|
แผลเป็นคีลอยด์ตรงหัวไหล่ค่อนข้างรักษายาก เพราะรอยพยาธิเกิดตรงบริเวณยืดหยุ่นของร่างกายมีการเคลื่อนไหวบ่อย มีความตึงของผิวหนังค่อนข้างสูง การผ่าตัดลดขนาดค่อนข้างเสี่ยงมาก ประมาณว่ายิงตัดยิ่งปูด(ตัดอย่างอย่างเดียวแล้วปล่อยไว้) ตอนนี้อย่าเกานะค่ะ ยิ่งเกายิ่งปูดเลยค่ะ ใช้วิธีลูบๆเอา
การรักษามีหลายวิธี ทางที่ดีก็ใช้หลายวิธีร่วมกัน
1. ผ่าตัด เป็นการลดขนาดของแผลเป็นเท่านั้น ไม่ใช่ทำให้แผลเป็นหายไปเลยค่ะ ไม่นิยมผ่าตัดอย่างเดียว ต้องรักษาร่วมกับวิธีอื่น
2. ฉีด Triamcinolone acetonide ฉีดก็เจ็บ เสียตังค์ พอหยุดไปสักพักแผลก็ปูดมานูนเท่าเดิม
3. ยาทาหรือแผ่นทับ ยาเคยใช้ของ mederma แล้วก็เจลกดทับ ร่วมกัน กว่าจะเป็นผลก็เป็นเดือน ข้อเสียคือ บริเวณรอบแผลจะนุ่มและลอกค่ะ พอหยุดแปะก็กลับมาปูดเท่าเดิม
4. จี้เย็น เป็นการใช้ในโตเจนเหลวลบร้อยกว่าองศา จี้ตรงคีลอยด์ อันนี้ไม่เคยทำค่ะ
5. เลเซอร์ ใช้เลเซอร์ YAG อันนี้ก็ไม่เคยทำค่ะ
6. ฉายรังสี ใช้เป็นการรักษาร่วมหลังจากผ่าตัดมาแล้ว ไม่เกิดแผลเป็นนูนขึ้นมาอีก เคยไปปรึกษาหมอ หมอว่ามีสิทธิ์เป็นมะเร็งได้ค่ะ
ถ้ามันเป็นแผลนูนมากแต่ไม่น่าเกลียดก็สามารถฉีดเสตียร์รอยด์เข้าแผลแล้วอาจใช้แผ่นกดทับร่วมด้วยเพื่อนให้แผลเรียบเนียนขึ้น(น่าจะเห็นผลเฉพาะแต่ตอนฉีด พอหยุดฉีดมันก็กลับมาปูดเหมือนเดิม)
แต่ถ้ามันทั้งปูดทั้งบริเวณกว้างนั้นก็คงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์แล้วหละค่ะ ว่าท่านจะทำการรักษาแบบไหน แต่*อย่ารักษาด้วยการผ่าตัดอย่างเดียวนะค่ะ ไม่งั้นมันอาจจะปูดไปเต็มแขนแล้วถึงตอนนั้นมาจะรักษายากขึ้นไปอีก
แต่เคยอ่านวิจัยของอาจารย์หมอท่านหนึ่งของรามา ท่านผ่าตัดลดขนาดแล้วฝังแร่ค่ะ ผลลัพท์กับผู้ทดลองคือ ไม่มีแปลปูดกลับมาเหมือนเดิม(แอบลุ้นว่าจะเอามาใช้เมื่อไหร่) แต่ก็นะค่ะ มันก็เป็นแค่การวิจัย มันอาจจะมีผลระยะยาวก็ได้ ใครจะไปรู้ แผลเป็นหายแต่มาทำคีโมมะเร็งต่อ จึ๋ยๆๆ อย่างนี้ก็ไม่เอาค่ะ ฮ่าๆ ไปหาหมอที่ไหนหมอก็แนะนำให้ฉีดสเตียร์รอย โอยฉีดจนเบื่อแล้ว ภ้าไม่ฉีดต่อเนื่อง ผลออกมา มันก็ปูดเหมือนเดิม เฮ้อ ตอนนี้ก็รอต่อไปเรื่อยๆหนะค่ะ เดี๋ยวจะไปปรึกษาหมอเรื่องแก้จมูก แต่จะลองๆถามเรื่องแผลเป็นดูเผื่อจะมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยมั่ง
โดยประสบการณ์ส่วนตัวกับการต่อสู้แผลคีลอยด์มาเกือบตลอดชีวิต แนะนำให้รักษาโรงบาลรัฐค่ะ อย่างเช่น รามา ราชวิถี จุฬา ราคาถูกทั้งผ่าตัดและฉีดหรือเลเซอร์ แต่คุณต้องเสียเวลารอนานและมีวินัยหน่อย ไปให้ครบตามกำหนด ดิฉันเคยผ่าตัดแผลเป็นที่หูที่รามา หมอใช้วิธีผ่าตัดแล้วฉีดเสตียร์รอยเพื่อไม่ไห้แผลปูดนูนมาอีก เทียวไปฉีดเสตียร์รอยที่โรงบาล สองอาทิตย์ครั้งค่ะ ทำอยู่นั้นประมาณสองปี เหนื่อยมากแต่ก็ยอมทน ไปโรงบาลรัฐดีตรงที่หมอใช้ยาแรง ลองสังเกตดูดีๆนะค่ะ ถ้าคุณไปฉีดที่คลีนิกบางที่เขาจะฉีด Triamcinolone acetonide 50mg/5ml ความเข้มข้นของยาตัวนี้อ่อนมากค่ะ ใช้กับแผลเป็นนูนๆใหญ่ไม่ได้ผลหรอกค่ะ ที่โรงบาลส่วนใหญ่ที่คุณหมอฉีดให้ก็ Triamcinolone acetonide 40mg/1ml ตัวนี้ฉีดแล้วอยู่ได้นาน ไม่ค่อยคัน แต่ยาแรงก็เป็นผลเสียค่ะ ฉีดไปแผลเป็นรอยด่างขาว เนี่ยนแต่เนียนแบบเหี่ยวๆ ดิฉันไปปรึกษาหมอที่โรงบาลรามาและจุฬาของแผลเป็นที่ไหล่ หมอไม่รับผ่าค่ะ หมอจะฉีดให้อย่างเดียว มันก็แล้วแต่กรณี คุณลองไปปรึกษาดูนะค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ บางทีมันก็เป็นปมด้วย เวลาไส่ชุดว่ายน้ำ อายทุกครั้งที่ไส่ เสื้อผ้าก็ไม่สามารถไส่แบบโชว์ไหล่ได้ เป็นอย่างนี้มาตลอดชีวิตค่ะ ก็หวังว่าสักวันจะได้ไส่เสื้อผ้าสวยๆเหมือนคนอื่นเค้ามั่ง
ขอทิ้งท้ายไว้อีกนิดว่า แผลเป็นไม่มีวันหายขาดไปจากเราค่ะ และตอนนี้ยังไม่มีวิธีไหนรักษาแผลเป็นให้หายขาดได้ ดิฉันก็ฉีดยาเสตียร์ที่หูและไหล่ตลอด ประมาณ7-8ปีแล้ว ช่วงไหนมันจะปูดๆก็ฉีดเลย ปูดมากๆมากลัวจะเอาใม่อยู่ สู้ๆนะค่ะ เป็นกำลังใจให้มากๆ
หวังว่าคงจะได้ข้อมูลเล็กๆน้อยๆประกอบการตัดสินใจนะคะ
ผิดถูกขออภัยค่ะ |
|