|
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย aucharaa เมื่อ 2016-10-10 18:32
สวัสดีค่ะ ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่อ อัจฉรา ตอนนี้อายุ 40 ปี วันนี้ขอแชร์ประสบการณ์ครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตที่ไปทำหน้า ลดโหนก เหลากราม เลื่อนกระดูกคางบอกค่ะ เห็นจากรูปก็ไม่ต้องบอกอะไรมากว่าเป็นคนแก้มตอบ โหนกสูง เลยทำให้ใบหน้าดูเศร้าและดูอายุเยอะ ToT ”
มีความตั้งใจไว้ว่าอยากไปทำศัลยกรรมปรับโครงหน้าที่เกาหลี เพราะดูจากรายการทีวีที่ดัง ๆ และคนไทยก็ได้ไปทำ (คงพอจะทราบว่ารายการอะไร) เลยไปศึกษาข้อมูลว่า ถ้าไปทำที่เกาหลี เลยงบเท่าไหร่ สรุป ค่าตั๋ว ค่าทำหน้า ทั้งหมด ใช้เวลากว่า 3 ปี และชั่งใจอยู่นานมาก เพราะงบประมาณเกือบ 700,000 บาท ราคาสูงมาก ๆ
ในระหว่างหาข้อมูลอยู่ก็เก็บตังค์ไปเรื่อยๆและยังคิดเสมอเลยว่าจะต้องมีซักที่ที่เราไปทำได้ จนเสริ์ชมาเจอคุณหมอพี นายแพทย์พีรศักดิ์ ฉอตระการกิจ ดีกรีอาจารย์แพทย์เกียรตินิยมเหรียญทองจากศิริราชด้วย เลยลองติดต่อ คุณเคท เป็นเลขาฯ คุณหมอ เพื่อสอบถามและนัดมาปรึกษากับคุณหมอเรื่องการปรับกระดูกโครงหน้า
ตัดสินใจเดินทางมาจากโคราช มาปรึกษาที่กังนัมคลีนิค เราถามเยอะมาก ๆ เป็นชม.เลยค่ะ แล้วก็กลับไปคิดทบทวนคำแนะนำของหมอว่า
“ปัญหาของเราเกิดจากขากรรไกร การแก้ไขจริง ๆ คือ ต้องผ่าตัดเลื่อนขากรรไกรเพื่อขยับใบหน้าเราให้สมมาตรมากขึ้น แต่คุณหมอบอกว่าไม่จำเป็นจะไม่ผ่าตัดกระดูกขากรรไกรมีความเสี่ยงสูง ยิ่งอายุเกิน 45 ยิ่งเสี่ยงเพราะการผ่าตัดขากรรไกรเป็นการผ่าตัดที่ใหญ่เกินไป ส่วนเราเองก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการขบเคี้ยวด้วย คุณหมอจะแก้ไขด้วยการยุบกระดูกกะโหลกหรือภาษาเราเรียกว่า ลดโหนก เหลากราม และเลื่อนกระดูกคางให้รูปหน้าเรียวขึ้น”
คือวันนั้นด้วยความที่เราเห็นวิธีการพูดการอธิบายของหมอรู้สึกว่าเขาใส่ใจในรายละเอียดของเรา
V
V
วันรุ่งขึ้นก็ตัดสินใจโอนเงินไปเลยค่ะ และนัดกับทางคุณหมอไว้เสร็จสรรพ และไม่ได้ปรึกษาคุณสามีเลย 555 พอดีเราทำงานในโรงเรียนและติดกับวันแม่ เลยได้ลาหยุดยาวค่ะ กะว่าจะกลับไปแล้วเห็นเราสวยขึ้นเลยประมาณนั้น
ก่อนวันผ่าตัด 1 วัน ก็มีการตรวจร่างกายก่อน วันรุ่งขึ้นได้คิวผ่าตอนเช้าเลยคือ 8 โมงเช้าค่ะ ใช้เวลาผ่าตัดไปประมาณ 4 ชั่วโมง โดยการดมยาสลบ และให้นอนพักฟื้นที่รพ. 2 คืนค่ะ
วันแรก มีสายเดรนออกจากปาก เพื่อระบายเลือดที่ค้างในปากจากการผ่าตัดค่ะ ผ่าตัดในปากทั้งหมด มีเปิดแผลตรงไรผมนิดหน่อย เพื่อตัดโหนกกประมาณ 0.5 เซนค่ะ คือเล็กมากมองแทบไม่เห็น
หลังผ่าตัด ระบมนิดหน่อย ไม่ค่อยเจ็บนะคะแต่เป็นอาการชามากกว่า
วันที่ 2
เริ่มมีไข้นิดหน่อย พยาบาลเอายาให้ทาน ก็ดีขึ้นค่ะ
หมอบอกว่าโชคดีที่เราแก้มตอบพอตัดกระดูกออก ทำให้แก้มไม่ห้อยและใบหน้าดูอิ่มขึ้นด้วย
หมอบอกว่าโชคดีที่เราแก้มตอบพอตัดกระดูกออก ทำให้แก้มไม่ห้อยและใบหน้าดูอิ่มขึ้นด้วย
วันที่ 3
กลับบ้าน คุณหมอแนะนำประคบอุ่น เพื่อให้อาการบวมลดลงค่ะ และให้คนมาถามอาการเราเรื่อยๆ
วันที่ 7
นัดตรวจแผลในปากเพราะไหมในปากเป็นไหมละลายทั้งหมดค่ะ และตัดไหมข้างกกหู
ในวันที่ 7 อาการบวมลดลงเร็วมากๆ เพราะจริง ๆ เราตั้งใจจะผ่าตัดอยู่แล้วจึงดูแลตัวเองและเตรียมตัวเป็นอย่างดี คือ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทั้งว่ายน้ำและโยคะ ทำให้อาการบวมยุบลงเร็วมาก
3 สัปดาห์
หน้าตรง
ด้านข้าง
หมอแนะนำว่าค่อยๆ ฝึกยิ้มและอ้าปากและทีละนิดด้วย พอส่งรูปไปมาให้หมอดู หมอเองยังเอ่ยปากชมเลยค่ะ อิอิ
พอมาเทียบก่อนและหลังทำให้รู้สึกว่าหน้าตัวเองเด็กลงตั้ง 10 ปี ใคร ๆ ก็ชมว่าสวยขึ้น หน้าหวานขึ้น ดูไม่เศร้าแล้ว โดยเฉพาะสามีรวมถึงลูกๆ ด้วย ไปไหนก็มั่นใจขึ้นมาก รู้สึกว่าคุ้มมากๆ คิดไม่ผิดจริงๆที่ตัดสินใจไปทำ พอไปทำมามีเพื่อนและคนรู้จัก มาถามรายละเอียดเยอะมากค่ะ เราเลยให้โทรไปลองปรึกษาเองดีกว่าเพราะแต่ละคนมีปัญหาไม่เหมือนกัน หมอเขาก็รับปรึกษานอกเวลาด้วย
หวังว่าคงเป็นประโยชน์นะคะ ผิดพลาดยังไงขออภัยไว้ด้วยค่ะ
|
|