|
แก้ไขล่าสุดโดย kurama เมื่อ 2010-5-13 23:28
ผมว่าการฉีดคอลลาเจนสำหรับเสริมจมูกไม่ค่อยได้รับความนิยมนะคับ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูน๊า พอดีพี่หมอสองของผมเค้าไปเกาหลีอ่าคับ เลยถามให้ม่ะได้ แต่เท่าที่ผมหามาได้ก็มีประมาณนี้
คอลลาเจน ( Collagen ) ส่วนใหญ่ใช้กับรอยยุบ หรือรอยร่องเล็กๆ ความปลอดภัยนั้นมีพอสมควร แต่ปัญหาที่อาจพบได้คืออาการแพ้สารคอลลาเจน เนื่องจากคอลลาเจนที่ใช้สกัดมาจากสัตว์ ทำให้แพ้ได้ในบางคน จำเป็นต้องฉีดทดลองดูก่อนว่าแพ้หรือไม่ก่่อนจะใช้จริงทุกราย นอกจากนี้คอลลาเจนที่ฉีดเข้าไปผลไม่ถาวร จะมีการสลายตัวจนหมดใน 3 - 6 เดือน ทำให้ต้องฉีดซ้ำตลอดทุก 3-6 เดือน และคอลลาเจนที่ได้รับการยอมรับให้ใช้ได้จาก อย. คือของอเมริกา ส่วนของไทยยังไม่ได้ให้การยอมรับ
สำหรับสารที่นิยมในการฉีดเพื่อเสริมส่วนต่างๆ ในร่างกาย และปลอดภัย คือ สารสังเคราะห์ กลุ่ม Hyaluronic acid (HA) หรือ Hyaluran มันเป็นสารกลุ่ม Glucoaminoglycans หรือสารประกอบน้ำตาลเชิงซ้อนที่มาเรียงต่อกันเป็นสาย ซึ่งปกติแล้วเป็นส่วนประกอบของผิวหนังของคนเราตามธรรมชาติอยู่แล้ว มีคุณสมบัติในการดึงดูดน้ำ ทำให้ผิวหนังอิ่มเอิบ ยืดหยุ่นชุ่มชื่น Hyaluronic acid เป็นสารธรรมชาติที่สกัดจนได้สารที่เหมือนสารในร่างกายมนุษย์ โดยในกลุ่มนี้มีสาร 2 ชนิด ที่มีการนำเข้ามาใช้ในประเทศไทย ได้แก่
1. B1 Hyaform gel (Bio Matrix , me, Ridgefield, NJ) จัดเป็นสาร HA กลุ่มแรกที่ผลิต โดยเป็นสารสกัดมาจากหงอนไก่ ด้วยเทคนิค Classical cross-link ในกลุ่มนี้จะมีสารที่ผลิตมาใช้ฉีดหลายยี่ห้อ เช่น Hyaform fineline, Hyaform, Hyaform plus โดยมีความเข้มข้นประมาณ 6 มก./ซีซี สามารถนำมาใช้ลดริ้วรอยใต้ตา, ร่องแก้ม และร่องลึกของบริเวณใบหน้า โดยที่ Hyalorm fineline ใช้สำหรับฉีดใต้ตา กลุ่ม Hyaform จะมีอายุนานประมาณ 4-6 เดือน หลังจากนั้นจะสูญสลายไป ต้องฉีดซ้ำ ใช้สำหรับฉีดร่องลึก
2. B2 Restylane (Q Med, Uppsala, Sweden) เป็นสารเติมเต็มตัวแรกที่ไม่ได้สกัดมาจากสัตว์ (Non-Animal Stabilized Hyarulonic Acid=NASHA) แต่สกัดมาจาก น้ำตาลที่ถูกย่อยโดยแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัส ด้วยเทคนิค Classical cross-link แบบ Minimal stabilizer ได้เป็นสาร Hyarulan Restlane มีความเข้มข้นสูงกว่า Hyaform โดยมีความเข้มข้น 20 มก./ซีซี ในปี ค.ศ. 2003 จึงได้มีการคินค้นกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่ สังเคราะห์ขึ้นเพื่อทดแทนคอลลาเจนในผิวที่เริ่มสูญเสีย ลงตามวัยโดยสารตัวนี้จะช่วยโอบอุ้มน้ำในผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นและกระชับขึ้นซึ่งชนิดที่ได้รับความนิยมคือ กลุ่ม Restylane ซึ่งปัจจุบันถือว่าสารเติมเต็มของตระกูลนี้ ได้รับความนิยมสูงสุด ทั้งในยุโรปและอเมริกา รวมทั้งในประเทศไทย เพราะเป็นยี่ห้อเดียวที่ผ่าน อย. ในเมืองไทยแล้ว
ซึ่งปัจจุบัน สารกลุ่ม Restylane ได้มีการพัฒนาให้มีหลายรุ่นและหลายประเภทขึ้น เพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน และรุ่นหลังๆ ก็มีการพัฒนาให้มีอายุให้นานขึ้น ดังนี้
1. Restylane : ตัวดั้งเดิม เหมาะสำหรับการฉีดเติมจมูก-รอยหลุม--ขมับ มีอายุอยู่ได้ 4-6 เดือน
2. Restylane Touch : เหมาะกับสำหรับเติมร่องตาลึกให้เต็ม ลดรอยดำคล้ำรอบดวงตา อยู่ได้ประมาณ 1 ปี
3. Perlane : เหมาะกับสำหรับเติมคาง เสริมจมูก ร่องแก้ม อยู่ได้ประมาณ 10-12 เดือน
4. Restylane Lipp: เหมาะกับสำหรับเติมริมฝีปากให้อวบอิ่ม อยู่ได้ประมาณ 1 ปี
5. Restylane Subcutaneous: เหมาะกับสำหรับเติมโหนกแก้ม ยกกระชับผิวหน้าให้เต่งตึง อยู่ได้ประมาณ 1 ปี หลังฉีดให้สัมผัสเหมือนผิวหนังตามธรรมชาติ ไม่แข็งเกินไป
ตอนนี้ที่ผมศึกษาและสนใจอยู่ก็คือเจ้า Perlane เนี๊ยะแหละคับ (อยากลองฉีดเสริมจมูกดูเหมือนกัน...แบบว่ายังม่ะกล้าใส่ิซิลิเท่าไหร่ เหอๆๆๆ) |
|