|
|
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย zcream เมื่อ 2017-4-4 18:20
สำหรับใครที่มีปัญหามีไขมันส่วนเกินเยอะ อย่างเหนียง คางสองชั้น และกรอบหน้าไม่ชัด แนะนำให้ปัก! ปัก! ปัก! และ ปัก!! กระทู้นี้ไว้เลยค่าา เพราะวันนี้เราจะมารีวิวดูดไขมันหน้าบริเวณขอบกรามและเหนียง ที่เพิ่งทำไปได้ 15 วัน ด้วยราคาน่ารักๆ เบาๆ จุดละ 20,000 บาท (ถือว่าถูกมากถ้าเทียบกับที่อื่น!!)
สาเหตุที่เราเลือกดูดไขมันหน้าแทนการฉีดโบท็อกซ์หรือเมโสหรือการใช้เครื่องทรีทเมนต์ต่างๆ ขอพูดตรงๆ เลยว่า ลองมาเกือบหมด ค่าเสียหายโดยรวมยังจะแพงกว่าด้วยซ้ำค่ะ ที่เห็นผลที่สุดสำหรับเราคิดว่าคือการทำ Hifu เป็นเครื่องทรีทเมนต์เลเซอร์ปรับรูปหน้าค่ะ ทำครั้งแรกก็เห็นผลนะ แต่มันยังไม่สุด ต้องเว้นช่วงเข้าไปย้ำอีก ด้วยราคาที่ค่อนข้างแพง (สำหรับเรา) เลยเซย์กู๊ดบาย คิดว่ามันเหมาะกว่าสำหรับคนที่ไม่ชอบเรื่องมีดหมอจริงๆ ส่วนโบท็อกซ์หรือเมโส จะบอกว่าไม่เห็นผลเลยก็ไม่ใช่เลยทีเดียว เห็นผล แต่น้อยมากกกกก ไม่รู้ว่าที่ฉีดให้ของปลอมรึเปล่า ต้องไปย้ำทุกเดือน บางครั้งฉีดมาก็ช้ำ เลยตัดสินใจเซย์กู๊ดบายเหมือนกันจ้า
ปล่อยตัวอยู่ประมาณ 3 เดือนก็มีเพื่อนที่ทำงานในคลินิกศัลยกรรมแห่งนึงแนะนำเรื่องการดูดไขมันใบหน้า ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นอะไรที่ใหม่และน่าลอง ไม่เคยรู้มาก่อนว่าดูดไขมัน มันดูดบนหน้าได้ด้วย !? และราคาอย่างที่บอกข้างบนเลย คือมันถูกเท่าการฉีดโบท็อกซ์ของบางคลินิกเลยอ่ะ เลยลองตัดสินใจเข้าไปปรึกษากับคุณหมอดูก่อน เพื่อประกอบการตัดสินใจอีกทีนึง
ขออนุญาตบอกชื่อคุณหมอนะคะ คุณหมอชื่อคุณหมอเชี้ยว ซึ่งจะเชี่ยวชาญเรื่องการดูดไขมัน เมื่อได้เจอคุณหมอตัวเป็นๆ First Impression คือ หมอหล่อเข้มมากก บ้า! คนละเรื่องละ คุณหมอพูดจาน่าฟัง บุคลิกดี ดูสุขุม เป็นอะไรที่ประทับใจตั้งแต่แรกเจอ เอาล่ะ ถึงเวลาพูดคุยจริงๆ จังๆ หลังจากทักทายกันไปแล้ว
หมอ : ไหนขอผมดูหน่อยนะว่ามีปัญหาตรงไหน ขออนุญาตนะครับ (หมอยื่นมือมาประคองหน้าเราแล้วจับหันซ้ายขวาก้ม)
เรา : หนูเหนียงเยอะมากค่ะ เป็นคนมีคางหลายชั้นมาก ลองมาหลายวิธีแล้วก็ไม่ลดเลย
หมอ : ผมเห็นอยู่นะ อีกจุดนึงที่ไขมันสะสมเยอะคือตรงช่วงบริเวณขอบกราม ตรงนี้ฉีดโบท็อกซ์ไปก็ไม่ช่วยอะไรเพราะมันคือไขมันสะสม (หมอจับให้เราดู)
เรา : โห หนูไปฉีดโบท็อกซ์ย้ำตั้งหลายเดือน ถึงว่าสิมันไม่ลงซะที (แอบเสียดายตังมากกก หมดไปเยอะกับโบท็อกซ์)
หมอ : ผมแนะนำดูด 2 จุดเลย ทั้งเหนียงกับขอบกรามนะ เจ็บตัวทีเดียวเลย
เรา : (คิดในใจ จุดละ 20,000 .. ถูกกว่าฉีดโบท็อกซ์ ไม่มีอะไรจะเสียละ ลองละกัน..!! ) โอเคค่ะ หนูเชื่อคุณหมอนะคะ 555555
หมอ : ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูดให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้นะ
นี่คือบทสนทนาระหว่างคุณหมอเชี้ยวกับเราคร่าวๆ เท่าที่จำได้ คือตอนนั้นตื่นเต้นนะ จริงๆ อยากจะพูดเยอะกว่านี้แต่ด้วยความตื่นเต้นนี่แหละ ลืมหมดจ้า พอปรึกษาเสร็จก็ลงไปนัดคิวทำ เป็นวันศุกร์อาทิตย์ถัดไป และจ่ายเงินมัดจำครึ่งนึง หลังจากนี้ก็เข้าสู่ช่วงเตรียมตัวค่ะ งด ปาร์ตี้ สังสรรค์ No แอลกอฮอล์ No วิตามิน และอาหารเสริม
ลัดมาวันทำเลยแล้วกันเนอะ นัดคิวช่วงเช้า 10 โมงเช้าและเป็นเคสแรก เหตุผลที่อยากได้เคสแรกเพราะคุณหมอน่าจะกำลังเฟรช สดชื่น ไม่เหนื่อย ไม่ล้า ผลลัพธ์จะได้ออกมาดีๆ (คิดเยอะไปป่ะฉัน5555) จากนั้นก็ขึ้นไปล้างหน้าเปลี่ยนชุดผ่าตัดแล้วเข้าไปเตรียมตัวในห้องผ่าตัดรอคุณหมอ บรรยากาศในห้องเหมือนในห้องผ่าตัดซีรีย์เกาหลี ดูสะอาดมากก มีเพลงคลอเบาๆ แอบย้ำคุณหมออีกทีว่าดูดให้หมดเลยนะคะ เอาออกไปไม่ต้องเกรงใจหนู คุณหมอก็รับมุกค่ะ แล้วก็ใช้ปากกาเมจิกวาดที่หน้า และอธิบายให้ฟังว่าแผลจะอยู่ตรงไหนบ้าง
หลังจากที่วาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว พยาบาลก็เจาะเข็มตรงหลังมือให้น้ำเกลือ ใช้เวลาทำประมาณชั่วโมง เสร็จแล้วก็จะใส่ผ้ารัดและไปนอนพักฟื้น (ผ้ารัดควรใส่ตลอดเวลาประมาณ 7 วัน) ไม่ได้ถ่ายรูปที่ใส่ผ้ารัดหน้าไว้เลย ซอรี่นะคะ
|
|
ตาวิเศษ
โพสต์ 2017-4-4 18:18:59
บุ๊คมาร์ก
แชร์
เนวิเกเตอร์
สมุดโน็ต
Color card
เจ้าของ
