|
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย applebow37 เมื่อ 2014-5-26 22:19
เปิดประตูมาเจอคุณหมอนั่งรออยู่ละ คุณหมอก้อสอบถามเรา คำถามหลักหลักมีประมาณว่า อยากได้จมูกทรงประมาณไหน ( อันนี้เราเปิดรูปจากเฟซบุคของคลีนิคให้คุณหมอดู คุณพยาบาลบอกว่ามีสาวสาวรีเควสทรงนี้ กันเยอะมากค่ะ แบบหวานหวานหน่อย มีสโลป ไม่โด่งมาก ปลายพุ่ง แต่ไม่เชิด)
ความโด่งของจมูก อยากได้โด่งสุดเท่าที่จะโด่งได้ หรือโด่งธรรมชาติ
ซึ่งอันนี้คิดว่าเป็นคำถามทั่วไปที่หมอทุกท่าน น่าจะถามอยู่แล้วนะคะ หลังจากนั้นคุณหมอก้อเอาไม้บรรทัดมาวัดวัดจมูกเรา น่าจะนะ วัดความยาว ความโด่งสัน ความโด่งปลาย และก้อจับจับจมูกดูค่ะ ออกมาเป็นแบบนี้
ถามคุณหมอบาสว่า ไอ้ Hum ที่คุณหมอมาร์คไว้คืออะไร คุณหมออธิบายว่ามันคือกระดูกจมูก ที่เป็นจุดที่ต้องระวัง
เวลาใส่ซิลิโคน ไม่งั้นอาจมีผลทำให้เบี้ยวได้ และฐานจมูกเราเดิมไม่เท่ากันนิดหน่อย แต่หมอจะทำไม่ให้เบี้ยวนะ
แหะ แหะ แอบซีดนิดหน่อย ตอนคุณหมอบอกอาจเบี้ยวได้ ^ ^ “
ส่วนเรื่องชนิดซิลิโคน คุณหมอบาสบอกว่าเรามีเนื้อจมูกปานกลาง ใส่ซิลิโคนแบบนิ่มของอเมริกาได้ โดยคุณหมอ
จะเน้นเรื่องความปลอดภัย( ไม่โด่งเวอร์จนทะลุ อยู่กะหนูไปจนแก่จนเฒ่า) ส่วนเรื่องความโด่งคุณหมอบาสอธิบายว่า
จมูกที่สวย ไม่ใช่จมูกที่โด่งที่สุดเท่าที่จะโด่งได้ แต่เป็นจมูกที่โด่งในระดับที่พอดีที่สุดกับองค์ประกอบอื่นบนใบหน้า
( ถ้าเป็นภาษาหนู ก้อคือ ดูหนังหน้าของคนทำด้วยนั่นเอง)
ซึ่งคุณหมอบาสเองรับทำแค่วันละประมาณ 3 เคส สำหรับงานเสริมจมูก นอกนั้นจะเป็นเคส ฟิลเลอร์ หรือดูแลความงามทั่วไป คุณหมอบาสบอกว่าไม่เน้นปริมาณอะ ส่วนมากลูกค้ามาแบบปากต่อปากมากกว่า
เสร็จสรรพเรียบร้อย นัดวันได้ วันที่ 9 เมษายน ห้าโมงเย็น
แต่งานมาเข้าเพราะเราเอง เราเคยฉีดฟิลเลอร์มา แต่เราลืมบอกคุณหมอ เพราะตอนนั้นเราไปเป็นเพื่อน เพื่อนสาว
ที่นางไปเหมาฉีดฟิลเลอร์แบบบุฟเฟต์แพคเกจ ที่คลีนิคนึง แล้ว unit นางเหลือ นางเลยบอกว่าให้เราฉีดส่วนที่เหลือเถอะ เพราะคลีนิคเค้าเหมา ไม่คืนเงิน เราก้อเนอะ ตอนนั้น ไม่คิดไร เพราะคุณหมอที่ฉีดเพื่อนบอกว่าเหลือไม่มากค่ะ
ฉีดแล้วไม่โด่งเวอร์หรอก เราก้อแบบ เอาฉีดก้อฉีด รู้แค่ว่าเป็นเรสทิเรน แต่ไม่รู้เลยว่าคุณหมอฉีดไปกี่ unit หรือกี่ CC
เพิ่งมาคิดได้ตอนบอกเพื่อว่าจะไปเสริมนะ ก่อนหน้าวันนัดไม่กี่วัน ละนางทักว่า แกฉีดมาคราวนั้นพร้อมชั้นอะ
( สามสี่ปีได้นะ) แกบอกหมอป่าวววว โอ้วววววยูว์ รีบคุยกะคุณหมอบาสอย่างว่องเลยครับ คุณหมอบาสบอกว่า
เสริมได้แต่ต้องขูดนะ ซึ่งต้องขูดออกให้หมด ไม่งั้นจะเบี้ยววววววว
ฮือ !!! หนูละป๊อดตรงเนี้ย ตอนฉีดไม่โด่งเลยนะ ไม่มีคนทักเลย ไม่น่าฉีดเลยตรู
คุณหมอบาสมีอธิบายเพิ่มเติมว่า อาจมีการบวมช้ำมากกว่าปกติ ถ้าคนที่ช้ำได้ง่ายมาก อาจจะตาบวมจนปิดเลยอะ
โฮวววววว !!!! คุณหมอขา หนูอะ มนุษย์ช้ำง่ายเลยค่ะ เจาะเลือดจิ๊ดเดียว เขียวปนม่วงเป็นอาทิตย์ ด้วยความป๊อดจัด
เลยเสริชหารีวิวดู ไปเจอคุณน้องท่านนึงมารีวิวเรื่องขูดฟิลเลอร์ก่อนเสริม น้องเค้าทั้งบวมช้ำใต้ตา ตาบวมปิด แถมยังมีเส้นเลือดฝอยในตาแตกอีก เรานี้ คืนนั้น นอนไม่หลับเลยนะ คิดเลยว่าจะทำดีหรือไม่ทำดี อีกแค่ไม่กี่วันจะถึงวันนัด
คิดอยู่หนึ่งคืน กะ หนึ่งวันเต็ม เลยตัดสินใจถามคุณหมอดีกว่า เผื่อยกเลิกทัน
บอกคุณหมอบาสไปตามตรงหนูไปดูรีวิวมาค่ะ เห็นคนที่เค้าขูดแล้วช้ำตาปิด เส้นเลือดฝอยในตาแตก หนูจะเป็นงั้นมั้ยคะ คุณหมอบาสตอบว่า อาการบวมจนดวงตาเหมือนปิด อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งอันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่อาการเส้นเลือดฝอยในตาแตกนั้นคุณหมอบาสไม่เคยมีเคสนี้
ไอ้เราก้อโล่งใจไปนิดนึง เพราะเราลาได้แค่ 7 วันอะ เอาวะ ทำก้อทำ ฮึ่ยยยยยยยย.
แถมก่อนหน้ายังมีเคสน้องที่ออฟฟิศ ไปทำจมูกมาเกือบปีปรากฎว่าซิลิโคนทะลุหลุดอยู่ด้านในโพรง ต้องรีบไป
ถอดออก กลัวนะเฟ้ยยยยยยย ยังคุยกะน้อง แกจะมาหลุดไรช่วงนี้ว้าาาาา พี่กำลังจะไปทำ น้องมันหัวเราะ
พี่อย่าคิดมาก หนูไปทำราคาโปรโมชั่น หมอใช้เวลาแค่ยี่สิบนาทีอะ นี่หนูโทรไปคลีนิคที่ทำ หมอเค้าก้อบอกว่าเพราะ
เราดูแลไม่ดีรึป่าววว ตึงงงงงง !!!!!! คือ ยิ่งคิดเลยอะ กลัวมากว่าหลังทำจะเป็นไร
|
|