ดู: 1996|ตอบกลับ: 8
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[ ฉบับที่ 006 ] - มาลด "อาการตาแห้ง" กันเถอะครับ !!!

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขล่าสุดโดย jjjoker เมื่อ 2010-4-25 22:45




          ...  สวัสดีชาวดั้งโด่งทุกท่านครับ  ...  คุณเคยรู้สึกตาแห้ง ตาพร่ามัว หรือฝืดเคืองตา
ต้องกระพริบตาถี่ๆ คล้ายมีเศษผงเข้าตา จนทำให้มองภาพไม่ชัด หรือบางครั้ง มีขี้ตาออกมาเป็น
เมือกเหนียวกันบ้างไหมครับ ถ้ามีแสดงว่าคุณกำลังมี “อาการตาแห้ง” แล้วล่ะครับ  
ผมขอเอาเรื่องนี้มาฝากโดยเฉพาะกับชาวดั้งโด่งทุกท่านครับ  เพราะชาวดั้งโด่งหลายท่านที่มัก
ใช้เวลานานๆ อยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ครับ  ซึ่งเป็นปัจจัยนึงที่นำไปสู่การตาแห้งครับ ...  
แต่ก็อย่าเพิ่งกังวลใจกันไปครับ เพราะผู้ที่มีอาการตาแห้งส่วนใหญ่มักเป็นในระดับไม่รุนแรง
แค่ก่อความรำคาญใจ แต่ไม่ทำให้ตาบอดได้ครับ


เรามาเริ่มสำรวจสาเหตุของ "อาการตาแห้ง" กันก่อนครับ


          ...  "ตาแห้ง"
เป็นอาการที่มีความผิดปกติของน้ำตา
โดยปกติดวงตาของคนเราจะมีปริมาณน้ำตาเพียงพอที่จะมาหล่อเลี้ยง หรือให้
ความชุ่มชื้นกับดวงตา รวมถึงฉาบกระจกตา ทำให้การมองเห็นชัดเจน

ส่วนอาการตาแห้งเกิดจากการมีปริมาณน้ำตาน้อย หรือคุณภาพของน้ำตาไม่ดีพอ
ซึ่งน้ำตาที่ดีมีส่วนประกอบสำคัญ 3 ส่วน ได้แก่ ไขมัน น้ำใส และเมือก
หากส่วนประกอบ 1 ใน 3 ของน้ำตาขาดความสมดุลหรือไม่มีคุณภาพ จะทำให้ตาแห้งได้

อาการนี้เป็นได้ทุกเพศ แต่มักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และจะพบมากขึ้นตามวัย
โดยเฉพาะในผู้หญิงหลังวัยหมดประจำเดือน เป็นผลมาจากระดับฮอร์โมนที่ลดลง
ทำให้สารคัดหลั่งต่างๆ ในร่างกาย รวมทั้งน้ำตาก็ลดปริมาณลงไปด้วย นอกจากนี้
อาการดังกล่าวยังเกิดได้จากอีกหลายสาเหตุ ดังนี้

        •   ภาวะที่ทำให้เส้นประสาทรับความรู้สึกที่ตาลดลง เช่น การใส่คอนแทคเลนส์ที่ไม่
เหมาะสมหรือไม่มีคุณภาพ การผ่าตัดกระจกตาหรือเปลี่ยนกระจกตา การอักเสบของกระจกตาจาก
เชื้อเริม นอกจากนี้ ยังรวมถึงการเป็นอัมพฤกษ์ที่ใบหน้า
        •   โรคที่ผิดปกติทางภาวะภูมิคุ้มกัน (Autoimmune) เช่น โรค Sjogren's Syndrome
ซึ่งมีอาการตาแห้ง ร่วมกับข้ออักเสบและปากแห้ง โรคข้อบางชนิด หรือโรคเอดส์  
        •   โรคบางชนิด ซึ่งก่อให้เกิดการอักเสบกับเยื่อบุตา เช่น กลุ่มอาการแพ้ยา
อย่างสตีเวนจอห์นสัน (Stevens-Johnson) ริดสีดวงตา และเบาหวาน  
        •   การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้ ยาคุมกำเนิด ยานอนหลับ ยาลดความดันโลหิตบางชนิด  
        •   การทำงานของเปลือกตาบกพร่อง เช่น หลับตาไม่สนิท กะพริบตาน้อย เปลือกตาผิดรูป
        •   สภาพแวดล้อม เช่น อยู่ในห้องปรับอากาศที่มีอากาศแห้ง หรือมีฝุ่นควัน ลม และแดดจ้า
        •   อาชีพที่ต้องใช้สายตาจ้องเป็นเวลานาน เช่น พนักงานคอมพิวเตอร์
ช่างอ๊อกเหล็ก หรือยามที่เฝ้ากล้องวงจรปิด

คะแนน

1

ดูบันทึกคะแนน

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-25 22:37:45 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ไปดูกันดีกว่าครับว่าเราจะลดอาการเหล่านี้ได้อย่างไรครับ ...

เทคนิคเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา
        •   กระพริบตาถี่ๆ ในภาวะปกติคนเราจะกระพริบตานาทีละ 20 - 22 ครั้ง ทุกครั้งที่กระพริบตา
เปลือกตาจะรีดน้ำตาให้มาฉาบผิวกระจกตา แต่ถ้าในขณะที่จ้อง หรือเพ่งตาค้างไว้นานกว่าปกติ เช่น เวลาที่เราอ่านหนังสือ
ดูทีวีหรือจ้องคอมพิวเตอร์ จะทำให้เรากระพริบตาเพียง 8 - 10 ครั้ง น้ำตาก็จะระเหยออกไปมาก ทำให้ตาแห้งเพิ่มขึ้น
จึงควรพักสายตาระยะสั้นๆ โดยการหลับตา หรือกระพริบตาอย่างช้าๆ หรือลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถประมาณ 2 - 3 นาที
ในทุกครึ่งชั่วโมง
        •   ประคบดวงตาด้วยน้ำเย็น แช่ผ้าขนหนูผืนเล็ก 2 ผืนในน้ำเย็น หยิบขึ้นมา 1 ผืน บิดพอหมาด
และพับทบเป็นผืนยาว วางปิดดวงตาไว้ทั้งสองข้างนานประมาณ 20 นาที หรือจนกว่าผ้าจะหายเย็น
แล้วจึงใช้ผ้าอีกผืนหนึ่งประคบ สลับกันไปมา จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตาของคุณได้เช่นกัน  


กินอาหารลดอาการตาแห้ง
        •   กล้วย กินกล้วยทุกวัน เพราะกล้วยมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งจะทำงานร่วมกับโซเดียม
เพื่อรักษาภาวะสมดุลน้ำในร่างกาย และช่วยให้ดวงตาของคุณชุ่มชื้นอยู่เสมอ
        •   ถั่วประเภทนัท (Nut) ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะวอลนัต ควรรับประทานวันละประมาณ
1 กำมือ เพราะถั่วประเภทนี้มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว หรือกรดไขมันโอเมก้า-3 สูง ซึ่งสารอาหารเหล่า
นี้เป็นส่วนประกอบสำคัญในน้ำตา
        •   ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาทูน่าหรือปลาแซลมอน เพราะมีกรดไขมันที่จำเป็นหรือโอเมก้า-3 ด้วย
        •   น้ำมันปอ (Flexseed oil) หรือน้ำมันเมล็ดลินิน จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมกรดไขมัน
โอเมก้า-3 อย่างเพียงพอ โดยรับประทานวันละ 1 ช้อนโต๊ะ หรือผสมในซีเรียลแล้วรับประทานก็ได้


ปรับพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อม
        •   หลีกเลี่ยงการทำงานในบริเวณที่มีแสงจ้าและลมแรง เพราะจะทำให้ตาแห้งเร็ว
ควรใส่แว่นกันแดดช่วย โดยเลือกแว่นขนาดใหญ่ที่มีขอบด้านข้าง เพื่อช่วยลดการระเหยของน้ำตา
        •   หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีอากาศแห้ง และเย็นจัด เช่น ห้องปรับอากาศ
ตลอดจนหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝุ่นละอองและควันต่าง ๆ เช่น บุหรี่ ซึ่งจะทำให้เกิดการระคายเคืองตา
        •   อย่าเป่าลมร้อนจากเครื่องเป่าผมเข้าตาโดยตรง รวมทั้งปรับไม่ให้เครื่องปรับอากาศ
หรือพัดลมเป่าโดนตาหรือใบหน้าโดยตรง
        •   พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนไม่พออาจทำให้ตาแห้งและตาแดงช้ำ
เนื่องจากเส้นเลือดไปหล่อเลี้ยงดวงตาบวม การพักผ่อนให้สมดุลจึงดีต่อดวงตาที่สุด


รู้อย่างนี้แล้ว ... อย่าลืม ! เอาไปลองปรับใช้กันดูนะครับ ...
แล้วพบกันฉบับหน้าครับ ...


ขอขอบคุณ ... นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 239
เข้ามาโกย...ความรู้ก่อน หุหุ

4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-25 22:53:46 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เข้ามาโกย...ความรู้ก่อน หุหุ
ต้นฉบับโพสต์โดย pumpui เมื่อ 2010-4-25 22:50



    ๕๕๕
ดีครับบ นั่งหน้าเว็ปนานๆ บ่อย จะได้ลดอาการ "ตาแห้ง" คร๊าบบบ

ตาฉ่ำ ดีแร้วคัฟ เกาหลีๆๆ
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-26 17:53:03 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตาฉ่ำ ดีแร้วคัฟ เกาหลีๆๆ
ต้นฉบับโพสต์โดย gapy เมื่อ 2010-4-26 15:57



   
มีวิธีรักษาอาการ "อดอยาก ปากแห้ง" บ้างป่าวค๊าบ อยากได้ๆๆๆๆ
8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-5-3 00:34:29 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

RE: [ ฉบับที่ 006 ] - มาลด "อาการตาแห้ง" กันเถอะครับ !!!

มีวิธีรักษาอาการ "อดอยาก ปากแห้ง" บ้างป่าวค๊าบ อยากได ...
ต้นฉบับโพสต์โดย kurama เมื่อ 2010-5-3 00:16


555 ไม่มีครับ ...
นึกว่ามี อิอิอิ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้