ดู: 3772|ตอบกลับ: 9

[เสริมคาง] รีวิวเสริมคาง ยศยาคลินิค

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย dnbu1991 เมื่อ 2014-8-26 16:28

     ผมไม่ได้ตื่นเต้น หรือกลัวในการเจ็บตัวในการทำศัลยกรรมเลย เพราะผมขอแค่ทำออกมาละผมดูดีที่สุดก็พอ เพราะ ผมต้องใช้หน้าตาในการทำงาน ถึงต้องแลกมาด้วยการเจ็บตัวก็ยอม ผมหาข้อมูลในการทำศัลยกรรมนานมาก ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย แต่ก็รู้สึกกลัวๆอยู่เหมือนกัน ผมไม่เคยศัลยกรรมมาก่อน ไม่เคยทีแผลถึงกับต้องเย็บ และก้ไม่อยากมีแผลศัลยกรรมไปเรียน (อายเพื่อนอะ) จนถึงเวลาที่พร้อมทุกอย่าง ผมเก็บรวบรวมข้อมูลอยู่นาน สนใจหลายๆที่ ก็ลองไปปรึกษาดู ผมอยากปรับทรงจมูกให้เรียว ให้ฐานแคบลง กับเสริมคาง ผมก้ไปปรึกษาตามคลีนิคต่างๆ บางที่ก็ไล่กลับ บอกจมูกสวยดีอยู่แล้ว โดนหมอไล่จนลืมปรึกษาเรื่อง เสริมคาง ... จนผมเปิดหาข้อมูลเพื่อหาหมอที่เก่งด้านปรับฐานจมูกได้ และก้จะได้ปรึกษาเสริมคางไปพร้อมกันเลย ก็ได้มาเจอยศยาคลีนิค ผมได้ไปปรึกษากับหมอเรื่องจมูก คุณหมอก็อธิบายเกี่ยวกับการทำว่า ต้องใช้เทคนิคค่อนข้างยาก ราคาสูง ผมจึงเลือก เสริมคางก่อน เพราะเป็นปมปัญหาในใจมากกว่าจมูก เพราะผมค่อนข้างพอใจทรงและความโด่งของจมูกผม แต่แค่อยากปรับนิดหน่อย ที่คลินิค มี ซิลิโคน2แบบให้เลือก คือจาก เกาหลี และ US เนื้อค่อนข้างต่างกันมาก ของเกาหลีจะแข็งกว่า แต่ของUS นิ่มกว่ามาก แต่ราคาก็ต่างกัน ของเกาหลี 25,000บ และของ US 35,000บ. พี่เค้าก็แนะนำให้ผมเอา US ไปเลย เพราะอยู่กับเราตลอด ไม่ต้องเสี่ยงกับการแก้ ผมก้อยากได้ US นะ แต่ราคา35,000 สำหรับการเสริมคางถือว่าแพงมาก เพราะจากที่หาข้อมูลมา ราคาที่พอใจ ประ 20,000-25,000เท่านั้น ก้เลยบอกพี่เค้าไปว่า อยากได้ US นะ แต่ราคาสู้ไม่เกิน 30,000จิงๆ ที่ผมเลือกซิลิโคนแบบ US เพราะผมมองว่าการเสริมคางปัญหาที่ผมเคยหาข้อมูลเจอคือความแข็งของซิลิโคน จับแล้วมันรู้สึกไม่ธรรมชาติ ผมจึงต้องการความนิ่มแบบ US ก็ตกลงกันอยู่นาน พี่เค้าบอกว่าไม่ได้จิงๆ เพราะที่นี่ผ่าตัดแบบวางยาสลบ ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่า และ ดูอุปกรณ์ทุกอย่างอย่างดี จะใส่ใจรายละเอียดเรื่องความสะอาดมากเพื่อป้องการติดเชื้อของคนไข้ ทุกอย่างก่อนถึงวันนัดจะผ่านการฆ่าเชื้อจากโรงพยาบาลก่อน เราก็เข้าใจนะ และรู้สึกดีมากในการใส่ใจ เพราะเรากลัวมากเราเห็นคลีนิคหนึ่งที่กำลังมีปัญหาโด่งดังขณะนี้ ที่ทำกับคนไข้ไว้ไม่ดีหลายๆอย่าง ทั้งโกหกเรื่องกระดูกอ่อนในการทำ ทำคนไข้จมูกพังมาหลายราย แถมไม่รับผิดชอบ คลีนิคนี้เราก้เกือบไปมาละ เคยโทไปถามรายละเอียดมาด้วยซ้ำ แต่โชคดีมากที่ไม่ได้ไป แต่เราก้ติดใจในเรื่องราคา จนพี่เค้าขอ32,000 ได้มั้ย เรายืนยันว่าไม่ได้จิงๆ ก้คิดในใจว่าไม่ได้ก็ไม่เอา จนมีผู้จัดการเดินผ่านมาพอดี พี่เค้าจึงเรียกผู้จัดการมาคุย เพราะเค้าสามารถ ตัดสินใจอนุมัติราคาทุกอย่าง พี่เค้าพูดจาฉะฉาน หน้านิ่งๆแต่ได้ใจมาก เราก้คุยกันว่าผมสู้ได้เท่านี้จิงๆ พี่ผู้จัดการก้บอกว่าพี่ขอค่ายาหน่อยได้มั้ย เพราะทุนสูงกว่า การผ่าตัดแบบแค่ฉีดยาชาเฉยๆทั่วไป ผมถามว่าเท่าไร? ในใจผมคิดว่าสู้แค่500พอ แต่พี่เค้าตอบมา 1,000 เป็น 31,000บ . ปากผมตอบตกลงแบบอัตโนมัติไม่รู้ทำไม 5555 พี่เค้าจึงบอกพี่พนง. ให้ทำสัญญาวางมัดจำ นัดวันทำให้ผม ผมก้บอกมีเงินติดตัวมาแค่4,000นะ พี่เค้าตอบโอเค ก้วางแค่นั้น ผมรู้สึกโอเคกับพี่ผู้จัดการมาก คุยแบบง่ายๆ ใจๆ ..
ที่ผมเลือกทำที่นี่เพราะ 1.เรื่องความใส่ใจรายละเอียดในความสะอาด ทั้งสถานที่ และใส่ใจเรื่องการติดเชื้อของผู้ใช้บริการ
2.เรื่องการบริการที่ใส่ใจผู้ใช้บริการมาก คอยโทรถาม และตาม คนไข้ตลอดว่าปัญหาหรือไม่
3.ที่ยศยาคลีนิค รับผิดชอบหากเกิดการผิดพลาดใดๆ และแก้ไขให้จนกว่าเราจะพอใจ แต่ถ้าไม่พอใจเรื่อรูปทรงอาจต้องเสียต่าเปิดเคสอีกแค่นิดหน่อย

-ถึงวันผ่าตัด ผมก้เปลี่ยนชุด คลีนหน้า บ้วนปากที่ทางคลีนิคเตรียมให้ ... และนอนรอคุณหมอมาถ่ายรูป และคุยเรื่อง ทรง นี่คือรูปที่ใช้เป็นแบบ
1.ผมไม่ต้องคางใหญ่ กว้าง ขอเรียวตามทรงปกติ
2.มองจากมุมข้างแล้วคางดูมีมิติยื่น ไปข้างหน้าหน่อย เพราะผมคางหลบ เมื่อมองจากมุมข้าง แต่มองหน้าตรงก้ดูไม่สั้น
คุณหมอบอกว่าให้เราผ่าตัดแผลนอกปากนะ เพราะกลัวเรื่องการติดเชื้อ แผลในปากจะติดง่ายมาก เพราะเราจัดฟันด้วย เราก้โอเค เพราะแผลทายาเด๋วก็หาย กลัวแผลติดเชื้อมากกว่า

 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-26 16:02:11 | ดูโพสต์ทั้งหมด
พอเสร็จก็เข้าห้องผ่าตัด ผมยังคงปกติไม่กลัว ไม่ตื่นเต้นใดๆ พยาบาลผู้ช่วยก้ให้กินยาทั้งหมอ รู้สึกจะมียานอนหลับ ยาลดบวม แก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อ ประมานนี้ หลังจากนั้นก้นอนให้คุณหมอวัดคาง เพื่อเอาไปเหลาซิลิโคน จากนั้นพยาบาลก้มาฉีด ยานอนหลับและยาแก้แพ้ น้ำเกลือ. เข้าเส้นอีกที และก้มีผู้ช่วยมาทายาฆ่าเชื้อทั่วหน้าอีกที ผมก้ยังเฉยๆนะ ยังไม่ง่วงจนพี่เค้าวัดความดัน ใส่เครื่องวัดอ๊อกซิเจนในเลือดเสร็จผมก้ไม่ง่วง ซักพักนึง พี่ก้ถามอีกว่าหลับยัง ผมตอบยัง ผมคิดในใจจะให้ผมหลับได้ไง เสียงเครื่องวัดชีพจรดังขนาดนี้ ตี๊ดๆๆๆ เหมือนในห้องผ่าตัดในโรงพยาบาล ถามิฝอีก 2-3ครั้งได้ ผมได้ยินเสียงทุกอย่าง ผมได้ยินเสียงหมอเข้ามา ตอนนั้นผมแอบบกลัวมาก กลัวจะลงมือก่อนผมหลับ ไม่นานผมก้ไม่รู้ตัวแล้ว ไม่รู้ตัวแม้กระทั่งตอนฉีดยาชา ที่ผมทราบมาว่าเจ็บนักหนา รู้สึกเหมือนตัวเองฝันไปแปปเดียว ละก้มาตื่นรู้สึกตัวตอนกำลังเย็บ แต่ไม่ความรู้เจ็บใดๆ เลย เมื่อเสร็จ พยาบาลก้เช็ดทำความสะอาดอีกรอบ ละพาย้ายไปนอนอีกห้องนึงให้ผมนอนพักและเอาเจลเย็นมาให้ผมประคบ ตอนแรกก็แอบดีใจไม่เจ็บไม่ปวด ไม่บวมเลย ผมนอนพักให้ร่างกายตื่นเต็มที่ เพราะจริงๆแล้วจะต้องมีญาติมารับ และไม่อนุญาติให้ขับรถมา แต่ผมก้ดื้อ ทั้งขับมาเองและไม่มีใครมารับ แหะๆก็ไม่มีใครว่างนี่หน่า ผมนอนพักไม่นอนผมก้สามารถกลับได้ ตอนแรกคิดว่าจะมึนกว่านี้ซะอีก แต่ไม่มึน ไม่ง่วงเลย
--- นี่คือภาพก่อนทำ และหลังจากผ่าตัดเสร็จทันที
image (1).jpeg
image.jpeg
ไม่บวม ไม่ปวดใดๆ ... แต่พอกลับถึงห้อง ยาชาเริ่มหมดฤทธิ์ งานเข้า ปวดแบบว่าทรมานมาก ทั้งๆที่ผมค่อนข้างทนความเจ็บปวดได้มาก แต่นี่ปวดมาก และตึงมาก ก้อัดยาแก้ปวด แก้อักเสบ และกินใบบัวบกอัดเม็ดเสริม กินคอลลาเจน ต่างๆ ประคบเย็นตลอดเวลาแต่ก็แทบไม่ช่วยให้ลืมความปวดเลย แต่ยังไม่มีอาการบวมใดๆ จนหลับไป
ภาพตอนถึงห้อง
image (3).jpeg
image (2).jpeg
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-26 16:06:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
--วันที่1
ตื่นมาปวดน้อยลงมากจนแทบไม่ค่อยรู้สึก แต่คิดไว้แล้วว่าต้องมีอาการบวมแน่นอน แต่ก็ผิดคาดไปเยอะ มีการบวมน้อยมาก บวมแค่ฝั่งเดียวจากรูปคือฝั่งซ้าวมือผม บวมจนมองจากรูปแทบไม่เห็นความแตกต่าง แต่จะรู้สึกได้ถึงความอักเสบ ปวดมากกว่าข้าวขวานิดหน่อย พอสัมผัสจะรู้ถึงอาการบวมเล็กน้อย ผมจึงเน้นประคบเย็นฝั่งนี้มากหน่อย เพื่อลดบวมและลดปวด และก็กินยาปกติ ทำความสะอาดแผล วันละ3ครั้ง
image (6).jpeg
image (7).jpeg


วันที่2
วันนี้คุณหมอนัดดูและแผล ผลค่อนข้างน่าพอใจ ไม่ปวดเลยซักนิด แต่ยังมีอาการบวมๆอยู่นิดหน่อย คุณก็ทำแผลให้ และนัดอีก5วันตัดไหม เด๋วจะเอาภาพทยอยมาให้ดูนะคับ
นี่คือภาพหลังจากพบคุณหมอเสร็จ ไม่ต้องปิดผ้าก๊อตแล้ว ติดแค่สติกเกอร์
image (5).jpeg

สสัยอะไรถามได้นะคับ เดี๊ยวผมมาตอบ
โพสต์ 2014-8-26 18:54:11 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เล่ารายละเอียดบ่อยๆนะคะ รูปด้วยค่ะ สนใจอยากทำแต่ไม่แน่ใจว่าจะไปทำที่ไหนดี
โพสต์ 2014-8-26 21:08:18 | ดูโพสต์ทั้งหมด
หายไวๆนะคะ ... สนใจอยากทำ แต่กลัวเจ็บค่ะ
โพสต์ 2014-9-4 17:18:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ผ่าใต้คางจะเป็นแผลเป็นไหมคะ

แสดงความคิดเห็น

เป็นนะคับ แต่มันอยู่ใต้คางกรอบหน้าพอดี ไม่ได้ชัด ผมไม่ปิดเลย ไม่มีใครรู้ด้วยว่าทำ ทายาคิดว่าไม่นานแผลร   โพสต์ 2014-9-8 19:38
เป็นนะคับ แต่มันอยู่ใต้คางกรอบหน้าพอดี ไม่ได้ชัด ผมไม่ปิดเลย ไม่มีใครรู้ด้วยว่าทำ ทายาคิดว่าไม่นานแผลร   โพสต์ 2014-9-8 19:38
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-9-8 19:35:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย nat-cha เมื่อ 2014-8-26 21:08
หายไวๆนะคะ ... สนใจอยากทำ แต่กลัวเจ็บค่ะ ...

เจ็บแค่วันแรกหลังยาชาหมดฤทธิ์อะคับ
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-9-8 19:37:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย nat-cha เมื่อ 2014-8-26 21:08
หายไวๆนะคะ ... สนใจอยากทำ แต่กลัวเจ็บค่ะ ...

เป็นนะคับ แต่มันอยู่ใต้คางกรอบหน้าพอดี ไม่ได้ชัด ผมไม่ปิดเลย ไม่มีใครรู้ด้วยว่าทำ ทายาคิดว่าไม่นานแผลรอยผ่าตัดเดี๊ยวคงหาย
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-9-8 20:15:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Image-1.jpg

นี่คือภาพปัจจุนัน เปรียบเทียบก่อน-หลัง ทำนะครับ
พอใจเป็นอย่างมาก คางออกมาเป็นธรรมชาติมา ตรงตามต้องการ
ทั้งหมด ทั้งรูปทรง ของมุมตรงและมุมข้าง ที่ช่วยทำให้หน้าผมดูมิติมาก
จากตอนแรกจะถ่ายรูปหันข้างไม่ได้เลยเพราะคางไม่มี ตอนนี้มั่นใจขึ้นมาก
และพอในอย่างมากเรื่อง อาการบวม หลังผ่าตัด ผมบวมน้อยมากแทบจะไม่บวมด้วยซ้ำ
ทำให้ไม่เป็นที่ผิดสังเกตุจากคนรอบข้าง ประมาน4วันผมก้ไม่ติดผ้าก๊อตแล้ว แผลใต้คางไม่มีใครสังเกต่ผมเป็นคนหน้า
เลย ไม่มีใครรู้เลย มีแต่คนทักว่าหน้าแปลกๆนะดูเล็กเรียว แต่ผมเป็นคนหน้าเล็กเรียวอยู่แล้ว ประกอบกับ นน.ลง ทำให้จมูก
โด่งชัดขึ้น จนทำให้บางคนทักว่าแอบบไปทำจมูกใหม่หรอ ผมก็หัวเราะทั้งๆที่ไปทำคาง แต่กลับกลายเป็นทักจมูกแทน ทั้งๆที่
จมูกก็ของแท้ดั้งเดิม ไม่เคยทำ แอบบกลัวมาตั้งนาน โชคดีมากที่ทำแล้วคุ้มครับ^^
โพสต์ 2014-10-30 14:21:12 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ดูดีมากค่ะ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้