รีวิวตัดหนังหน้าท้อง แก้ปัญหาหน้าท้องย้วยหลังคลอด โดย นพ.ณัฐพล วงศ์เกียรติขจร (หมอจั๊ม) โรงพยาบาลเลอลักษณ์

wanna.s66

สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวดั้งโด่ง นี่เป็นกระทู้รีวิวแรกของเรานะคะ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ ตัดหนังหน้าท้อง หรือ ตัดไขมันหน้าท้อง ที่เราเพิ่งไปผ่าตัดมาช่วงเดือนก่อนค่ะ เผื่อเป็นความรู้บ้างไม่มากก็น้อยสำหรับคนที่กำลังสนใจและกำลังหาข้อมูลอยู่นะคะ
ต้องบอกก่อนว่า เราอายุ 27 ปี มีลูกแล้ว 1 คน ปัญหามันเกิดจากหลังที่ตั้งท้องน้องนี่แหละค่ะ หลังคลอดลูก เราก็ใช้ชีวิตตามปกติ เหมือนตั้งแต่ก่อนท้องเลยค่ะ เราเป็นคนไม่ทานจุกจิกนะคะ โดยมากจะทานคลีนและออกกำลังกายเป็นส่วนใหญ่ แต่พอท้องน้อง ก็ต้องทานของที่มีประโยชน์มากขึ้น จะงดอะไรหลายสิ่งหลายอย่างเหมือนตอนยังไม่ท้องไม่ได้ (เผื่อสุขภาพและสารอาหารที่ดีของลูก) แต่น้ำหนักและสัดส่วนก็ไม่ได้เพิ่มมากอะไรนะคะ ช่วงตัว แขน ขา ทุกอย่างพอดีหมด ยกเว้นหน้าท้องค่ะ ตอนแรกก็เข้าใจนะคะว่าเพราะเราท้อง เดี๋ยวคลอดก็ยุบ ก็ยุบจริงค่ะ แต่ไม่ยุบหมด กลายเป็นเหมือนคนอ้วนลงพุงที่มีพุงเหี่ยวๆ

แบบนี้ค่ะ
V
v







หน้าท้องของเราเองค่ะ ก่อนที่จะผ่าตัดหนังหน้าท้อง

กลายเป็นท้องป่อง หย่อนยาน คล้อยห้อย จากที่เมื่อก่อนไม่เคยมี หลังคลอดเราออกกำลังกายตามปกติค่ะ แต่มันก็ไม่หายไป ไม่รู้ว่าเพราะออกผิดวิธีรึป่าว แต่ก่อนท้องเราก็ออกกำลังกายแบบนี้ตลอด หน้าท้องตรงนี้ก็ไม่มี เราคิดว่าหลักๆคงมาจากการท้องเจ้าตัวเล็กนี่แหละค่ะ
เราคิดว่าอยากจะเอาหน้าท้องนี้ออกไป คิดปุ๊บก็เสิทหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตปั๊บค่ะ  ก็เจอข้อมูลอยู่ แต่ยังลังเลระหว่างดูดไขมันหน้าท้อง หรือ ตัดหนังหน้าท้อง เราเลยปรึกษาหลายๆที่ ซึ่งเขาก็แนะนำค่ะว่า ตัดหนังหน้าท้อง จะเห็นผลที่สุด เพราะที่หย่อนยานหลักๆมันเป็นหนังหน้าท้องที่หย่อนคล้อย ไม่ใช่การอ้วนด้วยไชมัน เราจึงตัดสินใจทำที่มันตอบโจทย์กับปัญหานั่นคือ ตัดหนังหน้าท้องค่ะ และด้วยความเรื่องมาก ไม่สิ! ต้องเรียกว่า safety first เอามีหลักการในการเลือกอยู่ค่ะ คือ
1.        ต้องเป็นโรงพยาบาล และพักฟื้นที่โรงพยาบาล ไม่ใช่ผ่าเสร็จแล้วกลับบ้านทันที
2.        ต้องเป็นหมอศัลย์ ที่เสิทหาชื่อได้ มีตัวตนอยู่จริง จบเฉพาะทาง
3.        ต้องใช้ยาสลบกับหมอวิสัญญี
4.        ต้องมีคนเคยทำแล้ว และต้องหลายคนด้วยค่ะ พิจารณาเยอะๆ ดูรีวิวของหลายๆคน

สุดท้ายเราก็ได้สถานที่มาที่นึง คือ “โรงพยาบาลเลอลักษณ์’ ซึ่งตอบโจทย์ที่เราตั้งหลักการเอาไว้ทั้งหมดค่ะ
วันที่เราเข้าไปปรึกษา คุณหมอณัฐพลบอกว่า รอยแผลผ่าตัดของเราจะเป็นรอยยาวจากอีกด้านนึงไปอีกด้านนึงค่ะ และคุณหมอณัฐพลจะเจาะสะดือให้ใหม่ในตำแหน่งเดิม ซึ่งเราทำใจและรับได้กับรอยแผลค่ะ เพราะเราไปรักษารอยแผล ดีกว่าปล่อยให้หน้าท้องเป็นแบบนี้ค่ะ ส่วนตัวเรารับไม่ได้ถ้าจะมีหน้าท้องแบบนี้
วันที่ผ่าตัด เรางดน้ำงดอาหารมาล่วงหน้าก่อนผ่าตัด 10 ชม. เพราะเราต้องดมยาสลบค่ะ พอตรวจร่างกายอะไรเสร็จสรรพ คุณหมอก็วาดๆตรงหน้าท้อง ส่วนที่เราต้องตัดออก คุณหมอดูใจดีค่ะ เป็นกันเอง ถึงเป็นผู้ชายแต่เราไม่อายเลย เราไม่เกร็งและสบายใจมากค่ะ จากนั้นเราก็ดมยา มารู้สึกตัวอีกทีคือผ่าตัดเสร็จแล้ว มีผ้าพันแผลพันไว้ตรงหน้าท้อง พร้อมกับสายระบายเลือดค่ะ เราได้นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล 2 คืน ก็มีพยาบาลเข้ามาให้ยาแก้ปวดตลอด
ถ้าถามว่าหลังทำรู้สึกเป็นยังไง ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวอะไรขนาดนั้น อาจจะมีแปล๊บๆบ้างตอนขยับตัวเร็วๆ เลยเลี่ยงการขยับตัวแรงหรือเร็ว นั่งได้ค่ะ ส่วนเวลานอน เรานอนหงายค่ะ

หลังจากนั้น 7 วัน เราก็มาตัดไหมค่ะ
แผลอาจจะหวาดเสียวนิดนึงค่ะ
V
V





เรากินยาตามหมอสั่ง และหมั่นทายารักษารอยแผลเป็นตลอดค่ะ
จากวันนั้นถึงตอนนี้ก็ครบ 1 เดือนแล้วค่ะรอยแผลจางลงมาก หน้าท้องก็เรียบเนียนขึ้นค่ะ
V
v

wanna.s66

ชีวิตเปลี่ยนไปทันทีหลังตัดหนังหน้าท้องค่ะ ความมั่นใจกลับมา ใส่ชุดเดิมได้ ชุดใหม่ก็แฮปปี้ กลับมาเป็นคนเดิมเหมือนตอนก่อนท้องเลย อย่างว่าแหละค่ะ ผู้หญิงทุกคนอยากดูดี ดูสวยเหมือนเดิม หรือมากกว่าเดิมเสมอ เราก็เช่นกัน
การผ่าตัดหนังหน้าท้องของเรา ไม่ใช่ทางเลือกแรก เพราะทางเลือกแรกของเราคือออกกำลังกาย แต่มันไม่เป็นผล นี่เป็นทางเลือกสุดท้ายและเราตัดสินใจมาดีแล้ว ถามว่าคุ้มค่ามั้ย ก็คุ้มค่านะ ถึงแม้จะต้องแลกมาด้วยรอยแผลที่ยาว แต่สำหรับเราไม่มีปัญหาค่ะ ใส่กางเกงในคือปิดรอยแผลแล้ว
ใครก็ตามที่กำลังประสบปัญหาเดียวกันกับเรา และต้องการตัดหนังหน้าท้อง อยากได้คำแนะนำ การเตรียมตัวต่างๆ หรือสงสัยอะไร สามารถคอมเม้นสอบถามเข้ามาได้เลยค่ะ เดี๋ยวถ้าเราว่าง เราจะมาตอบค่ะ

สุดท้ายนี้หวังว่ารีวิวของเราจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะคะ
ขอบคุณค่ะ