มาแชร์ประสบการณ์การผ่าตัดเสริมหน้าอกกับคุณหมอธีระพงษ์ บางกอกศัลยกรรม ค่ะ

alastmint

มาสรุปให้อ่านกันเพลิดเพลินนะคะ นับตั้งแต่ไปปรึกษาคุณหมอวันที่ 6 กค 2555  ผ่าตัดวันที่ 9 กค 2555 จนกระทั่งเวลาปัจจุบันค่ะ
เราไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เยอะ  แต่จะหารูปมาประกอบให้ทีหลังจ้า

ทำการนัดขอคำแนะนำกับคุณหมอธีระพงษ์  วันศุกร์ที่ 6 ก.ค. 2555  มั่นใจ ไปคนเดียวค่ะ  (คูณหมอธี เป็นหมอคนแรกที่ไปปรึกษา แล้วก็โอเคเพราะท่าทางหมอเอาใจใส่คนไข้ดี แล้วก็จริงอย่างที่เค้าว่ากัน)
1. ไปถึงบ่ายสอง  รอเข้าห้องพบแพทย์ประมาณบ่ายสามกว่า
2. ถอดเสื้อ ถ่ายรูป โดยเจ้าหน้าที่ที่คลินิก และลองไซด์ของซิลิโคน เลือกโดยเจ้าหน้าที่ที่คลินิกเช่นเคย
3. ได้ sport bra สีดำมาฟรีๆหนึ่งตัว ใส่ตอนนั้น แล้วก็ลองเอาซิลิโคนจับใส่ หนึ่งข้าง 320 cc ทรงแบบธรรมชาติ  หนึ่งข้าง 350 cc ทรงสูง
4. ลงตัวที่ 350 cc แล้วก็ไปวางแปะไว้บนโต๊ะ รอให้คุณหมอมาดู
5. คุณหมอมาก็คุยเรื่อยเปื่อยไปประมาณครึ่งชั่วโมง  หลังจากนั้นก็ทักว่า ถ้าพอใจที่ 350 ใส่ใต้กล้ามเนื้อ มันเหลือ 320 นะ  แล้วคุณหมอก็ออกไปนอกห้องให้ลองเลือกใส่เองตามใจชอบว่าพอใจหรือเปล่า
6. สุดท้ายมาลงตัวที่ 380 cc เพราะมันจะได้ลงมาที่ 350 cc ค่ะ Allergan ผิวทราย ทรงกลม สูง  
7. ไปคุยเรื่องการเงินกับคุณหนิง  แล้วปรากฏว่าได้วันที่ 16 ก.ค.  
8. ชำระค่ามัดจำ 5,000 บาท ราคาทั้งหมด 50,000 บาทค่ะ
9. พอกลับไปบ้านกลัวเวลาไม่พอ เพราะเราอยู่ต่างประเทศ มีเวลาเหลือแค่ เดือนครึ่งนับจากวันที่ไปปรึกษาคุณหมอ   เลยตัดสินใจโทรไปหาคุณหนิงที่คลินิกว่าพอจะเลื่อนให้เร็วกว่านั้นได้หรือไม่   ในที่สุดก็ได้วันจันทร์ที่ 9 ก.ค. 3 วันหลังจากไปปร๊กษา (จริงๆแล้วคุณหมอบอกไปว่า ปรึกษาวันนั้นได้ผ่าตัดวันนั้นเลย สนใจมั้ย เคสกรณีพิเศษ  ถ้าเราเตรียมพร้อมมากกว่านี้ เราลุยโล้ด)

Pannapatsara

สวยมากค่ะ หุ่นดีมาก

alastmint

วันอังคาร 10 กค 2555 Day 1 หลังผ่า  (ต้องมีคนช่วยพยุง ตอนลุกขึ้นจากเตียงตลอด)
1. เจ็ดโมงเช้าน่าจะได้ อาหารเช้าพร้อม แต่ก็ทานไม่ลง คลื่นไส้ มึนๆ อยากนอน
2. สายๆ พยาบาลสองนาง เข้ามาบอกให้ลองลุกไปเข้าห้องน้ำดู  เค้าจะพยุงตัวเราไปนั่งทำธุระในห้องน้ำ ไปกันสามคนเลย ตอนนี้แหล่ะที่รู้สึกว่ามึนๆๆ อยากนอนและอยากอาเจียรมาก แต่ก็ไม่
3. ประมาณ 11 โมงน่าจะได้ อาหารเที่ยงพร้อม แต่ก็ทานไม่ลงอยู่ดี  ก็ยังมีนๆ คลื่นไส้อยู่นะ และอยากนอน ยาสลบยังมีค้างอยู่
4. บ่ายๆ เพื่อนมาเยี่ยม พร้อมเค้กวันเกิดเพราะเป็นวันเกิดเราพอดี  (อ่าวอีเพื่อนบร้า ใครมันจะไปกินลงฟะ แต่คนเฝ้าไข้ชอบ ฮ่าฮ่า) คุยแบบหลับๆๆ แล้วก็หลับจริงๆ มืนและคลื่นไส้ตามระเบียบ
5. ตกเย็นประมาณ 5-6 โมงเย็น ตื่นมาสดชื่นหน่อย ไม่คลื่นไส้แล้ว ไม่หิวข้าว เพราะมีสายน้ำเกลือยังอยู่ที่แขน
6. คุณหมอธี มาประมาณ 2 ทุ่มเหมือนเดิม มาถอดสายระบายเลือด ออกทั้งสองข้าง  คุณหมอมาถึงก็มาดูว่าเป็นไงมั่ง คุยๆไปแล้วก็บอกว่าต้องถอดสายระบายเลือดออกนะ  แล้วก็ดึงปรื๊ดดดดดดดดด หนึ่งข้าง ปรื๊ดดดดดดดด อีกหนึ่งข้าง เห็นรูที่ผิวหนังข้างรักแร้ทั้งสองข้าง  ถามว่าเจ็บมั้ย เราตอบอย่างมั่นใจว่าเจ็บน้อยแบบทนได้ เพราะที่เจ็บปวดจริงๆไม่ใช่แค่ตรงนั้น
7. คุณหมอแกะผ้าที่รัดออก แล้วมายิ้มบอกว่า เห็นมั้ยมีเนินอกแล้ว  (เอ่อคิดในใจ หมอคะ นั่นน่ะยิ่งกว่าเนิน มันปูดบวมจะถึงไหปลาร้าแล้ว)  
8. หลังจากคุณหมอ แกะผ้าออก ก็เร่ิมสอนว่าต้อง ดันเต้านมสองข้างเข้าหากัน นับ 1-10 ประมาณ 3 ครั้งต่อวัน  แต่ระหว่างที่พูดสอนไป มือคุณหมอสาธิตวิธีให้ดูแบบไม่ได้ตั้งตัวเลย  เราล่ะหน้าเขียวๆม่วงๆ เพราะมันเจ็บมาก แต่ก็ทนไหวอยู่  แล้วคุณหมอก็พันผ้ารัดไว้แน่นที่อก แต่ไม่แน่นเท่าตอนแรก  แล้วก็ทำบัตรนัดเวลาตัดไหมที่รักแร้
9. คุณหมอไปแล้ว  นางพยาบาลอีกหนึ่งนางก็เอาของมาคืนทั้งหมด (ถุงยาที่มาจากคลินิก) แล้วกำชับว่าให้รัดผ้าที่อกไว้ก่อนอีกประมาณหนึ่ง-สองวันหลังจากกลับจากโรงพยาบาล แล้วก็รอรถเข็น นั่งให้เข็นลงมาชั้นล่างค่ะ
10. สามทุ่มกว่าขึ้นรถกลับบ้าน กระแทกนิดหน่อย โอ๊ย โอ๊ย แต่ทนได้ น้องชายลืมไปว่าเรานั่งข้างหลัง ขับรถเร็วไปหน่อย แล้วหันมาหัวเราะว่า ในชีวิตไม่เคยขับรถช้าอย่างนี้นานแล้วในรอบ 15 ปี
11.  ถึงบ้าน รีบหาหมอน 2 ใบ แต่มันหยิบหมอนไม่ได้ค่ะ แรงแขนไม่มี ยกแขนหรือใช้แรงแขนนิดเดียวก็เจ็บและตึงมากกกกกกกกกกกกกก  สุดท้ายให้คุณมารดา หยิบมา 3 ใบ จัดท่าให้สบายที่สุดแล้วค่อยนอน   นอนก็ไม่ค่อยหลับ นอนไม่สบายอย่างมาก เจ็บก้นกก ปวดหลัง เมื่อยไหล่ เจ็บซี่โครงข้าลำตัวสองข้างและตรงกลางอก

วันพุธ 11 กค 2555  Day 2  วันแรกที่กลับมาพักฟื้นที่บ้าน ทานยาให้ครบเวลา ครบประเภท
1. ตืนเช้ามา หน้าอกตึงมาก เจ็บปวดได้ใจถึงที่สุด ลูกไม่ขึ้น แต่ก็ต้องสู้ ถึงจะปวดและเจ็บมาก ก็ต้องอดทนนะ เอาแขนหนึ่งข้างยันเตียง เกร็งลำตัว แล้วลูกขึ้นเอง เราทำได้  เพื่อนๆทั้งหลายที่จะไปผ่าตัด ก็ต้องทำได้นะ  ทนให้ถึงที่สุดก่อนที่จะเรียกใครมาช่วย เพราะถ้าเรามัวแต่กลัวเจ็บ ไม่เริ่มยืดกล้ามเนื้อบ้าง มันจะรั้งและตึงมากในอนาคต แล้วจะยกแขนไม่ขึ้นเลย  
2. อาหารคือข้าวต้มหรือโจ๊กหมูสับอร่อยที่สุด
3. เจ็บ ปวด ตึง รั้ง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้่อหลังตรงเอว และ ไหล่ แขนทั้งสองข้าง
4. นั่ง ๆ นอน ๆ 45 องศา ทั้งวัน ตอนกลางคืนเวลานอนก็แบบนี้เลย
5. ดันเต้านมเข้าหากันอย่างที่หมอบอก  เอ่อ เจ็บ แต่ก็ต้องทนต่อไป
6. อาบน้ำครึ่งตัว หน้า แขนและคอ  แผลก็แค่ทำความสะอาดด้วยการ ใช้ hydrogen peroxide เช็ดรอบแผลที่เย็บ  หลังจากนั้น ก็เอา เบตาดีน ทาแผลที่เย็บค่ะ

alastmint

วันจันทร์ 9 ก.ค. 2555
เที่ยงวัน
1. ชำระเงินสดส่วนที่เหลือ 45,000 บาท รับยาและใบส่งมอบตัวคนไข้มาจากคุณหนิง พร้อมที่อยู่โรงพยาบาลราษฏร์บูรณะ
2. ถึงโรงพยาบาล ยื่นใบส่งมอบตัวคนไข้ให้ที่แผนกประชาสัมพันธ์ พร้อมกรอกประวัติคนไข้นิดหน่อย  ทำบัตรคนไข้นั่นเอง
3. นั่งรอคุณป้าพยาบาลเรียกชื่อไปวัดส่วนสูง ชั่งน้ำหนัก ซํ๊กถามว่ามาทำอะไรที่โรงพยาบาล   เราก็ถามว่าปกติคุณหมอมีคนไข้ผ่าตัดเยอะมั้ย  คุณป้าพยาบาลบอกว่าเยอะค่ะ มีทุกวัน แล้วเคสของเราเป็นเคส ผ่าตัดคู่กับทอมญี่ปุ่น (เง็ง เคสคู่แปลว่าอะไร อ๋อ จริงๆแล้ว เราเป็นเคสที่สอง แต่เพราะว่าคุณทอมญ๊่ปุ่นเค้าผ่าตัดมดลูกออกก่อน ระหว่างนั้นคุณหมอธี ว่างเลยมาทำการผ่าตัดให้เราด้วยเป็นการฆ่าเวลา จะได้ม่เป็นการเสียเวลาคุณหมอระหว่างรอคุณทอมญี่ปุ่นนั่นเอง)
4. คุณพยาบาลมาเก็บสัมภาระเราไปแบกทั้งหมด  เกรงใจ บอกว่าไม่ต้องแบก ก็ไม่ยอม แย่งมาถือซะคนเดียว  แล้วก็พาไปยังห้องพักฟื้น คือห้อง VIP ค่ะ  คุณพยาบาลเล่าว่า คนไข้ของคุณหมอธีรพงษ์ จะต้องมาพักห้องเดี่ยว VIP ทุกเคสค่ะ     

ระหว่างรอเข้าห้องผ่าตัด (ส่วนมากหมอจะแวะมาที่ห้องประมาณ 2 ทุ่มเป็นต้นไปค่ะ)  ทำตัวตามสบาย ที่โรงพยาบาลมี WiFi ให้ใช้ฟรี เท่าที่จำได้นะคะ   
1 พยาบาลนางที่หนึ่งมาเช็คประวัติ
2. พยาบาลนางที่สองมาให้รายละเอียดเกี่ยวกับห้องพักฟื้น และรายละเอียดต่างๆของเวลามาเยี่ยมไข้  และขอยาที่ทางคลินิคให้ถือมาโรงพยาบาล
3. หลังจากนั้นให้อาบน้ำ ล้างหน้า ล้างเครื่องสำอางค์ออกให้หมดทุกประเภทพ ล้างยาทาเล็บออกให้เกลี้ยง   ใส่เสื้อและกางเกงที่ทางโรงพยาบาลชัดไว้ให้ ( ห้ามใส่บราและกกน)
4. พยาบาลมาใส่สายน้ำเกลือที่แขน (เพราะว่าอดอาหารตั้งแต่เที่ยง)
5. พยาบาล 2 คนมาช่วงกันโกนขนรักแร้ และหน้าอก (เอ่อ คงต้องการความสะอาดมากๆที่หน้าอกมั้งนะ ถึงแม้ว่าจะเป็นหญิงแท้ก็ไม่เว้นค่ะ)  ตอนเย็นมีอาหารเย็นครบค่ะ
6. รอพบคุณหมอธี เพื่อคอมเฟิร์มทุกอย่าง ก่อนทำการผ่าตัด
7. พอถึงเวลาจะมีบุรุษพยาบาล และพยาบาลอีกหนึ่งนาง จะเข็นเตึยงอีกเตียงมารับ ให้เราเปลี่ยนไปนอนเตียงโน้น เค้าก็เข็นเข้าไปห้องผ่าตัด  ชั้นไหนจำไม่ได้ค่ะ
8. อาจเจอหมอธี อีกรอบหลังจากเข้ามาในส่วนห้องผ่าตัด เพื่อคุยคอนเฟิร์มอีกครั้งนึง

alastmint

เมื่อถึงห้องผ่าตัด
วันจันทร์ 3 ทุ่ม
1. มีทีมผ่าตัดเป็นผู้ช่วยหมอรออยู่  ต้องย้ายตัวเองมานอนอีกเตียงที่ห้องผ่าตัดค่ะ  ในห้องตอนนั้นผู้ช่วยหมอเป็นผู้หญิง 3-4 คน ไล่ผู้ช่วยที่เป็นผู้ชายออกไปข้างนอกห้องรอก่อน  เพราะว่าให้เกียติคนไข้ทึ่เป็นผู้หญิง  เวลาต้องดึงเสื้อคนไข้ที่ใส่อยู่ออกเหลือแต่กางเกง เอาหมวกเขียวสวมหัวคนไข้  เอาผ้าเขียวห้องผ่าตัดคลุมตัวคนไข้เตรียมไว้
2. หลังจากเตรียมตัวคนไข้เสร็จแล้ว ทีมผ่าตัดที่เป็นผู้ชายก็ค่อยเข้ามา พร้อมสัญญีแพทย์ทึ่เป็นผู้ชาย  ทีมผ่าตัด ก็มีบอกก่อนว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างก่อนที่เราจะหลับ ระหว่างที่เราหลับไป และหลังที่เราตื่นมาแล้ว เราจะมีอาการอย่างไร ประมารณว่าให้รับรู้ไว้ก่อนจะได้ไม่ตกใจ  (น่ารักมากๆๆ ดูแลคนไข้ดีเยี่ยม)
3. สัญญีแพทย์เริ่มขบวนการ ทุกอย่างเร็วมาก เหมือนว่าเค้าฉีดไปที่สายน้ำเกลือ แล้วก็คุยกับเราไปเรื่อย บอกว่าให้นับ 1-10 แล้วเค้าก็พูดเล่นกับเราไปเรื่อยเปื่อย ได้ยินเค้าว่า ส่วนใหญ่ นับไม่เกิน 10 ก็หลับคร่อกไปแล้ว  เค้าก็ถามเราว่านับถึงไหนแล้ว (เราก็ไม่ได้นับหรอก กะๆ เอาว่า คงถึง 10 แล้วมั้ง  เลยตอบว่า 10 ค่ะ  หลังจากนั้นก็จำไรไม่ได้แล้ว
4. ตื่นมาอีกที ก็เป็นไปตามที่เค้าบอกเป๊ะๆ  มันจะหนักๆ เจ็บๆ ปวดๆ (เค้ารัดผ้าแน่นมาก)  ยกแขนไม่ได้จริงๆ (ผ่าใต้รักแร้นะ)    จำได้ว่า ตื่นมาปุ๊บ ถามเค้าว่า  ขอยาแก้ปวดได้มั้ยคร้ัาาาา   แล้วก็หลับๆตื่นๆ

เมื่อถึงห้องพักฟื้นห้องเดิม
ข้ามคืนไปแล้ว กลายเป็นวันอังคาร หรือ คืนวันจันทร์ เที่ยงคืนกว่าๆๆ
1. เราก็ยังมีอาการหลับๆตื่นๆอยู่ เจ็บ ปวด ตึง หนัก ทุรักทุเล มาก บวกกับคลื่นไส้ผสม แต่ไม่อาเจียร  
2. พยาบาลเข้ามาเช้คทุกๆ 4-6  ชั่วโมง ค่ะ  เค้าจะให้ยาเราทานค่ะ (ยาของคลินิกที่เอาจากเราไป)

alastmint

วันศูกร์ 13 กค 2555 Day 4
อาการเดิมๆๆ ทุกประการ ดูแลตัวเองแบบเดิมๆๆ ทานอาหารแบบเดิมๆๆ  แต่เปลี่ยนอาหารเล็กน้อย และระวังกระเทียม
แต่มีเสียงผิดปกติ ตรงที่ได้ยินเสียงกรุ๊บกริ๊บเวลาจ้ิมๆตรงเนินอก ที่เต้านมข้างขวา เดาว่ามีน้ำเหลือง

วันเสาร์ 14 กค 2555 Day 5
อาการเดิมๆๆ ทุกประการ ดูแลตัวเองแบบเดิมๆๆ ทานอาหารแบบเดิมๆๆ  แต่เปลี่ยนอาหารเล็กน้อย และระวังกระเทียม
วันนี้เป็นวันนัดตัดไหม  แต่อิชั้นไม่ไปหรอก เพราะได้ยินคำล่ำลือว่า หลังตัดไหม ต้องโดน โยกซิลิโคน ถึงกับจับไข้   เดี๋ยวอีกวันค่อยไปละกัน

วันอาทิตย์ 15 กค 2555 Day 6
1. ก่อนถึงคลินิก  อาการเดิมๆๆ ทุกประการ ดูแลตัวเองแบบเดิมๆๆ ทานอาหารแบบเดิมๆๆ  แต่เปลี่ยนอาหารเล็กน้อย และระวังกระเทียม
2. อยู่ที่คลินิก ตอนตัดไหม ก็เจ็บจิ๊บจ้อย  แต่ตอนโดนโยกซิลิโคน  เจ็บกว่าผ่าตัดอีกอ๊ะ  น้ำตาเล็ด ประมาณว่าเจ็บมาก ร้องเสียงจุกอยู่ในคอ ร้องแบบเสียงหลงทางไปเลย ช่วงที่เค้าสอนวิธีนวด
3. กลับมาบ้าน เร่ิมรู้สึกไม่สบายตัวอย่างยิ่ง ช่วงค่ำๆเหมือนจะมีไข้

วันจันทร์ 16 กค 2555 Day 7
1. ไข้ขึ้นจริงๆด้วย แบบไข้ต่ำๆ
2. นอนโทรม 45 องศา ดมยาดม ทั้งวัน  ปวดเจ็บเต้านมผิดปกติมากโดยเฉพาะข้างขวา  เพราะข้างนั้นที่มีน้ำเหลือก่อนหน้าอยู่แล้ว  มันบวมเยอะมาก  (ตอนนี้ ขวา ใหญ่กว่า ซ้าย)
3. กินข้าวไม่ลงอีกละ แล้วก็ ดูแลตัวเองแบบเดิมๆๆ

วันอังคาร 17 กค 2555 Day 8
1. ไข้เร่ิมไม่มี เร่ิมสบายตัวขึ้นบ้าง
2. โทรนัดที่คลินิก จะให้คุณหมอตรวจดูอาการ
3. กินข้าวได้บ้าง แต่ก็ยังเจ็บปวดเยอะกว่าเดิม บริเวณเต้านม ซี่โครงซ้ายขวา ข้างลำตัว ตรงกลาง ปวดกล้ามเนื้อไหล่ และสบักหลัง ปวดเมื่อแขนร้าวจากหัวไหล่ลงมาเลย  

วันพุธ 18 กค 2555 Day 9
อาการเหมือนเดิมเลย ไม่มีไข้แล้ว กินข้าวได้ดี

วันพฤหัส 19 กค 2555 Day 10
1. คุณหมอตรวจพบว่า น้ำเหลือเยอะที่ข้างขวา  เจาะออกมาได้ 70 cc  
2. แต่คุณเจ้าหน้าที่คลินิก ก็ยังคงมานวดโยกซิลิโคนทั้งสองข้างระหว่างรอคุณหมอเจาะน้ำเหลือง
3. แผลยังไม่แห้งสนิทดี ก็เลยยังไม่ให้แผลที่เย็บโดนน้ำเวลาอาบน้ำค่ะ  ดูแลรักษาแผลแบบเดิมๆๆ

alastmint

วันศูกร์ 20 กค 2555 Day 11
1. เต้าข้างขวา สบายขึ้น เร่ิมลดบวมลง (ช่วงนี้เราก็เพิ่งรู้ว่าต้องเอาประคบเย็นตลอดเวลา ก็เลยเพิ่งเร่ิมประคบเย็นหลังไปเจาะน้ำเหลืองออก)
2. อาการเจ็บปวดเหมือนเดิมเลย  แต่ก็พยายามนวดเต้านมเองตลอด
3. เต้านมข้างซ้ายเร่ิมใหญ่กว่าข้างขวา

วันเสาร์ 21 กค 2555 Day 12
1. ไปพบพี่แป้น เพื่อทำการนวดจากมืออาชิพ  โดนทักว่า คุณน้องนมอักเสบมากนะจร้าทั้งสองข้าง นวดมากไม่ได้เลยค่ะ  ต้องประคบเย็นอย่างเดียวไปเลย 5-6 วัน หยุดนวด
2. ตอนนี้เห็นชัดว่า ข้างซ้ายอักเสบแล้วจากที่ไม่อักเสบ มันเลยบวมและใหญ่กว่าข้างขวา  ซึ่งมันกำลังหายจากการอักเสบ และยุบบวมลง
3.  อาการเจ็บปวดเหมือนเดิมเลย   หยุดนวด และประคบเย็นเท่านั้น

วันอาทิตย์ 22 กค 2555 Day 13
อาการเจ็บปวดเหมือนเดิมเลย   หยุดนวด และประคบเย็นเท่านั้น

วันจันทร์ 23 กค 2555 Day 14
อาการเจ็บปวดเหมือนเดิมเลย   หยุดนวด และประคบเย็นเท่านั้น
อาบน้ำทั้งตัวและถูสบู่ที่รักแร้ด้วย  เป็นวันแรกที่เริ่มให้แผลโดนน้ำอาบน้ำเต็มตัว  เช็ดตัว เสก็ดก็เปื่อยหลุดออกมาเอง  แล้วก็ทา mederma ทุกวัน ตั้งแต่นั้นมา

วันอังคาร 24 กค 2555 Day 15
1. ไปพบคุณหมอตรวจดูอาการ และพบว่า เต้านมข้างซ้ายมีน้ำเหลืองนิดหน่อย เจาะออกมาได้ 30 cc ค่ะ   คุณหมอจับโยกๆซิลิโคนนิดหน่อย แต่เจ็บทนได้ค่ะ
2. อาการเจ็บปวดเหมือนเดิมเลย   หยุดนวด และประคบเย็นเท่านั้น
3.  mederma ทุกวัน
วันพุธ 25 กค 2555 Day 16
อาการเจ็บปวดเหมือนเดิมเลย   หยุดนวด และประคบเย็นเท่านั้น  mederma ทุกวัน

วันพฤหัส 26 กค 2555 Day 17
อาการเจ็บปวดเหมือนเดิมเลย   หยุดนวด และประคบเย็นเท่านั้น  mederma ทุกวัน

วันศุกร์ 27 กค 2555 Day 18
อาการเจ็บปวดเหมือนเดิมเลย   หยุดนวด และประคบเย็นเท่านั้น  แต่สังเกตว่า เต้านมเร่ิมยุบบวมทั้งสองข้าง ดูเหมือนจะเท่ากันแล้ว  mederma ทุกวัน

วันเสาร์ 28 กค 2555 Day 19
1. อาการเจ็บเต้านม เร่ิมน้อยลง แต่ปวดซี่โครงด้านข้าง และตรงกลางมีอยู่บ้าง ยกแขนก็ยังตึงอยู่ แต่ยกได้ค่อนข้างเกือบสูดแล้วค่ะ ประมาณ 85-90% แล้วก็  mederma ทุกวัน
2. ไปนวดกับพี่แป้นตามปกติ แล้วเร่ิมนอนคว่ำ 15 นาที ทับเครื่อง Thermopad เช้า-เย็น

alastmint

ปลาย Week 3   
1. อาการเจ็บปวดเต้านมเร่ิมหายไปเกือบหมดแล้ว แต่ยังคงเจ็บปวดซี่โครงด้านข้าง และตรงกลางนิดหน่อย
2. ไม่เคยลืมทา mederma เลย
3. นอนคว่ำ 15 นาที ทับเครื่อง Thermopad เช้า-เย็น

กลาง Week 4
1. อาการเจ็บเต้านมเหมือนไม่มี แต่ก็มีอยู่บ้างประมาณ 5%  แต่ยังคงเจ็บปวดซี่โครงด้านข้าง  ไม่เจ็บซี่โครงตรงกลางแล้วค่ะ แต่แปลกว่า เจ็บกล้ามเนื้อเนินอกด้านขวาขึ้นมาเฉยๆๆ จนต้องกินยากลายกล้ามเนื้อและยาแก้ปวดร่วมด้วยช่วยกันไปอีกอาทิตย์กว่าๆๆ
2.  mederma ประจำ
3. นอนคว่ำ 15 นาที ทับเครื่อง Thermopad เช้า-เย็น

กลาง Week 5
1. อาการเจ็บเต้านมเหมือน Week 4 มีอยู่ช่วงนึง เหมือนมันเร่ิมหายเจ็บกล้ามเนื้อเนินอกด้านขวาไปแล้ว  แต่อาการเจ็บมาใหม่ เลยเปลี่ยนยาคลายกล้ามเนื้อ กินไปอีกประมาณอีก 5 วัน
2. ดูแลตัวเองเหมือนเดิม

Week 7
1.  อาการดีขึ้น ไม่เจ็บเต้านมค่ะ มีอยู่บ้างบางครั้งที่รู้สึกเจ็บตึงซี่โครงด้านข้าง  กล้ามเนื้อเนินออกหายดีแล้ว อาการประมาณ 98% เกือบเป็นปกติ
2. ดูแลตัวเองเหมือนเดิม

Week 8
1. ไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ความเจ็บหายไปหมดแล้วค่ะ  ยกเว้นแค่ เวลายกแขนสุดแล้วจะตึงที่ลำตัวด้านข้างนิดหน่อย  ยกแขนสุด 100% ค่ะ
2. ดูแลตัวเองเหมือนเดิม  นวดเต้านมเองประมาณ 5 นาที ก่อนไปนอนคว่ำอีก 18-20 นาที  เร่ิ่มนาทีที่ 17-18 ก็เริ่มเจ็บแล้วค่ะ  ทำเช้า-เย็น  
3. ตอนนี้ มันก็ยังไม่ได้นิ่มเท่าที่ควร แต่ก็ขยันนวดเอง นอนคว่ำเองต่อไป  ซิลิโคนเคลื่อนตัวดีค่ะ

dogtar

ละเอียดม๊ากกกกกกมาก ดีมากเลยคร่า รอชมรูปนะคะ
คิดว่าถ้าไม่ได้ไปมาเลก่อนก็จะไปหาหมอเร็วนี้ค่ะ.
มาเก็บเกี่ยวความรู้ไว้ก่อน อิอิ

0880099523

ละเอียดมากเลยคะ เป็นประโยชน์มาก

chay46

]ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะได้เยอะเลย

pui.pattama

กละจะไปเดือนหน้าตอนนี้กลัวไปเลยอะ แอบกลัวตอนนวด ทำไงดี

pui.pattama

กละจะไปเดือนหน้าตอนนี้กลัวไปเลยอะ แอบกลัวตอนนวด ทำไงดี

alastmint

ต้นฉบับโพสต์โดย pui.pattama เมื่อ 2012-9-13 08:47
กละจะไปเดือนหน้าตอนนี้กลัวไปเลยอะ แอบกลัวตอนนวด ทำไ ...

ไม่มีออะไรน่ากลัวเลยค่ะ  เร่ืองความเจ็บ ถึงแม้ว่าจะเจ็บปวดมาก แต่ก็ทนได้นะคะ ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละคนด้วยค่ะ. ขออนุญาตแนะนำกินยาเม็ดใบบัวบกก่อนผ่าตัดสักหนึ่งอาทิตย์แล้วก็กินไปเรื่อยๆคู่กับยาทางคลินิกค่ะ
ํ

alastmint

หลังจากทานยาที่คลินิกให้แล้วเกิดอาการคลื่นไส้ อาจจะแพ้ยาแก้ปวดชนิดแรง นั้นไ้ด้ค่ะ. คนไข้ส่วนมากจะแพ้กันน. เราก็หนึ่งในนั้นเลยเลือกกินแต่ยาแก้ปวดพาราเซตตาม่อนแทน ทุกๆ 4 ชั่วโมง.    อีกอย่างนึงเรากินยาแก้อักเสบที่คลินิกให้มาแล้วมีผลข้างเคียงคือ ไปถ่ายท้องเข้าห้องน้ำวันละ 5-6 รอบ. เลยบอกให้คุณหมอช่วยเปลี่ยนเป็นยากลุ่มอื่นแทน

alastmint

หลังจากทานยาที่คลินิกให้แล้วเกิดอาการคลื่นไส้ อาจจะแพ้ยาแก้ปวดชนิดแรง นั้นไ้ด้ค่ะ. คนไข้ส่วนมากจะแพ้กันน. เราก็หนึ่งในนั้นเลยเลือกกินแต่ยาแก้ปวดพาราเซตตาม่อนแทน ทุกๆ 4 ชั่วโมง.    อีกอย่างนึงเรากินยาแก้อักเสบที่คลินิกให้มาแล้วมีผลข้างเคียงคือ ไปถ่ายท้องเข้าห้องน้ำวันละ 5-6 รอบ. เลยบอกให้คุณหมอช่วยเปลี่ยนเป็นยากลุ่มอื่นแทน

pui.pattama

รอไม่ไหมแล้วอยากทำมากคะ เราไปทำคนเดียวจะไหวไหม อยู่ต่างจังหวัดลางานได้ไม่นาน รึว่าควรพักที่กทม ก่อนซักอาทิต ตอนนี้กะลังวางแผนกะตัวเองอยู่ว่าจะเอาไงดี:

alastmint

ต้นฉบับโพสต์โดย pui.pattama เมื่อ 2012-9-13 21:19
รอไม่ไหมแล้วอยากทำมากคะ เราไปทำคนเดียวจะไหวไหม อยู่ ...

หาเพื่อนหรือญาติพี่น้องไปด้วยอีกหนึ่งคน จะดีที่สุุดนะ  เพราะช่วงอาทิตย์แรกบางคน ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ลุกนั่งเองไม่ได้เลย หากเลือกผ่าทางใต้รักแร้ เวลาหยิบของอะไรจะลำบากค่ะ  ยิ่งของที่อยู่สูงกว่าระดับไหล่ ยิ่งลำบากหนัก ต้องเขย่งตัวเองให้เอื้อมแขนไปหยิบแทน  เพราะว่ายกแขนไม่ได้เลย ตึงและเจ็บ     คุณ pui.pattama   อยู่ตจว ควรลางานไปเลย หนึ่งอาทิตย์ค่ะ สำหรับแผลผ่าใต้รักแร้นะคะ  แต่หากผ่าใต้ราวนม พัก 2-3 วัน น่าจะกลับไปทำงานต่อได้แล้วมั้ง  ตามความเห็นของเรานะจ้า

alastmint

ประวัติเจ้าของกระทู้นี้จ้า

ส่วนสูง 162 ซม  น้ำหนัก 46-49 กก  หญิงแท้ค่ะ  มีลูก 2 คน  5 ขวบ และ 7 ขวบค่ะ  ก่อนมีลูก ใส่บราคัพ 70B  แต่พอเริ่มท้องและให้นมลูก  ขนาดเต้านมเปลี่ยนไป จะใหญ่ขึ้น เป็นระยะๆๆ  75B, 75C, 75D ช่วงให้นมลูก 80E    หลังจากเลิกให้นมลูกคนที่สองไปแล้ว  หลายปี  ขนาดเต้านมฟีบลงอย่างเห็นได้ชัด

รูปที่ 1   มันฟีบลง ใส่คัพ 75A ยังไม่เต็มตีเลย

รูปที่ 2   สภาพหลังจากออกจาห้องผ่าตัด  ไม่กล้าถ่ายภาชนะข้างเตียงคนไข้ที่รองรับเลือดที่ระบายออกมา  มันน่ากลัวเกินไปค่ะ

รูปที่ 3   กำลังจะกลับบ้านแล้วค่ะ  นั่งรอรถเข็นอยู่

รูปที่ 4   แกะผ้ารัดหน้าอก ออกมา  วัดไว้ 36 นิ้ว เพราะมันบวมมาก แบบบวมพุ่งมาข้างหน้า และปูดขึ้นข้างบน   จะเห็นว่า เต้านมข้างขวา จะวางสูงกว่าข้างซ้ายไปนิดนึง  และคุณหมอธี เย็บไหมละลายรั้งไปสองเข็ม (ตรงที่แปะพลาสเตอร์ไว้) ที่ใต้รามนมข้างซ้ายไม่ให้มัน ต่ำเกินไปจนน่าเกลียด   จะเห็นว่าสองวันหลังผ่าตัด จะมีรอยช้ำใหญ่ๆ ที่ตรงกลางหน้าอก ระหว่างเต้านม  จริงๆคงมองไม่เห็นว่า รอยช้ำไม่ใช่มีแค่นั้น  รอยข้ำใหญ่ๆ จะมีตรง เต้านมด้านข้างทีั้งสองข้างด้วย คือตรงลำตัวด้านข้างเต้านมนั่นเอง และที่รักแร้ ก็จะช้ำด้วยค่ะ  (รอยช้ำพวกนี้จะหายไป ตั้งแต่ช่วงประมาณอาทติย์ที่ 3 เป็นต้นไป)

รูปที่ 5  แกะผ้าก๊อตออก แล้วเจอแผลเย็บที่รักแร้ข้างขวา   ส่วนแผลเย็บที่รักแร้ซ้าย เผลอกดลบทิ้งไปค่ะ  น่าเสียดาย เลยอดโชว์ให้ดูว่า  แผลข้างซ้ายจะยาวกว่าครึ่งเซ็น  ในความเห็นส่วนตัวนะ เราว่าแผลข้างขวาสวยกว่าข้างซ้ายแหล่ะ

ส่วนรูปปัจจุบัน ยังไม่ได้ถ่ายเลย   เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะเอามาอัพเดทให้ดูค่ะ

cutegril

ใส่กี่ CC ค่ะ

yowjern

ต้นฉบับโพสต์โดย alastmint เมื่อ 2012-9-13 23:55
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย alastmint เมื่อ 2012-9-14 00:15

แก้ไขครั้ ...

ขอบคุณที่มารีวิวอย่างละเอียดค้า ติดตามอ่านหาข้อมูลอยู่ค้า ขอให้หายเร็วๆนะคะ

wownancy

ติดตามอยู่นะคร่ะ ข้อมูลระเอียดและเป็นประโยชน์มากค่ะ ขอให้สวยๆ ๆ นะคร่ะ เรานัด 20/12/55 นี้ ยังกลัว ๆ เจ็บอยู่เลยค่ะ

เคนนา

สวยค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะค่ะ

jeenaa1

ของ เรา พรุ้งนี้แล้ว อ่าตื่นเต้น คิวเร็วมาก ไปปรึกษาวันที่ 3 ได้ผ่า วันที่ 5

pikkyjunk

ขอบคุณคร่ารายละเอียดแบบยิบสุดๆ ขอให้น้องนมสวยๆนะค้า อยากทำสุดๆ รอเก็บตังก่อนค่ะ เดี๋ยวจะตามไปอึ๋ม อิอิ

alastmint

มาอัพเดทรูปค่ะ  เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก อายุน้องนมเกือบๆ 7 เดือนแล้วคร่า ตอนนี้วัดรอบ อกได้ 34.5 นิ้วค่ะ ยุบลงมา 2 นิ้วนับจากวันแรกที่ที่แกะผ้าพันออกนะจ๊ะ   คุณน้องนมนิ่มแบบแน่นๆ ไม่ใช่นิ่มแบบเหลวๆ  ส่วนมากเราใส่บรา 34C ส่วนน้อยใส่ 34D ขึ้นอยู่กับยี่อห้อน่ะค่ะ (เราอยู่อเมริกา เค้ามีแต่ขนาดให้เลือกแบบนี้ เลยไม่รู้ว่าเค้าเทียบไซด์แบบของคนไทยยังไง)  รูปตามข้างล่างเลยจ้า