ดู: 5644|ตอบกลับ: 7
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

สงสัยเรื่องฉีดจมูกค่ะได้ราคามาถูกเลยยังไม่กล้าฉีด

[คัดลอกลิงก์]
คนรู้จักคะฉีดจมูกมาสวยมากเลยท๊ชนากานต์ คลินิก อยู่ตรงข้ามโลตัสพระราม2คะ เค้าบอกว่าฉีดคอลลาเจนมา ราคา1500-2000ไม่เกินนิ้คะลืมบอกคะว่าฉีดแค่ปลายแบบพอมีโหงวเฮ้งอ่ะคะ มันถูกไปไหมคะหรือราคาสมเหตุสมผลแล้วกลัวจะเป็นซิลิโคนเหลวอ่ะคะ ใครรู้จักและเคยไปบ้างมั้ยคะ อยากฉีดปลายจมูกมากเลยแต่เคยได้ยินว่าราคามันสูงกว่านี้รึป่าว รบกวนด้วยนะคะ{:16_1119:}

แสดงความคิดเห็น

เป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อ revanness ศึกษาดูก็ผ่านอย.น่ะ  โพสต์ 2012-6-5 15:48
เรา ฉีดมา 2 ซีซี 9000 สวยมากถามอยู่เหมือนกันว่าเป็นซิลิโคนเหลวหมอบอกว่า  โพสต์ 2012-6-5 15:44
แก้ไขล่าสุดโดย monman เมื่อ 2010-5-17 19:29

ราคาถูกเกินไป ต้องระวังนะคับ เเต่ถ้าฉีดเเค่ปลายก็ไม่ทราบเหมือนกัน ต้องพิจรณาดีๆนะคับ


หมอผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ซิลิโคน เหลวเป็นสารที่ฉีดออกมาช่วงปีเเรก จะสวยมากกก
โด่งได้รูป ธรรมชาติสุดๆ

เเต่หลังจากนั้น จะไหลไปสู่จุดอื่นๆ ใกล้บริเวณนั้นๆ ซึ่งยิ่งนาน ยิ่งยากเเก้การเเก้ไข
เเละเป็นอันตรายมากนะคับ

ต้นทุนของสารฉีดที่ปลอดภัยอยู่ที่ประมาณ cc.ละ10000 นะคับถูกกว่านี้ ควรพิจรณาด้วยคับ
ไม่มีคนฉีดที่ไหน ที่เวลาฉีดซิลิโคนเหลวเเล้ว บอกซิลิโคนเหลวนะคับ
ร้อยทั้งร้อย อ้างคลอลาเจนทั้งนั้นคับ
ตอบกลับ  kurama


    หา หมอนพรัตน์ ไปเกาหลีเหรอครับๆๆๆๆ
เ ...
ต้นฉบับโพสต์โดย yonan เมื่อ 2010-5-15 01:31



    เหอๆๆๆ คนละสองกันแล้วง่า ของผมแพทย์หญิงดาลัด พิสุทธิวงศ์ (หมอสอง) เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงามอ่าคับ ม่ะใช่ศัลยกรรม ขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิดเน้อ
ตอบกลับ 4# kurama


    หา หมอนพรัตน์ ไปเกาหลีเหรอครับๆๆๆๆ
เมื่อไรละครับเนี้ยย
แก้ไขล่าสุดโดย yonan เมื่อ 2010-5-15 01:30

ของถูก หาดีไม่ค่อยมีหรอกครับ
และการฉีด ก้อไม่ใช่วิธี ที่ดีเท่าไร
ไม่คุ้ม และ ไม่นาน
แก้ไขล่าสุดโดย kurama เมื่อ 2010-5-13 23:28

ผมว่าการฉีดคอลลาเจนสำหรับเสริมจมูกไม่ค่อยได้รับความนิยมนะคับ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูน๊า พอดีพี่หมอสองของผมเค้าไปเกาหลีอ่าคับ เลยถามให้ม่ะได้ แต่เท่าที่ผมหามาได้ก็มีประมาณนี้

คอลลาเจน ( Collagen ) ส่วนใหญ่ใช้กับรอยยุบ หรือรอยร่องเล็กๆ ความปลอดภัยนั้นมีพอสมควร แต่ปัญหาที่อาจพบได้คืออาการแพ้สารคอลลาเจน เนื่องจากคอลลาเจนที่ใช้สกัดมาจากสัตว์ ทำให้แพ้ได้ในบางคน จำเป็นต้องฉีดทดลองดูก่อนว่าแพ้หรือไม่ก่่อนจะใช้จริงทุกราย นอกจากนี้คอลลาเจนที่ฉีดเข้าไปผลไม่ถาวร จะมีการสลายตัวจนหมดใน 3 - 6 เดือน ทำให้ต้องฉีดซ้ำตลอดทุก 3-6 เดือน และคอลลาเจนที่ได้รับการยอมรับให้ใช้ได้จาก อย. คือของอเมริกา ส่วนของไทยยังไม่ได้ให้การยอมรับ

สำหรับสารที่นิยมในการฉีดเพื่อเสริมส่วนต่างๆ ในร่างกาย และปลอดภัย คือ สารสังเคราะห์ กลุ่ม Hyaluronic acid (HA) หรือ Hyaluran มันเป็นสารกลุ่ม Glucoaminoglycans หรือสารประกอบน้ำตาลเชิงซ้อนที่มาเรียงต่อกันเป็นสาย ซึ่งปกติแล้วเป็นส่วนประกอบของผิวหนังของคนเราตามธรรมชาติอยู่แล้ว มีคุณสมบัติในการดึงดูดน้ำ ทำให้ผิวหนังอิ่มเอิบ ยืดหยุ่นชุ่มชื่น Hyaluronic acid เป็นสารธรรมชาติที่สกัดจนได้สารที่เหมือนสารในร่างกายมนุษย์ โดยในกลุ่มนี้มีสาร 2 ชนิด ที่มีการนำเข้ามาใช้ในประเทศไทย ได้แก่

1. B1 Hyaform gel (Bio Matrix , me, Ridgefield, NJ) จัดเป็นสาร HA กลุ่มแรกที่ผลิต โดยเป็นสารสกัดมาจากหงอนไก่ ด้วยเทคนิค Classical cross-link ในกลุ่มนี้จะมีสารที่ผลิตมาใช้ฉีดหลายยี่ห้อ เช่น Hyaform fineline, Hyaform, Hyaform plus โดยมีความเข้มข้นประมาณ 6 มก./ซีซี สามารถนำมาใช้ลดริ้วรอยใต้ตา, ร่องแก้ม และร่องลึกของบริเวณใบหน้า โดยที่ Hyalorm fineline ใช้สำหรับฉีดใต้ตา กลุ่ม Hyaform จะมีอายุนานประมาณ 4-6 เดือน หลังจากนั้นจะสูญสลายไป ต้องฉีดซ้ำ ใช้สำหรับฉีดร่องลึก

2. B2 Restylane (Q Med, Uppsala, Sweden) เป็นสารเติมเต็มตัวแรกที่ไม่ได้สกัดมาจากสัตว์ (Non-Animal Stabilized Hyarulonic Acid=NASHA) แต่สกัดมาจาก น้ำตาลที่ถูกย่อยโดยแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัส ด้วยเทคนิค Classical cross-link แบบ Minimal stabilizer ได้เป็นสาร Hyarulan Restlane มีความเข้มข้นสูงกว่า Hyaform โดยมีความเข้มข้น 20 มก./ซีซี ในปี ค.ศ. 2003 จึงได้มีการคินค้นกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่ สังเคราะห์ขึ้นเพื่อทดแทนคอลลาเจนในผิวที่เริ่มสูญเสีย ลงตามวัยโดยสารตัวนี้จะช่วยโอบอุ้มน้ำในผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นและกระชับขึ้นซึ่งชนิดที่ได้รับความนิยมคือ กลุ่ม Restylane ซึ่งปัจจุบันถือว่าสารเติมเต็มของตระกูลนี้ ได้รับความนิยมสูงสุด ทั้งในยุโรปและอเมริกา รวมทั้งในประเทศไทย เพราะเป็นยี่ห้อเดียวที่ผ่าน อย. ในเมืองไทยแล้ว
ซึ่งปัจจุบัน สารกลุ่ม Restylane ได้มีการพัฒนาให้มีหลายรุ่นและหลายประเภทขึ้น เพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน และรุ่นหลังๆ ก็มีการพัฒนาให้มีอายุให้นานขึ้น ดังนี้
1. Restylane : ตัวดั้งเดิม เหมาะสำหรับการฉีดเติมจมูก-รอยหลุม--ขมับ มีอายุอยู่ได้ 4-6 เดือน
2. Restylane Touch : เหมาะกับสำหรับเติมร่องตาลึกให้เต็ม ลดรอยดำคล้ำรอบดวงตา อยู่ได้ประมาณ 1 ปี
3. Perlane : เหมาะกับสำหรับเติมคาง เสริมจมูก ร่องแก้ม อยู่ได้ประมาณ 10-12 เดือน
4. Restylane Lipp: เหมาะกับสำหรับเติมริมฝีปากให้อวบอิ่ม อยู่ได้ประมาณ 1 ปี
5. Restylane Subcutaneous: เหมาะกับสำหรับเติมโหนกแก้ม ยกกระชับผิวหน้าให้เต่งตึง อยู่ได้ประมาณ 1 ปี หลังฉีดให้สัมผัสเหมือนผิวหนังตามธรรมชาติ ไม่แข็งเกินไป


ตอนนี้ที่ผมศึกษาและสนใจอยู่ก็คือเจ้า Perlane เนี๊ยะแหละคับ (อยากลองฉีดเสริมจมูกดูเหมือนกัน...แบบว่ายังม่ะกล้าใส่ิซิลิเท่าไหร่ เหอๆๆๆ)
ใส่แบบแท่งดีกว่านะ จะได้ไม่ต้องมาตามแก้ทีหลังอีกอันตรายด้วย ฉีดอันตรายกว่ามากทีคิดนะ
ฟังดูอันตรายจังเลยค่ะ...ส่วนตัวโบว์ไม่คิดว่าการฉีดเป็นวิธีที่ดีเลยค่ะ
ไม่ว่าจะถูกหรือแพง...นี่เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวนะคะ

รอพี่ๆที่มีความรู้ว่ามาตอบดีกว่าค่ะ{:13_838:}
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้