|
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Ticktockswifty เมื่อ 2014-4-1 13:15
ดิฉันเป็นคนขอนแก่น เลยนั่งเครื่องไปลงที่ดอนเมืองในเช้าวันที่ 31 เวลา 9 โมงเช้า พอุึงดอนเมืองก็ 10 โมงกว่าๆ กว่าจะต่อแทกซี่ไรเข้าไปคลินิกก็ เกือบๆเที่ยง พอไปุึงก็เช็คประวัติ เซ็นยินยอม รอคิว คาดว่าดิฉันน่าจะเป็นคิวสุดท้ายเลย พอเสร็จพยาบาลก็พาไปคุยเรือ่งการทำหนา้อกว่า คนเรา มีไม่เท่ากันหรอก เพราะอิฉันเป็นคนหน้าอกไม่เท่ากัน พอเสร็จก็ลงไปรออีก ซักพักก็เรียกไปคุยกับหมอ หมอก็บอกว่าการทำหน้าอกนั้น ถ้าให้ดี ต้องแลกกับความเจ็บ แต่หมอมีเทคนิคพิเศษที่ช่วยให้หายไว แต่เราต้องดูแลตัวเอง ทำเสร็จต้องทำกิจกรรมด้วย ไม่ใช่ว่านอนพับแขนขา เป็นกุ้ง ก็ไม่หายหรอก ถ้าทำกิจกรรม เดิน เล่นนั่ง ก็จะหายไว และสวยง่าย และหมอก็วัดรอบอก แล้วให้อิชั้นเลือกไซส์ที่หมอให้มา คือ 340 กับ 380 พอทาบๆดูว่าเราต้องการไซส์อะไร อิชั้นอยากได้เล็กๆ ไม่ค่อยอยากได้ใหญ่เลยบอกไปว่า 340 จากนั้น พยาบาลก็พาไปที่ห้องแต่งตัวแต่งชุดผ่าตัด อิชั้นใจเต้นแรงมากกก อยู่ซักพักคุณหมอก็บอกว่า ให้เรา 380 นะ จะสวย ไอ้เราก็อยากได้เล็กๆ กลัวมันจะใหญ่ไป เลยเชื่อหมอว่า 380 ก็ได้ค่ะ พอเสร็จพยาบาลบอกให้ไปนอนรอในห้องพักฟื้น นอนรอนานาสองนานเพื่อรอคิว ก็หลับไปเลย หายใจสั่นด้วย ก็มีผู้ป่วยท่านอื่นๆมานอนข้างเตียงคนแล้วคนเล่า มีคนๆนึง มาเสริมจมูก นางเมายา แล้วฝันว่าโดนทำร้าย ก็เลยร้องไห้ ตลอดห้องพักฟื้น อิชั้นก็เริ่มใจสั่นละคะ ว่าจะทำดีหรือป่าวเริ่มกลัว ต่อมาหมอวิสัญญีก็มาตรวจเลือดให้น้ำเกลือ เลยบอกหมอวิสัญว่า กลัว หมอก็พูดจาดีมาก ไม่ต้องกลัวหรอก เรามาที่นี่ เพื่อยอมแลกกับมัน เราต้องทำให้เต็มที่ เราต้องสู้ไปกับมัน ดิฉันกลัวจนหมอเจาะเลือดแล้วเลือดไม่ยอมให้หมอตรวจเลยค่ะ หมอเลยต้องไปหาเจาะอีกที่นึง ซักพัก หมอวิสัญญี ก็พาไปห้องผ่าตัด ตื่นเต้นมาก พูดไรไม่ถูก แค่ได้กลิ่นยา เห็นเตียงเข่าอ่อนแล้วค่ะ หมอก็พาดิฉันนอน บนเตียง เอาผ้าปิดขาล่าง ปิดช่วงคอขึ้นไป แล้วราดน้ำเย็นๆ (เข้าใจว่าน่าจะเป็นแอลกอฮอล์หรือไม่ก็ทิงเจอร์) หมอก็เอาสายเข้าจมูก แล้วก็คุย อิชั้นมองแต่เพดานตลอดค่ะ หมอคุยไรก็ตอบ เพราะด้วยความตื่นเต้น หมอบอกให้หายใจเข้าออกยาวๆ ดิฉันก็ทำ ซักพักดิฉันก็นอนห้องพักฟื้น ด้วยความแน่นอก แล้วก็ตกใจ เฮ้ยย เราทำเสร็จแล้วหรอ ทำไมไม่เห็นปวดหรือเจ็บไรเลย ซักพักไม่ถึง 20 นาที หมอก็พาออกมา อิชั้นก็เดินได้สะบาย ตอนแรกเห็นรีวิวบอกว่า อ้วกเอย เป็นลมเอย ดิชั้นไม่มีเลยค่ะ กลับเดินได้สะบาย แต่เป็นเบลอๆยาหน่อย เมายาด้วย คุยพยาบาลจ้อเลย อาจเป็นเพราะว่าอิชั้นเป็นนักเมาตัวยงก็ได้ เลยคุมสติได้ สักพัก อิชั้นก็มองนาฬิกา เฮ้ย มันจะห้าโมงเย็นแล้วหนิ เรานัดเครื่องกลับขอนแก่น ทุ่มนึง เลยบอกพยาบาลว่าจะกลับแล้ว นางก็ตกใจว่า จะกลับบ้านเลยหรอ ทำไมไม่พักก่อน อิฉันอยากกลับค่ะ ที่สำคัญไม่เห็นจะต้องนอนเลย ลุกไหว เดินไหว คุยจ้อแจ้กับคนอื่นๆได้เลย เจ้าหน้าที่บอกอิชั้นถึกจัง เพราะคนไข้ที่ผ่านมา อ้วกต่อหน้าชั้นเลยคะ ซักพักพญาบาลน่ารักมาก ออกไปเรียกแท็กซี่ให้ ดิชั้นก็นั่งไปลงดอนเมือง ด้วยความที่ยังมีฤทธิ์ยาอยู่ ก็เดินแบบตาเบลอๆ เหมือนคนเมาไปถึงเกทเลยค่ะ หาซื้อน้ำหวาน (ที่แสนแพง)ในดอนเมืองกิน ก็บรรเทาอาการได้ พอเครื่องเทคออฟ อิชั้นกลัวว่าจะอาเจียนออกมา เลยถือกระดาษที่เขาให้อ้วกแน่นเลยค่ะ แต่พอเทคออฟแลนดิ้ง ก็ไม่เห็นมีอาการอะไร ก็เลยโทรเรียกแฟนมารับ อีแฟนเจ้ากรรม เอามอไซค์มารับ เลยนั่งไปด้วยต้องถือนมไปด้วย เพราะกระแทกหน่อยแล้วเป็นเจ็บๆ เลยกลับห้อง แปรงฟัน ล้างหน้าเองได้หมด ไม่เจ็บเลย |
|