมีปัญหาเยอะมาก เอาออกไม่หมดแล้วคางเบี้ยว ปากเบี้ยว แผลไม่ดี ก็นั่งอ่านไปเรื่อยๆจนไปเจอคอมเม้นนึง เหมือนเป็นแสงส่องทางจากสวรรค์ เราก็เริ่มสนใจคลีนิกนี้ ลองหาข้อมูล ปรากฏว่า ข้อมูลคนรีวิวน้อยมากกกกกกกก หาภาพแทบไม่ได้เลย มีแต่ข้อมูลในคลีนิกคุณหมอ ก็ลองเข้าไปนั่งอ่านดู จุดที่โดนใจที่สุด คือ คุณหมอสามารถแก้ไขคางให้ได้โดยไม่ต้องเสริมคาง ชอบตรงนี้ที่สุด (เจ้าของกระทู้คางยื่นอยู่แล้ว แต่ปลายคางแตก เลยตอบโจทย์ที่สุด) เพราะเจ้าของกระทู้เข้าไปปรึกษามาแล้วสองคลีนิก ทั้งสองที่บอกต้องเสริม เพราะถ้าเอาออกไปแล้วไม่เสริมคางจะเสียรูป (ก็เข้าใจที่หมออธิบายนะคะ แต่ไม่อยากได้คางยาวกว่านี้แล้วนินา) เลยตัดสินใจเข้าไปปรึกษาคุณหมอเลย คุณหมออธิบายดีมากกกกกกกก ให้ข้อมูลตรงไปตรงมา ละเอียด ทุกขั้นตอน มีภาพให้ดูทุกขั้นตอน ไม่มีการหลอกลวง หรือพูดชวนเชื่อใดๆ เลยตัดสินใจละ ว่าจะทำที่นี่ เพราะหมอจะทำให้คางกลับมาสวยได้โดยไม่ต้องใส่ซิลิโคน ก็นัดวันมาทำเรียบร้อย

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-4-20 00:37:31 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ก่อนผ่า หมอจะถ่ายรูปทุกมุมหน้าของเรา เพื่อดูความผิดปกติต่างๆ เช่น หันซ้าย หรือหันขวา คางบุบไปมั้ย เบี้ยวไปทางไหนมากกว่าหรือเปล่า ยิ้้มได้มั้ย ยิ้มแล้วปากเบี้ยวหรือเปล่า หมอดูละเอียดมาก หมอจะซ่อมจนหน้าเราดูปกติที่สุด (แต่บอกก่อนว่าคุณหมอจะไม่รับปากอะไรใดๆเราทั้งสิ้น แต่ขอให้เชื่อว่าแกทำเต็มสุดความสามารถ) ที่นี่คุณหมอจะผ่าแผลนอก ใต้คาง เพราะใกล้กับสิ่งที่จะเอาออกมากกว่าที่จะไปผ่าแผลในปาก (ถ้าผ่าแผลในปากต้องผ่าลงมาลึก และแผลอาจติดเชื้อได้ง่ายจากน้ำลายและอาหารที่เราทาน) หมอจะผ่าแผลเป็นรูปตัว U หรือเกือกม้า ทำให้แผลไม่ดูยาวจนเกินไป ซึ่งบางที่หมอจะกรีดยาวมาก ไปปรึกษามาแล้ว กลัวมากกก ถ้าแผลจะผาวขนาดนั้น คนทักแน่นอน) และแผลก็อยู่ใต้คาง มองไม่ค่อยเห็นด้วย เราใช้เวลาผ่า4-5 ชม. หมอพยามจะเอาออกให้ได้มากที่สุดและทำคางให้เข้ารูปมากที่สุด หลังผ่า หมอ follow up ตลอด เพราะที่นี่หมอจะใส่สายระบายเลือด น้ำเหลืองให้ด้วย จึงทำให้ไม่บวมนานเท่าที่อื่น หลังทำหมอก็ไลน์ถามโทรถาม นัดมาดูแผลล้างแผลตลอด (เราเชื่อว่าไม่มีคลีนิกไหนดูแลดีขนาดนี้แน่นอนค่ะ) ส่วนคนไหนที่อยากจะแก้และเสริมด้วย คุณหมอก็ทำให้ได้นะคะ แต่ที่นี่หมอจะทำให้สวย สมส่วนดูเป็นธรรมชาติ เข้ากับหน้าเรามากที่สุด ใครที่ชอบแบบเกินจริง หน้าชัดๆปังๆโป๊ะๆ ขอให้ผ่านเลยค่ะ แล้วก็ขอให้คนที่จะแก้ทำใจไว้ด้วย การฉีดฟิลเลอร์ที่เราไม่มีทางรู้ได้ว่าจริงหรือปลอม ถึงแม้ว่าเราจะเห็นขวดยี่ห้อนั้นก้เถอะ อย่าไปเชื่อ 100% ค่ะว่ามันจะสลาย การฉีดฟิลเลอร์เหมือนการที่เราเทเกลือลงไปในทราย จะให้หยิบเกลือออกมาได้หมด 100% คงเป็นไปไม่ได้ แต่ขอให้กลับมาใกล้เคียงเดิม ไม่เน่า ไม่เฟะ ไม่เละ ปากไม่เบี้ยว จิตใจไม่เป็นทุกข์ ก็ถือว่าโชคดีมากๆแล้วละค่ะ คลีนิกที่เราไปทำชื่อว่ามัณฑนาคลีนิก อยู่ตรงลาดพร้าว 35/2 คุณหมอเจ้าของที่เป็นคนทำให้ชื่อ คุณหมอประวิทย์นะคะ เป็นหมอศัลยกรรมพลาสติกโดยตรง คุณหมอจบจากศิริราชค่ะ คลีนิกนี้ ถ้าคนเข้าไปเห็นอาจจะตกใจว่าดูเปนคลีนิกธรรมดามากๆ เจ้าหน้าที่ก็ไม่มี มีแค่คุณหมอกับภรรยา ช่วยกันดูแลอยู่แค่สองท่าน เพราะจะบอกว่าคลีนิกคุณหมอไม่มีการทำการตลาดใดๆ มีแค่เพียงเวบไซต์ของคลีนิกที่ให้ข้อมูลการศัลยกรรมเท่านั้น แต่จะบอกว่าฝีมือคุณหมอสุดยอดจริงๆ คลีนิกคุณหมออยู่ได้ เพราะปากต่อปากล้วนๆ แล้วงานคุณหมอมากกว่า 50% เป็นงานแก้ของคนที่ทำมาจากที่อื่นทั้งนั้น รวมไปถึงแก้งานเกาหลีด้วย เพียงแต่แกไม่เคยออกมาทำการตลาดใดๆให้ใครรู้ แล้วจะบอกว่าวันนึงคุณหมอก็ทำเพียงแค่วันละเคสเท่านั้น เพราะแกใส่ในในทุกรายละเอียด ตั้งใจ ค่อยๆทำ ไม่ต้องเร่งรีบร้อน เพื่อจะทำเวลาทำเงิน เหมือนกับหลายๆคลีนิกที่เคยเจอๆกัน หวังว่า ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่เป็นทุกข์อยู่ในขณะนี้นะคะ


สุดท้ายนี้ขอให้คุณหมอและครอบครัวได้ประสบแต่สิ่งที่ดีๆอันเกิดจากบุญกุศลที่คุณหมอได้ทำให้ใครหลายๆคนพ้นทุกข์นะคะ



สำหรับในส่วนของจมูกและวิตามินลดบวมหลังทำศัลยกรรม เราจะมาต่อในวันพรุ่งนี้นะคะ ใครอยากสอบถามอะไรก็โพสต์ไว้นะคะ เดี๋ยวว่างจะมาทยอยตอบให้ค่ะ


ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ ขอให้สวยๆหล่อๆกันทุกคนเลยนะคะ
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-4-24 09:09:49 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
วันนี้ขอมาพูดถึงวิตมินที่ช่วยลดอาการบวมหลังทำศัลยกรรม
คือจะบอกไปแก้จมูกมา (เดี๋ยวมาเล่าเรื่องแก้จมูกอีกทีนะคะ) แล้วหลังทำก้หน้าบวมเปนเรื่องธรรมดาใช่ปะคะ แต่ด้วยความจิตตก เพราะเป็นคนบวมนานกว่าชาวบ้านอยู่แล้ว บวมเป็นเดือนๆ ทีนี้เลยนั่งเสิชว่าจะมีอะไรที่กินแล้วลดบวมเร็วได้มั่ง ทั่วๆไปที่กินกันก้จะมียาที่ชื่อว่า danzen แต่เอาจริงๆกินมาหลายทีละก้ไม่ค่อยรู้สึกว่ามันได้ผลซักเท่าไหร่ เหมือนช่วยเรื่องจิตใจมากกว่า แล้วก้จะมี reparil แบบเม็ด อันนี้แพงขึ้นมานิดนึง ก้พอช่วยได้ดีกว่า danzen แต่ก้ไม่เริ่ดเลออะไร แล้วก้จะมีการกินอาหารต่างๆช่วย เช่น ฟักทอง ถั่วดำ น้ำมะพร้าว ใบบัวบก อะไรทำนองนี้ แต่เสิชไปเสิชมา ก็มาเจอวิตมินอยู่ตัวนึง ก็เลยสั่งมาลองดู เพราะก้ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว สั่งมาสองกล่อง เพราะคิดว่ากล่องเดียวไม่น่าพอ ไม่น่าจะทำให้เหนผลได้ภายในกล่องเดียว พอได้ของก้อัดเลยจ้า เช้า 2 เม็ด เย็น 2 เม็ด (เปนเม็ดแคปซูลสีขาว) วันจันไปเจอหมอ follow อาการ (ยังไม่ได้กิน) พอวันศุกกลับไป follow อาการอีกที ทั้งหมอและภรรยาหมอทักเลย ว่ายุบเร็วมากกกก เพราะวันจันยังบวมมากก โดยเฉพาะตรงหว่างตา กินไปสองอาทิตย์ หน้ากลับมาใกล้เคียงปกติมากกกกก ถ้าไม่สังเกตจะดูไม่ค่อยออกว่าบวม คือดีมากกก ประทับใจกับวิตมินตัวนี้มากกก จริงๆดูส่วนประกอบก็แลดูเปนวิตมินทั่วๆไป อย่างละนิดละหน่อย แต่พอมาผสมรวมกัน ลองกินดู เออ แบบก็ดีนะ หน้าใสขึ้นนิดนึงด้วย ลองไปเสิชดูกันเองนะคะ เพราะอันนี้ลองกินเอง ดีเลยมาบอกต่อ ไม่ได้ค่าโฆษณา หรือค่ารีวิวใดๆทั้งสิ้น ตัวที่กินชื่อว่า VIKA นะคะ ขอให้หายไวๆกันทุกคนเลยนะคะ ^^
ขอบคุนสำหรับคำแนะนำนะคะ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้