|
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย banajang เมื่อ 2014-2-7 22:23
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย banajang เมื่อ 2014-2-7 22:10
จริงๆไม่รู้ว่าจะตั้งกระทู้ในหมวดไหนดี เพราะเป็นทั้งการดูดไขมัน และการเสริมหน้าอก แต่ว่าตอนนี้เห็นผลกับหน้าอกชัดกว่าเลยตั้งหมวดนี้ก่อนนะคะ
เราเองพยายายามหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาสักพักแล้ว แต่ยังไม่เห็นมีใครทำ เรื่องทำหน้าอกเลยพักไว้ก่อน
ส่วนเรื่องขา เราเป็นคนขาใหญ่ตั้งแต่เด็ก หุ่นข้างบนพอโอเค หน้าเล็กมาก เวลาอ้วนจะอ้วนท่อนล่าง
เวลาผอมหน้าจะลงก่อนเพื่อน ทำให้แก้มตอบ แต่ขาไม่ลดลงด้วย ออกกำลังกายก็ไม่ลง เราก็เลยหาข้อมูลดูดไขมันค่ะ เปรียบเทียบทั้ง vasor และ bodytite ซื่งใจเราไปทาง Bodytite มากกว่า จึงแพลนไปปรึกษาคุณหมอ
แต่บังเอิญมากที่เป็นแฟนเพจ Century health clinic ซึ่งที่คลินิกมีการดูดไขมันแบบ bodyjet liposuction และมีโปรโมชั่น แต่ในเวบไทยรีวิวน้อยมาก เลยศึกษาจากเวบต่างประเทศ และพบว่าวิธีนี้มีมาซักพักใหญ่ๆแล้ว ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบตัวต่อตัว ในความคิดเรา เรื่องดูดไขมัน bodytite จะดีกว่าเพราะมีการปล่อยคลื่นทำให้ขากระชับด้วย ไม่ทำให้ผิวหนังย่นหลังทำ แต่ bodyjet ไม่มี ผิวอาจจะย่นได้ แต่วิธีนี้สามารถเอาไขมันกลับมาใส่ในส่วนที่ต้องการเติมเต็มได้เช่น หน้าอก สะโพก
ด้วยความที่สองจิตสองใจ เลยไปปรึกษาคุณหมอ ที่แรก ทำ bodytite คุณหมอบอกต้องดูด 4 จุด 2 ข้างรวมเป็น 8 จุด ราคาแสนสอง แต่ว่าจะลงได้ประมาณ1-2 นิ้ว เพราะเรากล้ามเนื้อเยอะ แล้วก็มาที่ Century พี่คิม(เจ้าหน้าที่ที่มาดูแลเรา) บอกว่าดูดไขมันออกได้และมีโปรโมชั่นอยู่ จาก จุดละ 3 หมื่น เหลือ 8900 แต่ที่นี่คิดสองข้างเป็นจุดนึง วันเข้าไปสอบถามเราไม่เจอคุณหมอค่ะ เจอแต่พี่คิม เพราะคุณหมอติดเคส (คนไข้รอปรึกษาเยอะเลย) พี่คิมเลยถ่ายรูปแล้วจะส่งข้อมูลให้คุณหมอ แล้วไลน์มาบอก (ขอบคุณเทคโนโลยีที่ทำให้การรักษาง่ายขึ้น)
หลังจากนั้นช่วงหัวค่ำ พี่คิมก็มาแจ้งว่าคุณหมอคิด 3 จุด ก็ราคาประมาณ 27,000 เลยถามต่อเรื่องผลเสีย ก็คือหลังการรักษาต้องใส่ชุดกระชับ และออกกำลังกายควบคู่เพื่อไม่ให้ผิวหนังย้วย แล้วก็ถามต่อว่าถ้าเอาไขมันมาทำนมด้วยคิดเท่าไหร่ พี่คิมแจ้งว่า 20,000
บาท ซึ่งหักลบราคาแล้ว ลดขาได้หน้าอกนี่คุ้มมากๆ
ดังนั้นเราเลยใช้เวลาทั้งวันเพื่อศึกษาข้อเสียของ bodyjet ซึ่งก็มี
- ผิวอาจย้วยถ้าไม่ดูแล และอาจเป็นไตๆ ถ้าดูแลไม่ดี (เหมือนเสริมซิลิโคนแล้วไม่นวด)
- ฉีดไปแล้วประมาณ 6 เดือนจะสลายไป 50%(ก็จะเหลืออีก 50% ไปตลอดชีวิต) ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการคัพใหญ่มาก ซึ่งเราไม่เอาใหญ่มาก แค่อยากใส่เสื้อผ้าสวย
- จะรบกวนการตรวจเมมโมแกรม ซึ่งสำคัญมาก ไม่เหมาะกับคนที่ครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งเต้านม
ซึ่งเราโชคดีที่ที่บ้านไม่มีใครมีประวัติ และเราเองก็เพิ่งตรวจซีสต์ไปไม่พบความผิดปกติ อีกข้อนึงคือไม่ต้องพักยาวหลายวัน เราทำเมื่อวาน วันนี้ไปทำงานเลยค่ะ แต่ก็ระบมเหมือนกัน
ข้อดีคือ
-ไม่ต้องหยุดงานหลายวัน
-ไม่เจ็บมาก
-เป็นธรรมชาติ ไม่แพ้เพราะไขมันเป็นของเราเอง ร่างกายไม่ต่อต้าน
-จากงานวิจัยและการทำวิธีนี้ว่าที่ผ่านมาไม่พบว่ามีใครเป็นมะเร็งจากการเสริมหน้าอกด้วยวิธีนี้ (อันนี้เราอ่านเจอนะคะ ซึ่งเป็นตัวช่วยตัดสินใจเลย เป็นใครก็กลัวเพราะยังไม่เคยเห็นรีวิว เคยเจอแต่รีวิวเอาไขมันมาฉีดหน้า)
พอศึกษาแล้ว ก็ตัดสินใจนัดคิว คือเมื่อวานนี้ 6กพ. (เราเข้าไปคลินิกสอบถามวันอาทิตย์ที่ 2 กพ) วันนัดทำ คุณหมอนกโทรมาหาเองเลยค่ะ ว่าเย็นนี้เรามีนัดกันนะ เราก็เลยถามข้อมูลคุณหมอค่อนข้างละเอียด คุณหมอก็ตอบทุกอย่างเราสบายใจมากขึ้น ตกเย็นมีคิว 4 โมง แต่คุณหมอยังติดเคสแรก เราเลยได้เข้าดูดไขมันพร้อมฉีดหน้าอกตอน 6 โมง
ตอนแรกคุพี่คิมบอกว่าทำแค่ 2-3 ชม. แต่เอาจริง เสร็จตีหนึ่งค่ะ คุณหมอใจเย็นมาก และต้องรอไขมันแยกชั้นด้วย
หลักการก็คือ ตัวbodyjet จะใช้น้ำใส่เข้าไปให้ไขมันที่เป็นก้อนๆสลายตัว ให้เหลวแล้วดูดออกมา ซึ่งจะดูดออกมาเฉพาะส่วนของไขมัน สูญเสีนเลือดและเกลือแร่น้อย (สมัยก่อนที่ดูดไขมันแล้วชีวิตเพราะเรื่องยานอนหลับ และช็อคจากการดูดไขมัน เสียเลือด เสียเกลือแร่เยอะ) ซึ่งวิธีดูดไขมันหลายๆวิธีในสมัยนี้จะค่อนข้างปลอดภัยค่ะ
เนื่องจากใช้น้ำในการดูดออกมา ไขมันที่ได้จึงมีการแยกชั้น ได้ไขมันในส่วนดีที่เอากลับไปใช้ได้อยู่ เลยสามารถเอาไปฉีดส่วนอื่นได้
|
|