BEFORE & AFTER ...155 >> 83 ลดไป 72 โล กว่าๆ

z_zircon

มีคนถามาเยอะมาเรื่องวิธีการลดน้ำหนัก ผมก็จัดการเอาลิงค์แปะไว้ให้แล้ว แต่ลิงค์เจ้ากรรมอันที่ผมเขียนเต็มอีกลิงค์นึงมันดันตายไปแล้วว เลยคิดว่าเอามาแปะคร่าวๆที่นี่เลยแล้วกัน เสียดายอันฉบับเต็มมากกกเพราะเขียนไว้เยอะอยู่ แต่ก็ไม่เป็นไร ลิงค์ตาย พิมพ์ใหม่ก็ได้ไม่สน เหอๆ ...ใคมีข้อสงสัยอะไรนอกเหนือจากวิธีที่ผมโพสไป สามารถถามผมได้นะครับบ ขอบคุณครับ

ในการลดน้ำหนักให้ได้ผลจริงๆ เราต้องมีจุดยืนที่แน่วแน่มากๆ เพราะมันไม่ใช่การถูกบังคับจากคนอื่น แต่เป็นการบังคับใจตนเองที่ไม่มีใครมาคอยห้ามเวลาเราแตกแถว ฉะนั้นใจที่แน่วแน่และจุดยืนที่ชัดเจนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการที่จะลดความอ้วนให้ได้ผลสำเร็จ

ต่อมาคือความต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เป็นสิ่งที่สำคัญมากพอๆกับอันแรกเลยก็ว่าได้ เพราะการที่เราจะเอาความอ้วนออกจากตัวเราให้ได้ผลก็ต้องอาศัยความต่อเนื่อง ผมว่าทุกๆคนเข้าใจและรู้อยู่แล้วในสิ่งที่ผมพูดนะ แต่แค่หลงลืมและขาดสติไปบ้างเลยทำให้ไม่ได้ผลเท่าที่ควร  

การลดความอ้วน = การเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ซึ่งอันนี้ทุกคนก็รู้อีก แต่สิ่งที่ผมจะบอกไว้เลยคือ การเปลี่ยนพฤติกรรมการกินนั้น คือต้องเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง ไม่กลับไปทำแบบที่ผ่านมาอีก แต่ก็ปล่อยบ้างได้ตามสถานการณ์ แต่ทั้งนี้ห้ามสม่ำเสมอเด็ดขาด อย่างผมเนี่ย ชอบกินชาบูชิมากก ๆๆ  แต่ทุกวันนี้ กินบ้าง 3 สัปดาห์ หรือ 1 เดือนครั้ง แต่อันนี้ต้องสำหรับการปรับพฤติกรรมการกินมาสักระยะให้เราชินกับพฤติกรรมการกินแบบใหม่ซะก่อน เพราะถ้าไปกินตอนที่เพิ่งทำได้แปปเดียว อาจทำให้ตบะแตกได้ 555
เรามาเริ่มกันเลยครับ ทุกๆอย่างที่ผมทำเป็นอะไรที่เบสิคมาก แค่อาศัยความแน่วแน่ อดทน มีวินัย และความต่อเนื่อง ถึงจะประสบความสำเร็จครับ
.
.

1. การออกกำลังกาย ในความคิดผมนะ เอาแบบคนธรรมดาที่ไม่ได้ต้องใช้รูปร่างหน้าตาหากินอะไรมากมาย ก็ออกแบบเบสิคๆเนี่ยแหละ วิ่ง เดินขึ้นบันไดวันละหลายๆรอบ ทำอะไรก็ได้ที่หนักๆและเบรินเยอะๆ แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูความสามารถและน้ำหนักตัวของเราด้วย ถ้าน้ำหนักเยอะๆและลดเยอะๆแบบผมต้องไปออกพวกยกกระชับเป็นตัวเสริมด้วย แต่ถ้าลดแบบ10-15 โล แบบคนเกินมาทั่วๆก็อาจไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ (ในความคิดผมนะ) แต่จะออกแบบนั้นด้วยก็ดีแล้วแต่สะดวกครับ เริ่มแรกผมแค่เดินก่อนเลย เพราะวิ่งไม่ไหวจริงๆจะหน้ามืด แค่เดินก็เหนื่อยมากๆแล้วจริงๆ เดือนแรก ผมเดินเร็วอย่างเดียวเลย แต่เดินวันละ 1.30 ชั่วโมงทุกวัน แต่จะมีบ้างหลังๆที่ยุ่งๆก็5-6วันต่อสัปดาห์ แต่ช่วงเดือนแรกนี่จัดเต็มเดินเร็วๆมันทุกวัน แบบไม่ผอมให้มันรู้กันไปข้างนึง 555 แต่จริงๆสัก 4-5 วันต่อสัปดาห์ก็ได้ครับ  แต่ถ้าคนทั่วๆไปผมว่าต้องวิ่งลูกเดียวเลย เพราะมวลกล้ามเนื้อจะแน่นกว่าคนอ้วนๆแบบผมทำให้เบรินได้น้อยกว่าเยอะ ฉะนั้นวิ่งเลย แต่ที่สำคัญคือความสม่ำเสมอครับ ต้องทำให้ได้ตอนนี้สนามหลวงแทบจะเป็นบ้านหลังที่3ของผมแล้วจริงๆ เพราะผมไปที่นี่ตลอดเลย 555

2.ลดปริมาณของแป้ง ซึ่งหลักๆก็มาจากข้าว มารับประทานพวกโปรตีนเนื้อสัตว์ผักผลไม้แทน // ลดปริมาณข้าวนี่ค่อยๆลดก็ได้ครับ แบบ 3/4 เรื่อยๆมาเป็น 2/4 เพื่อให้ร่างกายปรับตัว นอกจากข้าว(เล็กน้อย)ทุกอย่างที่เรียกว่าแป้งเชิงตรง ผมไม่แตะเลย

3.ผลไม่กินน้ำหวานทุกชนิดเลยจริงๆครับ แบบน้ำอัดลม ชาเย็น กาแฟ ไรงี้เลย แต่ถ้าจะกินกาแฟก็อย่าใส่น้ำตาลเยอะ หรือ เปลี่ยนมาใช้เป็นสารที่ให้ความหวานแทนนะครับ แต่ผมตัดปัญหาคือไม่กินเลย เพราะดูยุ่งยากในส่วนนี้ แล้วถ้าวันไหนผมอยากกินอะไรหวานๆก็จะดื่มบิวตี้ดิงค์แทนครับ (ถึงมีน้ำตาลบ้างแต่ก็มีสารอาหารและดีกว่ากินน้ำอัดลมหรือชาเขียว)


อันนี้เป็นรูปบัตรนักศึกษา ตอนปี 1 ครับ หลายคนคงจะเห็นมาบ้างแล้ว

z_zircon

4.รับประทานอาหารให้ตรงเวลา อันนี้สำคัญมากถึงมากที่สุด เพราะถ้าเรากินไม่ตรงเวลามันจะก่อให้เกิดการสะสมทำให้เวลากินตอนหลังจะกินมากกว่าปกติ ซึ่งผมเป็นมาตลอดไม่เคยแก้ แต่พอแก้แล้วรู้สึกดีขึ้นมากๆ และในมื้อต่อไปควรห่างกันสัก5ชั่วโมง อย่างผมกินตอน 9 โมงเช้า มื้อต่อไปก็คือบ่ายสอง อะไรแบบนี้ ส่วนมื้อเย็นเมื่อก่อนกินเป็นอะไรที่เบาๆท้อง เช่น ผลไม้ ผมเลือกกล้วยหอมเพราะเคยอ่านว่ากินแล้วดีมีประโยชน์เยอะและที่สำคัญอิ่มท้องดี ดื่มน้ำตามด้วยก็จะสบายท้องมาก แต่ตอนนี้มื้อเย็นผมงดนะ เพราะผมไม่ได้ใช้พลังงานอะไรมาก และไม่รู้สึกต้องการอะไรเลยไม่กินดีกว่าเพราะมื้อนี้เสี่ยงต่อการสะสม ส่วนใครที่เพิ่งเริ่มกินเป็นผลไม้ก็ได้ครับ

5.นอนให้เพียงพอ หรือถ้าจะให้ดีตรงเวลาด้วยก็จะดีมากจะทำให้สมดุลย์ของร่างกายคงที่ดี ข้อที่ 4 กับ ข้อที่ 5 เป็นอะไรที่ดูธรรมดามากแต่ขอบอกว่ามันจริง จริงๆครับ เพราะวันไหนที่ผมตื่นสายหน่อย รู้สึกตัวเลยว่า เวลามากินอีกทีแล้วรู้สึกไม่ค่อยอิ่มเพราะเหมือนมันเกินเวลาของมันมา

6.ให้มีความคิดที่แน่วแน่มากๆสักสิ่งหนึ่งว่า ในการทำครั้งนี้เราทำเพื่ออะไร เพื่อที่จะทำให้เกิดแรงจูงใจ เพราะบางครั้งการคิดที่จะลดน้ำหนักอย่างเดียวเมื่อเวลาผ่านไป ความตั้งใจของเราก็อาจจะลดถอยลงไปได้ ซึ่งปณิธานอันแน่วแน่นี้ก็จะทำให้เรายึดเหนี่ยวในการลดน้ำหนักต่อไป (ต้องเอาอันที่แน่วแน่ต่อใจเราจริงๆ)

7.ในขั้นแรกๆ เลือกรับประทานของชอบของเราที่เป็นโลวแฟทก่อนเพื่อจะได้ทำให้เราไม่เกิดความตึงเครียดในการลดจนเกินไป เช่นผมชอบกินหมูย่างก็จะกิน แต่ไม่กินที่มันๆ กินกับส้มตำ ไม่กินข้าวเหนียว เป็นต้น

8.เวลาออกกำลังกายให้รับประทานน้ำตามไปด้วยเรื่อยๆเพราะร่างกายจะขาดน้ำ ทำให้ร่างกายโทรม ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่ต้องพบเจอบ้างแน่นอนสำหรับคนลดน้ำหนัก(ยิ่งเยอะๆอย่างผมยิ่งเจอแน่)

9.ไม่รู้คนอื่นๆจะทำรึเปล่าน่ะครับ แต่อันนี้ผมทำ เพราะผมรู้ว่าผมต้องประสบกับผลกระทบจากการลดน้ำหนักแน่นอน เลยกินวิตามินหลายตัวที่เกี่ยวกับผิวหนังพยุงไปด้วยในการลดน้ำหนัก เพราะถ้าลดน้ำหนักไปมากๆ สิ่งที่ตามมาเลยคือผิวหนังหย่อนคล้อย ผมเลยต้องกินพยุงหลายตัวอยู่ พวกโคเอ็นซาย วิตามินซี อี คอนลาเจ็น อะไรพวกนี้ครับ แต่คนที่ลดน้อยๆไม่ค่อยจำเป็นครับแต่กินด้วยก็จะดีเพราะเวลาเราลดสารอาหารเรามักจะไม่ครบซึ่งอาจทำให้ร่างกายโทรมได้ครับ

10.เนื้อสัตว์กินได้ตามปกติ อย่ากินแต่ปลาอย่างเดียวเพราะกล้ามเนื้อจะไม่ค่อยกระชับเวลาน้ำหนักลด

อันนี้ช่วงปี 2010 ครับ

z_zircon

11.ลดของทอด เค็ม หวานให้ได้เท่าที่จะทำได้ครับ ที่สำคัญในหนึ่งวันให้ลองคำนวณคร่าวๆว่าเรารับประทานอะไรไปบ้างและทั้งหมดประมาณกี่แคลโลลี่

12.อย่าลองดีกับแป้งครับ สำหรับตัวผมถือคติเลยว่าอะไรก็พอกินได้แต่แป้งที่นอกจากข้าวแล้วขอบาย (กินได้นิดหน่อยนะ แต่ห้ามเยอะเด็ดขาด)

13.เยอะนิดนะครับ แต่ผมทำอย่างงี้จริงๆ แรกทำยากมากถึงมากที่สุด แต่พอผ่านไปสักพักจะชินครับ ที่สำคัญเลยจริงๆคือความต่อเนื่อง ลดๆไปสักพักกลับมากินแบบเดิม มันจะทำให้ร่างกายเสียระบบมากๆครับ และจะทำให้การลดน้ำหนักไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ครับ

14.พอลดไปได้น้ำหนักที่ตนเองพอใจแล้ว ก็ให้ออกกำลังกายสม่ำเสมอต่อไป แต่อาจจะมีตามใจปากได้เล็กน้อยแต่ไม่มาก และยังต้องควบคุมปริมาณอาหารต่อไปเรื่อยๆก่อน เพราะน้ำหนักแบบคนที่ลดมีสิทธ์สูงในการเด้ง ให้ประคองน้ำหนักให้อยู่ตัวไปให้ได้นานสักระยะ และต้องหมั่นชั่งน้ำหนักบ่อยๆ แต่ไม่ต้องบ่อยมาก สัก 2 สัปดาห์ครั้ง

ปล.คิดไม่ออกแล้วครับ 55 แต่ทุกอย่างต้องทำแบบเราแฮบปี้นะครับ ไม่ต้องกดดันมาก พอทำไปได้สักพักร่างกายจะชิน ตอนนี้ผมไม่ค่อยหิวง่ายเหมือนเมื่อก่อนเท่าไหร่ ทุกๆครั้งที่กินอะไรให้มีสติมากๆในการกินครับ การลดน้ำหนักก็เหมือนบททดสอบของจิตใจนะครับ เพราะเราเลือกที่จะกินต่อไปแบบเดิม หรือจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเองสู่วันที่ดีกว่าก็ได้ เราเป็นผู้ตัดสินใจ เพราะทุกๆอย่างไม่มีใครบังคับเราแต่เราต้องบังคับใจตนเอง

- จริงๆยังไม่ถึงเป้าหมายจริงๆของผมนะครับแต่คาดว่าคงอีกไม่นานนี้แน่ครับ .....เดี๋ยวผมจะมารีวิวอัพเดตเรื่อยๆครับ

สำหรับเรื่องราวและเคล็ดลับเล็กๆน้อยที่ผมทำก็มีอยู่ประมาณนี้แหละครับ

*// หวังว่าข้อมูลของผมจะเป็นประโยชน์และแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคนไม่มากก็น้อยครับ

ขอบคุณครับ ^ ^ '

ปล. ทุกอย่างที่ผมพูดมันแค่ทฤษฎีครับ ถ้าไม่ลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังต่อให้กูรูด้านน้ำหนักจากทั่วโลกมาบอกก็ไม่สำเร็จครับ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราครับ

อันนี้เป็นรูปเปรียบเทียบตอนน้ำหนัก 155 -->> มาสู่ 100 กิโลถ้วนครับ ตอนนี้ยังไม่ได้ทำจมูก กับสักคิ้วเลยครับ



อันนี้รูปตอนปี 1 ครับ ตัวใหญ่มากกกกกกกกก ปี 1 รูปไม่ค่อยมี เลย มีอีกรูปมั้งรู้สึก เดี๋ยวลองไปค้นๆดูก่อน 55



อันนี้ก็เหมือนกกันครับ 154-155 >> 100 กิโลถ้วน



อันนี้ช่วง 2010-2011 ครับประมาณนี้ กำลังกินชาบูชิอย่างเอร็ดอร่อยเลย 555



อีกรูปเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆๆ อดีต - ปัจจุบัน แต่ยังไม่ใช่อนาคตครับ



ปี 1 อีกรูป 55

manambatesood

ขอเก็บไว้เป็นIdolนะครับ

pimei01

ต้นฉบับโพสต์โดย manambatesood เมื่อ 2012-4-27 17:29
ขอโทษนะครับได้ไปฉีดโบท็อกหรืออะไรมามั้ยเอ่ย? หน้าลง ...

อ่านให้ จบ สิคะ

manambatesood

ต้นฉบับโพสต์โดย pimei01 เมื่อ 2012-4-27 18:13
อ่านให้ จบ สิคะ

ที่ผมถามเพราะผมลดมา30กว่าโล แต่หน้าผมไม่ลงเท่าเจ้าของกระทู้ไงครับ
ปล. ผมอ่านจบแน่นอนครับ ผมมีการศึกษาพอ

z_zircon

ต้นฉบับโพสต์โดย manambatesood เมื่อ 2012-4-27 18:27
ที่ผมถามเพราะผมลดมา30กว่าโล แต่หน้าผมไม่ลงเท่าเจ้า ...

อ้าววว อย่าทะเลาะกานนนคราบบบ คือตอนที่ผมน้ำหนักลง 30 โลนิดๆ หน้าก็ลงนะครับ ลงประมาณหนึ่ง แต่มันก็ยังบวมอยู่แต่ตอนนั้นคิดว่าเล็ก 55555 .......หน้าคุณเล็กลงแน่ครับ แต่แค่มันอาจจะดูใหญ่อยู่สำหรับคุณ บางทีมันขึ้นอยู่ที่ร่างกายด้วยนะครับ บางคนบางจุดจะไม่ลง หรือลงได้น้อยอันนี้ถ้าสุดท้ายแล้วลดไปถึงที่สุดแล้วยังไม่พอใจ ก็ต้องพึ่งตัวช่วยอย่างโบท๊อกครับ ....แต่ผมลดมาถึง 83 นี่ก็รู้สึกว่าเล็กลงกว่าเดิมมากสังเกตุได้จากรูปและครีมที่ทาครับเมื่อก่อนต้องบีบแล้วบีบอีกเดี๋ยวนี้บีบนิดเดียวเองง 55 ....ผมไม่ได้ใช้โบท๊อกหรืออะไรเลย แต่มีเกณฑ์ว่าอยากจะฉีดอยู่เพราะเหมือนโลภมาก 55 แต่ทั้งนี้คงต้องรอให้น่ำหนักลดลงถึงเกณฑ์ที่ผมพอใจก่อนก็คือ 75 โล ถ้าถึงตอนนั้นโอเคไม่โอเคยังไงก็ค่อยตัดสินใจอีกทีครับ ...ขอบคุณครับ ^^

ANNA_16

หล่อโฮกกกกกกกกกอ่ะค่ะ

nongnamfoon

sood yood mak mak ka.

beepoo

สุดยอด ในความพยายามเลยค่ะ เก่งมากๆ

nongnamfoon

nam nuk 61 sung 165 oun oun.i need too slim like you.

Katekathy

สุดยอดมากๆ ค่ะ ทำได้ไง

ping.film

สุดยอดเลยค่ะ เก่งๆ

sombut

คุณเก่งมาก ดิฉัรจอลดแค่5โลยังทำไม่ได้เลย หนัก54.7 อยากหนัก50ค่ะ

biomiew

ว้าว....หล่อไปเลยแฮะ

beeboy7732

หล่อขึ้นเยอะมาก

z_zircon

อัพเดตรูปเมื่อวานครับบ

kanyarat15

โห ดูดีมากๆเลย ลดน้ำหนักได้เยอะขนาดนี้ เก่งและอดทนมากๆเลยค่ะ นับถือจิงๆค่ะ

z_zircon

ต้นฉบับโพสต์โดย kanyarat15 เมื่อ 2012-4-29 23:42
โห ดูดีมากๆเลย ลดน้ำหนักได้เยอะขนาดนี้ เก่งและอดทนม ...

55555 ขอบคุณครับ แต่ตอนนี้ต้องไปวิ่งสู้ฟัดอีกและ เพราะจมูกหายดีแล้วว

iLengz

นายจาก น้ำหนักเป็น 100 ลดลงได้ถึงขนาดนี้ ภายใน 2 ปีป่ะ แต่เราดิ ช่วงมหาลัย ยอมรับเลยว่า กิน นอน เรียน เล่นคอม 4 ปีผ่านไป จาก สูง 180 หนัก 65 หุ่นดีนะ(เข้าข้างตัวเองอีกละ) ตอนนี้ 74  จริงๆก็ 72-74 มาปีกว่าละ เราเป้นคนชอบใส่เสื้อผ้าพอดีตัว (คิดว่าเกย์ส่วนใหญ่ก็เป้นแบบนี้) เราลด มา จะปีละ ยังไม่ลงเลย ลดยังไงก็ไม่ได้ เริ่มท้อ หรือเราไม่มีกำลังใจแบบนายนะ เซงเลย ปล.ตอนนี้ ก็เล่นฟิตเนสอยู่ แต่ก็ยัง 72-74 เหมือนเดิม ข้าวเย็นไม่ทาน มื้อเที่ยงเราทานน้ำก่อนทานข้าว 2 แก้ว เพื่อให้ทานข้าวได้น้อยๆ งดของมัน แต่ก็ยังไม่ลด สงสัยมากเลย

weeteddy

พี่เป็น ไอดอลเลย ตอนนี้ก็กำลังลดๆ อยู่เหมือนกัน กลัวการกินข้าวไปเลย กลัวกินไปมื้อนึงแล้ว นน. ขึ้น  3 โล 5555

Arnold_Kriss

เราก้อพยายามจะลดอยู่เหมือนกันนะ5555

Arnold_Kriss

เราก้อพยายามจะลดอยู่เหมือนกันนะ5555

z_zircon

ต้นฉบับโพสต์โดย Arnold_Kriss เมื่อ 2012-5-6 06:42
เราก้อพยายามจะลดอยู่เหมือนกันนะ5555

ลดไรเยอะแยะแค่นี้ก็ผผอมมมสุดๆๆๆแล่วววว

Arnold_Kriss

ต้นฉบับโพสต์โดย z_zircon เมื่อ 2012-5-6 16:51
ลดไรเยอะแยะแค่นี้ก็ผผอมมมสุดๆๆๆแล่วววว ...

ดูเหมือนผอม แต่ลงพุงนะ จะบอก5555