|
(ต่อค่ะ)
ส่วนขั้นตอนปฏิบัติก่อนผ่าตัดขอข้ามไปนะคะ มีรีวิวอื่นๆเขียนไว้ละเอียดมากแล้ว ขอเสริมแค่ที่ดูหยุมหยิมยุ่งยากเยอะแยะเพราะนี่เป็นเคสแก้ เป็นความใส่ใจและความปลอดภัยของตัวเราเองค่ะ คุณหมอช่วยเอาเคสก่อนๆจากผู้ป่วยมาระวังให้เรา
ก่อนผ่าตัดเป็นอะไรที่อาเพศมาก ช่วงนั้นหน้าหนาวแต่แดดแรงอากาศร้อนมาก เราอยู่ที่สลับร้อนเย็นห้องแอร์กับไม่แอร์ตลอดเวลา คล้ายๆว่าจะเป็นหวัด หลังจากนั้น2วันมีสิวผดขึ้นแก้มเหมือนแพ้อะไรมา ทั้งที่ปกติไม่เคยเป็น รีบโทรไปหาคุณเฟี้ยต คุณเฟี้ยตแนะนำให้เอาน้ำผึ้งเย็นกับดินสอพองทา อย่าทายาแก้สิวยาเคมีเพราะเดี๋ยวล้างหน้าแล้วจะยิ่งแสบ ปรากฏดีขึ้นค่ะ แต่ก่อนวันผ่าตัดเครียดมากเพราะไม่เคยผ่าตัดอะไรมาก่อน แถมเจ็บจมูกทุกวัน (นี่เครียดสุด กลัวเกิดเหตุไม่ได้ผ่าต้องต่อคิวใหม่อีก 6เดือนจมูกเน่าแน่ เพราะแค่ตอนนี้สารตกค้างข้างในก็อักเสบแล้ว)
วันนัดผ่า อยู่ดีๆความดันขึ้นสูงมาก ชีพจรเต้นแรงมาก คล้ายคลื่นไส้อาเจียนตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเครียดหรือแพ้ยา เจอหน้าคุณหมออรรถพันธุ์ คุณหมอใจดีและใจเย็นมากค่ะ ท่านจับชีพจรที่ข้อมือดู และจับแม่นมากไม่ต่างจากวัดเครื่อง บอกว่าความดันสูงมากจริงด้วย แล้วค่อยๆชวนคุย นั่งรอให้ใจร่มๆ ให้หลับตาหายใจลึกๆ บอกว่าท่านรับคนไข้วันละเคสเท่านั้น เราเป็นหมอคนไข้กันแล้ว ผมจะพยายามทำทุกทางให้ผ่าได้ ไม่มีการถอดใจให้กลับไปง่ายๆเด็ดขาด ถ้ายังไงก็นั่งรอไปพร้อมกันนี่แหละ อยู่ในมือผมแล้วไม่ต้องกลัว ผ่านไป 20 นาที ความดันลดค่ะ วัด3รอบลดลงทุกรอบ คุณหมอเลยสรุปว่าเป็นเพราะความเครียด เพราะถ้าแพ้ยาความดันจะไม่ค่อยๆลดลงเร็วแบบนี้ ระหว่างนั้นคุณหมอต้องกลายเป็นจิตแพทย์ไปด้วย เพราะอาการกลัวห้องผ่าตัดเรารุนแรงจริง ผ่านไปชม.ครึ่ง จากจิตแพทย์กลายเป็นศัลย์แพทย์ดังเดิม
ขั้นตอนการผ่าก็เหมือนคนอื่นๆค่ะเพราะฉะนั้นขอไปคร่าวๆเร็วๆ คือล้างหน้า 5 รอบ และคุณหมอมือเบามาก ฉีดยาชาไม่เจ็บสมคำร่ำลือ อธิบายทุกขึ้นตอนที่ท่านกำลังทำ ให้เราต้องช่วยคุณหมอโดยกลืนยาที่ขมหน่อยๆแต่ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงค่ะ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ยังคงแฮปปี้ดี คุณหมอทำงานหนักรบกับfillerอยู่ 5 ชั่วโมงครึ่ง แต่สำหรับคนถูกผ่านี่ชิวมากสั้นๆคือ “ไปนอนฟังเพลง”ค่ะ
ส่วนตอนใส่ซิลิโคน ของเราคุณหมอบอกว่าอาจจะใส่ให้ไม่ได้เพราะผิวหนังบาง ไม่ต้องเสียใจนะครับ และให้เรียกคุณเฟี้ยตมาดู คุณเฟี้ยตส่องดูบอกผิวหนังบางด้านข้าง แต่ด้านหน้ายังพอได้ ก็เลยเหลาซิลิโคนให้ค่ะ ซึ่งถือว่าเคสเราโชคดีเลยเพราะfilerตกค้างอยู่ 5ปีเป็นอย่างน้อย คุณหมอเอาออกให้หมดแล้ว ส่วนคุณเฟี้ยตเหลาซิลิโคนทาบวัดอยู่หลายรอบเพราะเราเป็นคนหน้าเบี้ยว และมี humpตรงจมูก ส่วนเราขอแบบดูเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องโด่งพุ่งเพราะผิวหนังบางและหน้าเบี้ยวถ้าโด่งจะเห็นได้ชัด
หลังผ่าตัดเสร็จคุณหมอเอาชิ้นเนื้อออกมาให้ดู แข็งเป็นหินเลยค่ะ คุณหมอบอกเป็นซิลิโคนเหลว น่าจะโดนหมอเถื่อนหลอกฉีดมา ที่เจ็บจมูกทุกวันเพราะไอ้เจ้าเม็ดแข็งๆนี่ไปกดทับเนื้อ มีไหลเปื้อนตาซ้ายนิดหน่อย แต่เอาออกไปได้ 98% ที่เหลืออยู่ก็น้อยมากจนทำอะไรเราไม่ได้ อยู่ขึ้นปลอดภัยแล้ว
|
|