|
บ่ายสองเข้าห้องผ่าตัด ห้องเย็นๆ มีเพลงเบาๆ ยังกะมาทำสปา คุณหมอยังมาทำความสะอาดจมูกอีกสองรอบ เช็ดหน้าด้วยแอลกอฮอล์อีก คุณหมอจะบอกเราทุกขั้นตอนว่าท่านทำอะไรอยู่ ท่านเปลี่ยนชุดสำหรับผ่าตัด และก็เริ่มฉีดยาชาเข็มแรก ที่ใครๆ บอกว่าเจ็บสำหรับเราเหมือนมดกัด หรือบีบสิว พอยาชาแล่นไปครึ่งหลอดคุณหมอให้ลืมตาดู น้ำยาไหลผ่านเข้าไปแต่ไม่มีความเจ็บใดๆ เรย คุณหมอบอกว่าจะฉีดยาชาให้เรา 150 เข็ม แต่พอออกมาไม่ได้ถามว่ากี่เข็ม คุณหมอเริ่มผ่าตัดก็จะพูดให้เราฟังว่ากำลังทำอะไรอยู่ เราไม่รู้ว่าแอบหลับไปบ้างหรือป่าว แต่ได้ยินเสียงกรรไกรคุณหมอตลอดเรย ไม่กล้าหลับเรย คุณหมอบอกว่าของเราฉีดเยอะมาก เนื่องจากไม่มีต้นทุนเดิม และฉีดชิดหนังด้านบน และลงไปที่โพรงสั่งน้ำมูก ซึ่งเราก็เคยเอามือคลำเจอก้อนในรูจมูกยังแอบกัวว่ามันคืออะไร ผลจากการฉีดเข้าไปลึกด้านในทำให้โพรกสั่งน้ำมูกเราเสียหาย (คุณหมอท่านว่าอย่างนั้น) หนังด้านบนก้อบาง ต้องดูก่อนว่าจะเสริมเรยได้หรือไม่ โอวว.. ตอนนั้นเราได้แต่ภาวนา ขอให้เสริมได้ทีเถอะ ถ้าเราออกไปเราจะไปบอกต่อคนอื่นๆ ว่าไบโอมันมีพิษร้ายอย่างไรบ้าง อย่าได้มีใครไปฉีดอีกเรย กว่าคุณหมอจะเลาะไบโอได้เรายังรู้สึกว่ามันแข็งมาก คุณหมอบอกว่าเอาออกยากมากและไบโอที่เขาฉีดมันทำลายเนื้อจมูก โพรกสั่งนั้ำมูกมากอาจจะมีปัญหาถ้าเสริมทันที พอเสร็จคุณหมอบอกว่ามันบางมากแต่ก็พอเสริมได้ แต่ถ้าเกิดปัญหาต้องรีบมาเอาออก คุณหมอให้เราตัดสินใจ (ซึ่งกรณีนี้ได้คุยกันก่อนจะเข้าห้องผ่าตัดแร้ว)ว่าจะเสริมหรือจะพัก เราตอบว่าเสริมทันที ต้องลองดูถ้าไม่ไหวก้อกลับมาเอาออก...
ขั้นตอนต่อไป คุณเฟียตเข้ามาเหลาซิลิโคนให้ ได้ยินคุณเฟียตบอกว่า "ดีแร้วที่มาเจอเรา จมูกแบบนี้ต้องเราเท่านั้น" เรามั่นใจและเชื่อใจในตัวคุณหมอกับคุณเฟียต เราไม่ได้เอาแบบไปให้ เพราะจมูกเราเล็กมากคุณเฟียตบอกจะออกแบบให้เอง ขอบคุณคุณหมออรรถพันธ์และคุณเฟียตที่ทำให้รู้สึกสบายใจเพราะเอาไบโอออกไปจากชีวิตของผู้หญิงคนนี้ที่ทุกข์ใจมา 12 ปี ใครได้คุยกับคุณหมอและคุณเฟียตจะทราบว่าท่านมีเมตตาและทำเพื่อคนไข้จริงๆ
ออกมาจากห้องผ่าตัดหนึ่งทุ่ม ถ่ายรูป ซึ่งเราได้เห็นไบโอที่คุณหมอเอาออกมา มันน่าเกลียดมากเรย แข็งมากด้วย ไม่คุ้มเรยกับการหลงเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อ ใครที่คิดจะไปทำให้หาข้อมูลดีๆ ก่อนนะคะ
|
|