|
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย plastic เมื่อ 2011-1-6 09:55
Filler แปลตรงตัวว่า สารเติมเต็มครับ จะเป็นอะไรก็ได้ที่เอามาฉีดเข้าไป มีหลายแบบ อย่าไปฉีด ซิลิโคน เหลว หรือ Filler ถูกๆนะครับ เพราะ ถ้า ไม่ใช่ สารที่ปลอดภัย อาจเกิดการแพ้ ผังผืด หรือผิดรูปได้ครับ
แต่ที่ปลอดภัยที่สุดคือ ไฮยารูโรนิค หรือย่อว่า HA เพราะ เชื่อว่าไม่เกิดปฏิกริยากับเนื้อเยื่อรอบๆ และเป็นสารที่ร่างกายมีอยู่แล้ว (แต่ในความเป็นจริง ก็เกิดบ้างในบางเคสถึงแม้จะเป็น 100% HA) ตัวอย่างยี้ห้อที่เป็น 100% HA ผ่าน อย. หรือปลอดภัย คือ Restylane , Esthelis ,Teosyal ... ตัวที่มวลโมเลกุลมากๆ หรือ Crosslinked มากๆจะอยู่นาน
ในกรณีของ Restylane ยกตัวอย่าง Product Line
1 restylane touch ฉีดผิวๆ ตื้นๆ เก็บ รอยตาม หน้า ตา ปาก
2 restylane basic ฉีดได้ทุกที่ อยู่ได้ประมาณ ไม่เกิน 1 ปี จากที่เห็นในคนไทย สวนมากตัวนี้จะเอามาฉีด ร่องแก้ม ร่องตา หว่างคิ้ว เสริมปาก
3 restylane perlane อยู่นานกว่า 1 ปี ในทางปฏิบัตินะครับ แต่ บริษัทจะอ้างว่านานกว่านั้น ฉีดได้เหมือน Basic ครับ ฉีดจมูกก็ได้ครับ นานดี
4 restylane sub q เสริมพวก โหนกแก้ม อะไรแบบนี้ครับ
เคสที่เหมาจะใช้ Filler ไม่ใช่เคสเสริมจริงจัง เพราะฉีดยังไงก็จะไม่เป็นสันคมแบบซิลิโคนครับ แต่เป็นเคสที่ ต้องการปรับรูปทรงจมูกให้สมดุลขึ้นแบบธรรมชาติ เช่น
ฉีดเพิ่มสันบางๆ
ฉีดลบฮัมพ์ให้ดูตรงขึ้น
เพิ่มปลายหยดน้ำน้อยๆ
จากเคสของ จขกท ไม่น่าจะเหมาะหรือไม่เป็น Good Candidate ในทางการแพทย์ครับ
แต่ถ้าจะทำแบบไม่ผ่าตัดจริงๆ ผมแนะนำให้
1 ฉีด BOTOX ที่ปีกจมูก 2 ข้าง จะหุบลงได้ นิดๆ และฉีดที่ รอยต่อระหว่างฐานปลายจมูกระหว่างรู 2 ข้าง กับ เหนือขอบปากบน จะช่วยคลายกล้ามเนื้อนิดๆ ให้ปลายดูยกขึ้น แต่ได้ในบางเคสนะครับ เคสที่ทำได้คือเคสที่ยิ้มแล้วปลายจมูก โดนดึงลง
2 ฉีด Filler ไล้สันลงมา จากนั้น ฉีดปลายหยดน้ำเยอะๆ และฉีด ฐานปลายจมูก ระหว่างรูจมูก การเพิม ปริมาตร ตรงนี้จะช่วยให้ ปลายเชิดขึ้น มุมโดยรวมดีขึ้นครับ แต่ทั้งนี้ขึ้นกับแต่ละเคสครับต้องได้รับการประเมินก่อน
ปล. การฉีดหยดน้ำ ไม่ควรฉีดมากๆๆ ในครั้งแรกนะครับ เพราะเลือดเลี้ยงปลายจมูกน้อย อาจเสี่ยงเรื่องเนื้อตายได้ ควรมาทยอยเติมเพิ่ม 1-2 อาทิตย์ถัดไปครับ ให้เนื้อปรับสมดุล
|
คะแนน
-
3
ดูบันทึกคะแนน
-
|