รีวิว ตาสองชั้น จากที่เขียนอายไลเนอร์หนาเป็นนิ้ว ตอนนี้เขียนไว้แค่เส้นบางๆ ก็เป๊ะละ

pepokasuguar · โพสต์ 2016-9-12 22:20:00

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pepokasuguar เมื่อ 2016-9-12 22:20

เราเป็นคนตาชั้นเดียวมาตั้งแต่เกิด ผสมกับความหมวย ยิ่งไปกันใหญ่ (หมวยตาตี่) มันเป็นปมนะยูว์ คือถ้าเราไปข้างนอก ไม่แต่งหน้ากรีดไลเนอร์ ทาคิ้ว เราก็ไม่ออกจากบ้านนะ กลัวคนอื่นตกใจ ผีจีนที่ไหนหลุดมา ถ้าไปเที่ยวเขา เที่ยวเหนือ ตื่นเช้าเพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น เป็นไรที่แบบ (ต้องตื่นเช้ากว่าชาวบ้านมาเขียนตา) ขนาดไปเที่ยวทะเลก็ทานะคะ ยี่ห้อนี้ก็ดีจริงไรจริง ลงน้ำไปตั้งหลายชม. ขึ้นมายังอยู่ อย่าเอามือไปโดนเป็นพอ กิจกรรมที่เป็นตอนเช้า ต้องพบหน้าคนอื่น เช่น ใส่บาตร ซื้อกาแฟ ไปซื้อของข้างบ้าน เรายังกรีดไลเนอร์เพิ่มความมั่นใจไป เวลาคนมองเราจะได้ไม่รู้สึกเสียเซลฟ์มาก เราเป็นคนแต่งหน้าอยู่แล้วใช้รองพื้นปิดรอยต่างๆ ขอบคุณเครื่องสำอางค์ ที่ช่วยเรา นี่คือรูปเราตอนยังไม่ทำตาสองชั้น

เราไม่เคยคิดทำตาสองชั้นเลยนะ แม้จะเป็นปมอยู่นิดๆ ก็ตาม แต่ด้วยการสิง ที่ดั้งโด่งมาสักพัก บวกกับเพื่อนยุ และสื่อโฆษณาต่างๆ เราก็เริ่มหาข้อมูลว่ามีที่ไหนบ้าง ที่เก่งเฉพาะทำตาสองชั้น เราสนใจอยู่ 2 ที่ คือหมอเส (มาสเตอร์พีช) และ หมอ โอ๋ ธนพันธ์ และอีกปัจจัยคือ "งบ" สุดท้ายเราเลือกหมอโอ๋ ราคาแบบทีเดียวจบ 20000 รวมทุกอย่าง เราดูรีวิวไปเรื่อยๆ ไม่ได้ถามใคร หาเอง ดูเอง ตัดสินใจเองทุกอย่าง โทรไปจองเพื่อปรึกษารอบแรก มาช้า 5 นาที จอดรถอยู่ด้านล่างคลีนิค ขึ้นมาอีกที หมอเข้าเคสไปละ รอไปค่ะ อีก 1 ชม. พอเจอหน้าหมอ คุยไม่ถึง 5 นาที บอกว่าอยากได้ตาแบบเต้ย เอาชั้นไม่หนา เอาแบบธรรมชาติ หมอบอกแบบเต้ยหนานะ เดี๋ยวหมอดูให้ละกัน >> เอิ่ม เอาที่หมอว่าดีก็ตามนั้น

จากที่ดูรีวิวเพจหมอ หมอเป็นคนชอบเข้าวัด น่าจะเป็นคนใจเย็น ปราณีต และเป็นหมอศัลยกรรมจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ (อันนี้เรามโนเองว่าต้องดี) ดีงามมากประวัติ และอีกอย่างที่มั่นใจ เราถามผู้ด้านล่างเคาเตอร์ว่าหมอรับเคสผ่าตาวันละกี่เคส เค้าบอก 7 เคส ต่อวัน (ดีอ่ะ ไม่เยอะเกินไป จะได้เสถียร)

เราเห็นคนอื่นๆ เขียนโพสต์หมอหล่อ คุยเพราะ (ส่วนตัวคือเฉยๆ มาก เพราะคุยกับหมอ 5 นาที ) สัมผัสไม่ไหวขนาดนั้นนนน แล้วเราก็ลงมามัดจำด้านล่าง 5000 บาท รูดบัตรคิด 3%

เงินสดก็ได้ค่ะ คิวเรา 30/7;59 นัดบ่าย มาถึงปุ๊บรอสักพัก วัดความดัน เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เปลี่ยนชุดแล้วเข้าห้องผ่าจ้า (คลีนิก รวมถึงห้องผ่า สะอาดนะคะ แต่งโทนสีขาว ) ตอนที่เข้าไปเห็นผู้ช่วย เตรียมของผ่าแล้วเริ่มหลอน ผู้ช่วยถามเราว่ากลัวมั้ย ปากบอกว่ากลัวค่ะ แต่ใจเราอยากกลับบ้านแล้ว เปลี่ยนใจทันมั้ย ผู้ช่วยบอกเจ็บแค่ฉีดยาชา ระหว่างนั้นหมอโอ๋ ก็ไปคุยกะคนที่เค้ามาปรึกษา

เริ่มด้วยการทายาฆ่าเชื้อบนหน้า ผ่านไปสักพักหมอเข้ามา นั่งข้างๆ หมอบอกฉีดยาแล้วนะคะ ก่อนหน้านี้หมอบอกว่า จะฉีดยาด้านขวาก่อนนะ แล้วสักพักจะฉีดด้านซ้ายต่อ ระหว่างทำอาจจะติงๆ หน่อยนะ เพราะเอาไขมันออก และจะมีกลิ่นไหม้นิดนึง มันเป็นเครื่องคล้ายๆ เครือ่งจี้ประสานแผล จำได้ประมาณนี้

เอาแล้วไง ใจเต้นตุ๊บๆ เราเกรงมากเลย เมื่อยมาก ระหว่างทำมันติงๆ จริงๆ ด้วย เราจินตนาการตามทุกขั้นตอน (ขอเตือนถ้าคิดจะทำอย่าดูวีดีโอศัลยกรรม ถ้าเป็นคนกลัว) หมอจะให้ลืมตาเช็คชั้นตาประมาณ 4-5 ครั้ง เสร็จแล้วหมอบอกว่าสวยแล้วค่ะ ผู้ช่วยพามาอีกห้องเพื่อประคบเย็น แต่เราเจ็บตานะ ปวดเลยแหละ เพราะตอนใกล้เสร็จเหมือนยาหมดฤิทธิ์ เรารีบบอกหมอ หมอบอกอีกแป๊ปเสร็จแล้วค่ะ ประคบเกือบ 45 นาที ลงมารับยาแล้วกลับบ้าน วันแรกหลังทำตาเสร็จเราประคบเย็นตลอดเวลา นอนหมอนสูง กินยาที่เค้าให้มาเป็นเวลา ห้ามโดนน้ำ วันแรกจะทำอะไรก็ลำบากไปซะทุกอย่าง
มาดู 7 วันของเรากันดีกว่า

วันที่ 2 มันก็ยังติงๆอยู่นะ แต่เราขับรถพอได้ วันที่ 4 ไปทำงานใส่แว่นตา เจอทักว่าร้องไห้มาหรา แค่นั้น เราประคบเย็นทุกวัน ว่างก็ประคบ งดของแสลงทุกอย่าง ใบที่ห้ามบอก 7 วัน แต่เราให้เดือนนึงเลย รวมไปถึงอาหารทะเลด้วย น้ำอัดลม ก็แสลงนะคะ

พอครบ 7 วันตัดไหม ผู้ช่วยตัดให้ เบามากไม่รู้สึกเลยว่าตัดแล้ว สักพักหมอของ Follow Case หมอดูเสร็จบอกสวยแล้ว เปลี่ยนไปเลยนะ หลังจากตัดไหมแล้วก็ยังโดนน้ำไม่ได้อีก 2 วัน พอครบ 10 วันเราก็เริ่มแต่งหน้า จนถึงวันนี้ก็ 1 เดือน 12 วัน เราก็ได้ตานี้มา

ทั้งนี้ขอบคุณหมอโอ๋ค่ะ งานตา หมอปั้นได้สวยมาก