รีวิว แก้จมูก ที่เกาหลี ด้วยราคาที่ไม่ได้แพงอย่างที่คิด

somzz.m

เปรียบเทียบก่อนทำ กับ หลังทำ ค่ะ ( ตอนนี้ทำาได้ 16 วันแล้ว จมุกน่าจะเปลี่ยนอีก)






สวัสดีค่ะ เราชื่อส้มนะคะ กระทู้นี้คือกระทู้รีวิวครั้งแรกของเรา อาจจะขาดตกบกพร่องไปบ้าง ขออภัยนะคะ
เริ่มเลยเนอะ... เราทำจมุกเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่ไทย แต่ตอนนี้มันเอียง ไปทางซ้ายและปลายเริ่มแดง และที่สำคัญ ปัญหาจริงๆของจมุกเราคือ ฐานจมูกเรามันบานค่ะ ต่อให้เสริมโด่งแค่ไหน พอมองหน้าตรงๆก็แบน ยิ่งเวลายิ้ม จมูกก็จะแผ่ออก บานออก แถมเป็นก้อนๆที่ข้างจมูกด้วย (ตามรูปที่มีลูกศรชี้)





ปรึกษาหมอที่ไทย หมอบอกว่าแก้ได้โดยการปรับโครงสร้างจมูก ซึ่งเท่าที่ถามมาประมาณ 3 ที่ ราคาจะเริ่มต้นที่ แสนนิดๆ แต่บังเอิญได้รู้จักกับ คนเกาหลีที่เป็น marketing ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเกาหลี รพ.นี้ไม่ได้ดังในไทย และเพิ่งเข้ามาทำการตลาดที่ไทยได้ไม่นาน หมอท่านนี้ได้รับ certificate เกี่ยวกับการศัลยกรรมจมูก ที่เกาหลีด้วยนะคะ แล้วท่านเคยทำงานที่ รพ.ศัลยกรรมดังๆในเกาหลีมาเยอะ ตอนนี้เลยออกมาเปิดเป็นของตัวเอง ราคาเลยถูกลงมาเยอะเลยค่ะ

เข้าเรื่องเลยเนอะ เราไม่อยากอะไรมาก เราตีตั๋วเครื่องบินจากไทยวันที่ 21-29 ธันวาคม ที่ผ่านมาค่ะ ที่อยู่นานเพราะต้องครบ 7 วันและรอตัดไหม จึงจะกลับไทยได้

วันที่ 22 วันขึ้นเขียง  
รถ รพ. มารับแต่เช้าเพื่อไป รพ. ต้องบอกก่อนว่า เราให้ข้อมูลรูปทรงจมูกที่เราอยากได้กับทางเพื่อนเราคนเกาหลี เอาไว้แล้วว่าเราอยากได้แบบไหน เรากังวลแบบไหน ถ้าใครกังวลเรื่องภาษา ทาง รพ. จะมีล่ามคนไทยที่อยู่เมืองไทยช่วยสื่อสารให้ก่อนบินไปเกาหลีค่ะ พอเจอคุณหมอ หมอก็บอกประมาณว่า หมอจะทำให้โด่งกว่าของเดิมนิดหน่อยนะ ทำโด่งมากไม่ได้ เพราะผิวจมุกเริ่มบาง อาจจะเป็นอันตรายในระยะยาว เราก็บอกว่า เรากังวลแค่ฐานจมุก อยากให้เรียวลง แคบลงกว่าเดิม ส่วนเรื่องความโด่ง เราแล้วแต่หมอ เรามั่นใจว่าหมอเค้าต้องดีไซส์ให้ได้สวยอยู่แล้ว แล้วหมอจะเอากระดูกอ่อนหลังหูมาช่วยป้องกันไม่ให้ซิลิโคนทะลุด้วย แล้วจะจะฉีดไขมันใต้ตาให้ เพราะใต้ตาเราดำมากและมีร่องน้ำตา ด้วย แล้วก็ฉีดฟิลเลอร์ที่ร่องแก้มให้อีกด้วย ( เอาให้เต็มที่เลยค่ะหมอ)

คุยเสร็จ พยาบาลก็มาพาตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างหน้าให้เรียบร้อย เข้าห้องผ่าตัด ก็มาทำความสะอาดหน้าให้ ตัดขนจมุกให้ แล้วก็เจาะเส้นเลือดเพื่อใส่น้ำเกลือที่แขนซ้าย สักพักหมอเข้ามา หมอบอกว่า Don’t worry พอสิ้นเสียงคุณหมอ  เราก็ภาพตัด
รู้สึกตัวคือ พยาบาลมาปลุก แล้วก็พาไปที่ห้อง recovery เพื่อพักฟื้น บอกตรงๆนะคะ ไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่อะไรเลยค่ะ ตอนแรกคิดว่าเพราะยาชารึป่าว เลยไม่รู้สึกอะไร สักพัก มีพยาบาลเข้ามาฉีดยาอีกเข็มนึง คาดว่าจะเป็นยาแก้ปวดนะคะ แล้วพอครบชั่วโมง เราก็กลับที่พักเลย  ถึงที่พักก็บ่ายสี่โมง (เริ่มทำตอน 11.30 น.)




วันที่ 23 (วันที่ 2 หลังจากทำจมูก)
ตื่นมาก็ปกติค่ะ แค่รำคาญเทปที่ติดจมูกนิดหน่อย หน้าไม่บวม ไม่ช้ำเลย






วันที่ 24 (วันที่ 3 หลังจากทำจมูก)








ข้ามมาวันที่ 28 (วันตัดไหม)
วันนี้ตื่นเต้นมากค่ะ ตื่นแต่เช้า มานั่งรอรถจาก รพ. มารับ เพื่อไปตัดไหม และแกะเทปกาวออก
พอไปถึง รพ. พยาบาลก็ทำความสะอาดแผล และ และตัดไหมออก ตอนแรกก็กลัวเจ็บนะคะ แต่พอตัดจริงๆก้ไม่เจ็บเลยค่ะ พยาบาลมือเบามากๆ น่ารักมาก พยาบาลบอกว่า หมอทำปลายเชิดให้ เพราะ ยูมีคาง คางยูยาว รับกันกับจมุก







ข้ามมารูปปัจจุบันเลยดีกว่าค่ะ อันนี้คือรูปตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. มาจนถึงวันนี้ (5 ม.ค.) ผ่านมาได้ 15 วันพอดี ไปทำงานที่ออฟฟิสแทบไม่มีคนดูออก เพราะหมอไม่ได้ทำโด่งกว่าเดิมมาก เลยมองไม่ออกค่ะ ส่วนมากจะโฟกัสไปที่ใต้ตามากกว่า เพราะมันเห็นชัดมาก 5555 โดยรวมแล้วชอบมากค่ะ ไม่เยอะไป ไม่น้อยไป แล้วหน้าดูละมุนมากขึ้น ที่สำคัญฟื้นตัวไวมาก คนที่บ้านยังไม่รู้เลยว่าไปแก้จมุกมา (มันดีตรงนี้แหละ)










ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจ ยังไงลองแชทมาคุยกันได้นะคะ เราไม่ใช่เอเจนซี่ค่ะ เราเป็นลุกค้าของโรงพยาบาลที่ไปเจอของดี ราคาเอื้อมถึง แล้วอยากจะบอกต่อค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้นะคะ
Id line : somzzaa
e-mail : Anakkanong.m@gmail.com