|
สวัสดีครับทุกท่านวันนี้ขอทวิตเรื่องการร้อยไหมเพื่อยกกระชับผิวเพราะกำลังเป็นเรื่องที่ฮิตและสมาคมแพทย์ผิวหนังจะแถลงข่าวเตือนประชาชนวันพรุ่งนี้
ในปัจจุบันมีกระแสโฆษณาในการร้อยไหมเพื่อยกกระชับผิว (thread lifting) ในสื่อต่าง ๆ อย่างแพร่หลายจนทำให้ผู้ป่วยเกิดความหลงเชื่อและเข้าใจผิด
1.การพิจารณาการรักษาทุกชนิดควรดูที่ผลของการรักษาที่ปลอดภัยและถูกต้องตามมาตรฐานสากล
2.ขอชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องการร้อยไหมเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับผู้ที่สนใจการยกกระชับผิวด้วยวิธีการดังกล่าว
3.การร้อยไหมเพื่อยกกระชับเริ่มมีการใช้มาประมาณสิบกว่าปีที่ผ่านมา ไหมที่ใช้ในระยะแรกเป็นไหมชนิดมีเงี่ยงซึ่งทำหน้าที่เสมือนหมุดยึดตรึงไหม
4.ส่วนไหมที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันเป็นไหมชนิดไม่มีเงี่ยง ไหมชนิดนี้มักผลิตจากสารชื่อโพลีไดออกซาโนน(Polydioxanone; PDO)
5.ไหมโพลีไดออกซาโนน(Polydioxanone; PDO)เป็นสารที่สามารถละลายตัวได้เองภายใน 6-8 เดือน
6.การร้อยไหมโพลีไดออกซาโนนหรือPDOเพื่อยกกระชับผิวที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้เป็นวิธีการยกกระชับผิวที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเกาหลี
7.การร้อยไหมPDOยังไม่ได้รับรองเพื่อใช้สำหรับยกกระชับผิวในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือประเทศในทวีปยุโรป
8.ไหมPDOได้รับการอนุญาตการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้นำเข้ามาเพื่อใช้สำหรับเย็บแผลแต่ไม่ได้รับอนุญาตใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการยกกระชับผิว
9.การร้อยไหมPDOมักใช้เส้นไหมขนาดความยาวตั้งแต่ 2.5-6 เซ็นติเมตร จำนวนตั้งแต่ 20 ถึงกว่าร้อยเส้นสอดเข้าไปในผิวหนังผิวหนังหลังจากการทายาชา
10.หลังการร้อยไหมผิวจะมีอาการบวมแดงและมีรอยช้ำตามแนวการสอดไหมซึ่งรอยเหล่านี้มักหายใน 1-2 สัปดาห์
11.เชื่อว่าการสอดไหมเข้าผิวหนังจะกระตุ้นให้ผิวสร้างเส้นใยคอลลาเจนขึ้นใหม่ตามแนวการสอดเส้นใยคอลลาเจนใหม่นี้จะช่วยให้ผิวหนังมีความกระชับขึ้น
12.ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์(evidence-based)ทางการแพทย์ที่ยืนยันว่า การร้อยไหมสามารถทำให้ผิวหนังเกิดการยกกระชับได้จริง
13.และไม่มีหลักฐาน ทางการแพทย์ที่ยืนยันว่าผิวหนังจะสามารถคงสภาพการกระชับได้นานแค่ไหนหลังการร้อยไหม
14.การทบทวนข้อมูลทางการแพทย์พบรายงานผู้ป่วยเพียง2-3ฉบับที่พบว่าการร้อยไหมชนิดมีเงี่ยงสามารถทำให้ผิวดูกระชับขึ้นในช่วงเดือนแรกหลังการร้อยไหม
15.แต่ผิวจะหย่อนกลับสู่สภาพเดิมในระยะเวลาต่อมา การที่ผิวดูกระชับขึ้นในช่วงแรกเชื่อว่าเกิดจากการที่ผิวเกิดการบวมและอักเสบจากการสอดไหม
16.ผลข้างเคียงการร้อยไหมชนิดมีเงี่ยงที่เคยมีผู้รายงานไว้ได้แก่ การเกิดผิวหนังบวมแดงเนื่องจากการแพ้ไหม/การเห็น/คลำได้ปมไหม/ปลายไหมโผล่
17.หรือการเกิดรอยบุ๋มของผิวหนัง/ผิวหนังสองข้างกระชับไม่เท่ากัน
18.ยังไม่มีการรายงานผลข้างเคียงของการร้อยไหมPDOชนิดไม่มีเงี่ยงในวารสารทางการแพทย์
19.แต่จากการสอบถามข้อมูลจากแพทย์ผิวหนังพบมีผู้ป่วยที่มาด้วยอาการเป็นเส้นนูนแดงตามแนวเส้นไหมซึ่งเชื่อว่าเป็นอาการของการแพ้ไหม
20.นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยที่มาพบเพราะคลำหรือสัมผัสเส้นไหมบริเวณผิวได้ซึ่งเกิดจากการร้อยไหมในระดับตื้นเกินไป
21.ใน2เดือนที่ผ่านมาที่ศิริราชพบผู้ป่วยที่เกิดบวมตุ่มแดงไม่เจ็บไม่คันตามแนวไหม3รายยังไม่แน่ว่าเป็นอาการแพ้ไหมหรืออาการติดเชื้อ
22.จึงขอให้ผู้ที่สนใจการยกกระชับผิวด้วยวิธีการร้อยไหมดังกล่าวได้ศึกษาข้อดีข้อเสียของวิธีการนี้ให้ดีก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา
จาก
http://healthdeedee4u.com/article/topic-19966.html
|
|