|
วันที่ 2 เริ่มล้างแผล ใช้คัตเติลบัทชุบน้ำเกลือล้าง ล้างแบบเบามือคับ กลัวเจ็บ ล้างอยู่นานมากแต่รู้เลยว่าไม่ค่อยสะอาด (อย่าทำตามนะ อดทนๆ อยากดูดีต้องอดทน) วันนี้คุณแม่ซื้อน้ำใบบัวบกให้คับลดอาการช้ำใน วันนี้จมูกไม่ค่อยบวมกินยาลดบวม ยาฆ่าเชื้อตามปกติคับ กินต่อเนื่อง 7 วัน
วันที่ 3 ไอซ์ไปที่คลินิกคับเพื่อเอาท่อระบายเลือดออก
วันนี้หน้าไม่ค่อยบวมคับ ตอนเอาออกก็ไม่เจ็บคับ แค่น้ำตาคลอเฉยๆ
วันที่ 4จมูกบวมมากคับเพราะไอซ์นอนเยอะ จิงๆ ต้องพยายามลุกเดินบ้างนะคับ หน้าจะได้ไม่บวม
วันนี้ไอซ์ล้างหน้าละคับ ให้คุณแม่ล้างให้
ใช้ฟองน้ำเช็ด อย่าให้น้ำโดนแผลนะคับ จากนั้นหน้าไอซ์ก็ยุบลงเรื่อยๆ แต่จมูกยังดูใหญ่อยู่ วันที่ 5-6 หน้าก็ยุบลงเรื่อยๆ ไอซ์ตัดไหมวันที่ 4 พ.ค. 2556
วันที่ 4 พ.ค. 2556 วันตัดไหม
ไอซ์ไปคลินิกกับคุณแม่ ประมาณบ่าย 3 ก็เข้าห้องตัดไหม พี่พนักงานเป็นคนตัดให้ ตัดไหมเสร็จคุณหมอก็มาดูจมูก จับๆดู ปรากฏว่ามีเลือดค้างอยู่ในจมูก คุณหมอเลยบอกให้เจาะออกคับ ไม่งั้นจมูกจะบวมอยู่ 1-2 เดือน หรืออาจติดเชื้อได้ ตอนแรกไอซ์ไม่ยอมเจาะหรอกคับ กลัวเจ็บ คุณแม่เลยบอกให้รีบทำรีบเสร็จจะได้ดูแลตัวเองทีเดียว เลยตัดสินใจเจาะคับ
คุณหมอใช้เข็มเจาะบริเวณสันจมูกเพื่อดูดเลือดที่คลั่งออก แต่มันไม่ยอมออกน่ะสิคับ เจ็บมากกกถึงมากที่สุด
คุณหมอรีดเลือดตั้งแต่สันบริเวณหัวตาจนมาถึงปลายจมูก เลือดก็ออกมาสิคับ แผลเปิดด้วย
เป็นเลือดเก่าที่คลั่งข้างใน ออกมาเยอะมาก คุณหมอก็รีดสุดฤทธิ์ (เบามือบ้างก็ได้คับ >< ) สุดท้ายก้ได้เย็บแผลใหม่ 3 เข็มคับ เจ็บมากรอบนี้เรียกว่าขึ้นเขียงรอบ 2 เลยก็ว่าได้ แต่คุ้มนะคับจมูกยุบแบบเยอะมากแต่เจ็บเกิน
จนวันนี้ก็ไม่มีอาการบวมอะไรคับแล้วจะบอกว่าตั้งแต่ทำจมูก ไม่เคยปวดหรือเจ็บเลย สงสัยเป็นอูฐอดทนมาก 555 แต่ก็ได้จมูกสวยถูกใจคับ ตอนนี้รอตัดไหมรอบ 2 วันที่ 11 พ.ค. 2556
รีวิวของไอซ์ก็จบแค่นี้ละคับ อาจจะดูน่ากลัวแต่ก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากหรอกคับ ถ้าเราคิดว่ามันไม่เจ็บ
ถ้าสงสัยอะไรหรืออยากสอบถามก็สอบถามกันมาได้นะคับ ><
|
|