รีวิวทำจมูกที่ Pmed แบบละเอียดยิบ

wanida.song

ก่อนเราตัดสินใจทำจมูกก็ตัดสินใจอยู่นานมากๆ ค่ะว่าจะทำดีมั้ย เพราะเป็นคนที่กลัวเรื่องการผ่าตัดอยู่แล้ว แล้วก็กลัวหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นผลข้างเคียงหรือหลังทำออกมาแล้วกลัวไม่สวย กลัวติดเชื้อ กลัวซิลิโคนทะลุบ้าง คิดไปต่างๆ นานา เนื่องจากเห็นรีวิวในด้านลบมาเยอะ แต่มีรุ่นพี่ เพื่อนและน้องที่รู้จักไปทำกัน ทุกคนสวยและดูดี น่ารักขึ้นมากๆ เค้าก็เชียร์ให้เราไปทำบ้าง ทนเจ็บแค่แปปเดียวเอง เดี๋ยวก็สวย มันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ทุกคนพูดแบบนี้ ดังนั้นคนรอบข้างเรานี่แหละค่ะที่เป็นแรงบันดาลใจให้เราตัดสินใจทำศัลยกรรมจมูก แล้วก็เป็นการศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิตด้วยค่ะ

ภาพก่อนทำค่ะ


มีบางคนก็ทักว่าไม่ต้องไปทำหรอกแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว แต่เราคิดว่าเราอยากมีจมูกสวยๆปลายหยดน้ำ แล้วก็อยากให้จมูกดูเล็กเรียวขึ้น เพราะปกติไม่มีสันด้านบนเลย จะมีสันตั้งแต่ตรงกลางจมูกลงมาเพราะมีฮัมพ์สูง แต่ปลายจมูกก็ดูใหญ่ๆ เป็นคนมีเนื้อจมูกเยอะ จมูกชมพู่ ปีกจมูกใหญ่ จมูกเชิดด้วยค่ะ ก็เลยตัดสินใจมาปรึกษาคุณหมอต้นหรือคุณหมอปิยพลที่ PMED Clinic ค่ะ คือจริงๆ แล้วเราติดตามรีวิวการทำจมูกของหลายคลินิคมากค่ะ รวมถึง PMED Clinic ด้วย แล้วเราเองก็เห็นทรงจมูกที่หมอต้นทำแล้วชอบค่ะ ดูรีวิวคนไข้ของคุณหมอ จะเห็นว่าคนไข้ที่เคยทำจมูกมาก่อนก็มาแก้จมูกกับคุณหมอต้นเยอะมาก หลายคนบอกคุณหมอมือเบามาก รวมถึงเทคนิคที่หมอต้นใช้คือการใช้ซิลิโคนร่วมกับกระดูกอ่อนหลังหู ซึ่งเราคิดว่าส่งผลดีกับจมูกทรงหยดน้ำที่จะไม่ทำให้ปลายจมูกบางและทะลุในภายหลัง ก็เลยตัดสินใจมาปรึกษาคุณหมอต้นค่ะ

คุณหมอบอกว่าเราเป็นคนที่หน้าทั้งสองข้างไม่เท่ากัน หมายถึงด้านซ้ายและด้านขวาไม่เท่ากัน และสันจมูกก็เอียงไปข้างนึงมากกว่า เป็นสิ่งที่เราไม่เคยสังเกตมาก่อนว่าจมูกของเราแกนเอียง จมูกมีฮัมพ์ยกสูง ปลายจมูกเนื้อเยอะ ปีกจมูกค่อนข้างใหญ่ คุณหมอแนะนำว่าถ้าเสริมจมูกก็จะเสริมให้แกนจมูกดู balance กัน อย่างที่บอกฮัมพ์เรายกสูง จึงต้องตะไบฮัมพ์ออกประมาณ 2 mm คุณหมอบอกว่าไม่อยากตะไบให้เยอะ เพราะหากวันนึงเราต้องการเอาซิลิโคนออกอย่างน้อยเราก็ยังพอมีสันจมูกเดิมอยู่บ้าง ถ้าตะไบออกเยอะจะทำให้ดูแหมบไปเลยค่ะ และเคสเราไม่ต้องตัดปีกจมูก คุณหมอแก้โดยการเย็บยกปีกจมูกและแต่งเนื้อจมูกให้ดูเรียวเล็กจากด้านในค่ะ คุณหมอใจดีและเป็นกันเองมาก  หลังจากที่ปรึกษากับคุณหมอแล้วก็คิดว่าอยากทำเพราะรู้สึกมั่นใจในฝีมือของคุณหมอ แต่ยอมรับว่าใช้เวลาตัดสินใจอยู่หลายวันเหมือนกัน เพราะยังกลัวอยู่มาก แต่ก็อยากสวยเลยจองคิวนัดวันผ่าตัดเลยค่ะ
        เราได้คิวผ่าตัดช่วงเช้า วันนั้นตื่นเต้นและกลัวมากๆ แต่พยายามไม่คิดอะไร ทำใจให้สบาย ก่อนที่จะมาทำก็ไม่ดูรีวิวอะไรทั้งนั้นค่ะ เพราะกลัวว่าตัวเองจะคิดมาก เรามาถึงคลินิคก่อนเวลาชั่วโมงนึง เผื่อเวลารถติดบวกกับตื่นเต้นจัด มาถึงพี่ที่คลินิคก็ให้เวลาเราไปทำธุระให้เรียบร้อยก่อนเข้าห้องผ่าตัด พี่ๆ ใจดีทุกคนค่ะ อันดับแรกพี่เค้าจะวัดความดัน พาเราไปเล็มขนจมูกก่อนค่ะ หลังจากนั้นให้ล้างหน้า เปลี่ยนชุด ทานยาแก้ปวดและแก้อักเสบ และนั่งรอคุณหมอพักนึงค่ะ พอคุณหมอมาถึงคลินิคคุณหมอจะคุยกับเราเพื่อถามความต้องการของเราอีกครั้งนึงค่ะว่าอยากได้แบบไหนประมาณไหน คุณหมอบอกว่าของเราจะได้ทรงแนวญี่ปุ่นมากกว่า เราก็โอเคค่ะ หลังจากนั้นเราก็เข้าไปในห้องผ่าตัด ยอมรับว่าตอนนั้นตัวเย็นมากกลัวสุดชีวิต ขึ้นเขียงครั้งแรก ใจเต้นรัวมากๆ พี่ผู้ช่วยก็เช็ดทำความสะอาดหูและจมูกให้ค่ะ ติดเครื่องวัดความดัน เค้าถามว่าจะเอาหูข้างไหนเราเลือกข้างซ้ายค่ะ เพราะติดชอบทัดผมที่หูข้างขวา สักพักคุณหมอเข้ามาแบบชิลล์มาก อารมณ์ดีมากค่ะ ชวนพี่ผู้ช่วยคุยบ้างชวนเราคุยบ้าง

wanida.song

และแล้วการผ่าตัดก็เริ่มขึ้น คุณหมอจะให้เราเอียงหูข้างที่จะให้ผ่าโดยมีผ้าคลุมไว้เหลือแต่หู มีชวนเราคุย
คุณหมอฉีดยาชาที่หูเราแบบไม่ทันตั้งตัวเลยค่ะ โดนไปสามเข็ม ถามว่าเจ็บมั้ย ก็เจ็บนึดนึงนะคะ แต่ก็เฉพาะตอนฉีดยาชาจริงๆ ค่ะ หลังจากยาชาออกฤทธิ์ผ่านไปประมาณ 5 นาที คุณหมอเริ่มผ่าและเลาะเอากระดูกอ่อนหลังหูเรามาเพื่อใช้เสริมปลายจมูกหยดน้ำค่ะ เรารู้สึกตัวตลอดแต่ไม่เจ็บนะคะ หลังจากนั้นคุณหมอก็เริ่มผ่าจมูกต่อค่ะ โดนยาชาไปหลายเข็มเหมือนกันค่ะ คุณหมอบอกจมูกเรายาว ระหว่างฉีดยาชาคุณหมอถามตลอดว่าเจ็บมั้ยๆ คุณหมอก็แซวว่าน้ำตาไหลเลย ยอมรับค่ะว่าเจ็บเฉพาะตอนฉีดยาชา เคสเราน่าอายมาก เรากลัวตื่นเต้นจัดจนความดันขึ้นสูงเครื่องร้องเตือนเสียงดังเลยค่ะ คุณหมอบอกจะกลัวอะไรขนาดน้านนน พี่ๆ หน้าเคาน์เตอร์ก็วิ่งมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ความจริงไม่มีอะไรเลยค่ะ เพียงแต่เราไม่เคยผ่าตัดหรือทำอะไรแบบนี้มาก่อน มันก็เลยกลัวคิดมาก จินตนาการไปไกล เราก็เลยถามว่าทำยังไงให้ความดันลดดีคะ 555 คุณหมอและพี่ผู้ช่วยบอกทำใจให้สบายหายใจเข้าลึกๆ ค่ะ การผ่าตัดดำเนินไปด้วยดี คุณหมอฮัมเพลงระหว่างการผ่าตัดทำให้บรรยากาศดูชิลล์ขึ้น คุณหมอบอกตลอดว่ากำลังทำอะไร ให้กำลังใจตลอดว่าใกล้เสร็จแล้วอีกนิดเดียวจะสวยแล้ว เคสเราผ่าตัดค่อนข้างนานค่ะ เพราะเป็นเคสที่ไม่เคยทำมาก่อนและต้องทำหลายจุด ต้องใช้เวลาตะไบฮัมพ์ เย็บยกปีกจมูกด้วย  สรุปแล้วใช้เวลาผ่าตัดประมาณชั่วโมงครึ่ง คุณหมอบอกเคสนี้พิเศษเลยนะเนี่ยนานกว่าปกติ อาจเพราะความดันขึ้นด้วยรึป่าวไม่รู้ 555 แต่คุณหมอทำแบบไม่เร่งรีบค่ะดูใส่ใจในรายละเอียดมากๆ หลังจากผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย คุณแม่ของคุณหมอก็มาช่วยดูแลประคบเย็นพร้อมบอกวิธีการดูแลให้อย่างดีค่ะ หลังประคบเย็นเสร็จเรียบร้อยก็รับยาและกลับบ้านได้เลยค่ะ

ทำมาวันแรกไม่ค่อยบวมช้ำเลยค่ะ คุณหมอมือเบาจริงๆ ผ่านไปประมาณอาทิตย์นึงอาการบวมช้ำก็จะหายไป แต่ต้องทานยาตามที่คุณหมอให้อย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ ภาพด้านล่างนี้ก็ 1 สัปดาห์แล้วค่ะ


อยากบอกเพื่อนๆ ว่าสำหรับคนที่กลัวเจ็บ อย่าเพิ่งกลัวไปนะคะ เพราะขนาดคนขี้กลัวสุดๆ แบบเราก็มาทำแล้วน้าและผลก็เป็นที่น่าพอใจมากๆ ด้วยค่ะ ผ่านไป 3 อาทิตย์แล้วเริ่มชอบทรงจมูกตัวเองแล้วค่ะ ถึงแม้จะยังไม่เข้าที่และยังบวมอยู่บ้าง แต่แต่งหน้าออกมาดูสวยขึ้นกว่าเมื่อก่อนแล้วค่ะ


พอผ่านมาสองเดือนก็สวยแล้วค่ะ ยุบดีแล้ว สวยแล้วเนอะ หลายคนทักว่าหน้าเปลี่ยนไปดูหวานขึ้น บ้างก็ชมว่าสันจมูกสโลปเข้ากับปลายหยดน้ำสวย จนอยากไปทำตามๆ กันแล้วค่ะตอนนี้ ต้องขอบคุณคุณหมอต้นที่ช่วยให้เรามีจมูกที่สวยขึ้นทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นด้วยค่ะ


ภาพก่อนและหลังทำค่ะ