|
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย tarn3011 เมื่อ 2012-5-28 19:52
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย tarn3011 เมื่อ 2012-5-28 19:51
ต้นฉบับโพสต์โดย alexzy เมื่อ 2012-5-28 12:56 [url=forum.php?ทรงสวยดี เข้ากับนหน้า ดูหน้าหวานน่ารักจัง
เด๋วก็ยุบ ...
ประสบการณ์เสริมจมูกและเสริมคางค่ะ
เป็นคนที่มีดั้งน่ะค่ะแต่มีอยู่นิดหน่อย จนไม่แน่ใจว่ามีรึเปล่าแต่ที่บ้านคุณแม่เป็นฝรั่งดั้งโด่งและน้องชายก็โด่ง คุณพ่อที่เป็นไทยจีนก็โด่งแต่ไงหนูไม่โด่งอ่าาา พอลองหาข้อมูลก็ไปถูกใจหมอมงคล คลีนิคสมเพชร เชียงใหม่นี้เอง
ก็เลยโทรไปนัดพร้อมโอนมัดจำ 3,000 บาทให้ทางคลีนิค โอนวันอาทิตย์นัดทำพฤหัสหน้า พอถึงวันนัดคุณหมอน่ารักมาก มองแว็บ ๆ ก็แค่ดูดีอ่ะหมอแต่พอได้มองได้พูด เออ หมอก็น่ารักเนอะ อิ อิ หมอถามมาว่า" จมูกอยากได้แบบไหนคับ" ไอ้เราก็นึกสักแป็บ อยากตอบชมพู อารยา แต่ถ้าทำมาไม่เข้ากับหน้าล่ะ ไม่เอาดีกว่าก็เลยตอบหมอว่า " เอาเป็นว่าใครที่มองหนูก็รู้ว่าหนูจมูกโด่งค่ะหมอ"
สักพักคุณหมอก็เริ่มให้ขยับไปใกล้ ๆ หน่อย จับหน้าเราบิดซ้าย บิดขวา แล้วบอกเราว่าคุณก็พอมีสันบ้างน่ะครับ แต่เนื้อจมูกน้อยและเห็นกระดูกโปนขึ้นมา ถ้าอยากให้ธรรมชาติหมอแนะนำ 33,000 น่ะครับ เพราะผิวซิลิโคนมันจะดูธรรมชาติเหมาะกับคนเนื้อจมูกน้อย ส่วนเรื่องโด่งหมอคงทำให้เห็นว่ามีชัดขึ้นแต่หมออยากให้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าน่ะครับ โอเครค่ะ เป็นไงเป็นกันค่ะคุณหมอ
พอตกลงเรื่องรูปทรงของจมูก คุณหมอก็ให้เราเอียงข้างให้แล้วเอาซิลิโคนทาบ แล้วคุณหมอก็หันไปปาดซิลิโคน แล้วก็ทาบอีก ปาดอีก ทาบอีกประมาณ 3 - 4 รอบ โอเคครับเดี๋ยวเชิญไปอีกห้องเลยครับ
พอคุณหมอกำลังจะลุก"หมอค่ะเดี๋ยวก่อนคุณหมอลืมคางป่ะค่ะ หนูทำคางพร้อมกันเลยเน้อ" หมอหน้าเหวอนิด ๆ " อ้อ ๆ ครับ ๆ" แล้วก็กลับมานั่งใหม่ "อยากได้คางประมาณไหนครับ แต่ถ้าให้หมอแนะนำน่ะ เอาเพิ่มมาอีกนิดก็พอล่ะ ให้พอหน้าเรียวลง" "อ้อ ค่ะ หมอค่ะอยากผ่าด้านในปากอ่ะค่ะ" "ที่จริงแล้วมันไม่ได้มีความจำเป็นน่ะครับ เสียตังค์เพิ่มไปเสียเปล่า ๆ เอาอย่างนี้ล่ะกันครับ คุณหมอจะบอกข้อดี ข้อเสียของทั้งสองอย่างให้คือข้อดีของแผลข้างนอกคือ จัดทรงซิลิโคนได้ง่ายกว่า ติดเชื้อยาก แผลหายไว ไม่เห็นแผลง่ายต้องเงยให้ดูถึงเห็นแผล แล้วแผลนิดเดียวครับ ส่วนข้อดีของแผลข้างในคือ มันมองไม่เห็นแผลด้านนอกครับ" ++แล้วก็เงียบเลย++ "โอเครค่ะคุณหมอ เอาเป็นว่าถ้าเอาข้อดีสลับกับข้อเสีย หนูเอาแผลข้างนอกก็ได้ค่ะ " หมอยิ้มแล้วก็นำเราไปห้องปาด5555
พอเข้าไปก็เจอผู้ช่วยแล้วก็บอกให้เรานอนเลย พอนอนรอสักพัก "เอาคุณลุกก่อนครับ" หา!!คุณหมอให้ลุก เอ้าลุกก็ลุก "ฟังคุณหมอน่ะครับ ( คุณหมอก็แตะไหล่เรานิด ๆ แอบเขินนิดนึง) คางเราไม่เท่ากันนิดนึงน่ะ" แป๊ววววว โหคุณหมอนึกว่าจะพูดอะไร " หมออยากบอกไว้ก่อนอ่ะครับ เดี๋ยวคนไข้จะมาหาว่าหมอทำคางเบี้ยว" แล้วหมอก็ยิ้มพร้อมกับเอากระจกให้เราดู แล้วขีดเส้นบนคางให้เราเห็นชัดเจนขึ้น หลังจากนั้นก็บอกให้เรานอน เอาผ้ามาคลุมปิดหน้า เปิดแค่จมูก นับยังไม่ถึง 2 วิ จึก จึก จึก เข็ม 1,2,3 พอเข็มที่ 4 เอื้อก!!!!!น้ำตาไหลเลยเจ็บอ่าค่า โหคุณหมอไม่บอกให้เตรียมใจเลยอ่ะ
พอหลังจากนั้นความทรมานที่สุดก็มา เพราะเราทำคางบวกจมูกพร้อมกัน หมอเลยลงฆ่าเชื้อทั้งหน้าแสบค่ะ ที่แสบคือมันลงเข้าไปในจมูก แอบเข้าตา เข้าปาก ทรมานมากได้แต่หลับตาปี๋ พอหมอให้หายใจทางปากแล้วเอาผ้าก็อตยัดเข้าไปในจมูก หลังจากก็ได้ยินเสียง ฉึก ฉึก ครืด ดรืด แล้วหมอก็ดัน ดัน เอาซิลิโคนยัดเข้าไปในจมูก ดันขึ้นไปจนจะหัวคิ้ว ความรู้สึกมันบอกค่ะ พอสักพักก็สัมผัสได้ถึงเข็มจิ้มเหมือนเย็บ
หลังจากนั้นคุณหมอก็ทำคางต่อกับคางเจ็บนิดหน่อยค่ะตรงมุมปลายของคางเวลาซิลิโคนเข้าไปเจ็บจี๊ด จี๊ด
" เสร็จแล้วครับ ลุกไปอีกห้องเลยครับ" พอลุกก็น่ามืดนิด ๆ พะอืด พะอม หน่อย ๆ เพราะกลืนยาฆ่าเชื้อกับเลือดตัวเองเข้าไป พอย้ายห้องคุณผู้ช่วยก็มาฉีดยาแก้ปวดให้ที่สะโพก โอย!! ปวดโคตรค่ะ พอฉีดเสร็จมันราวไปต้นขาแล้วอยากอ้วกทันที ทางที่ดีควรทานอะไรไปนิดหน่อยหรือว่าซื้อน้ำหวาน นมไว้ดื่มหลังจากทำเสร็จก็ดีน่ะค่ะ จะได้ไม่ต้องพะอืดพะอมมาก พอเสร็จต้องใช้เวลาพักหน้าเคาร์เตอร์ประมาณชั่วโมงค่ะ ถึงขับรถกลับบ้าน
|
|