แก้ปัญหาตาตกให้ยกกระชับ

pupum

แก้ปัญหาตาตกให้ยกกระชับ
ที่มา : Lisa


ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจที่สามารถหย่อนคล้อยได้ตามกาลเวลา และเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ผู้หญิงเรากังวล แต่ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าในปัจจุบันก็ช่วยเรียกคืนผิวรอบดวงตาให้คงความกระชับและยกหางตาที่ตกได้ แต่วิธีการยกหางตาตกนั้น มีกี่วิธีและมีข้อดีข้อเสียอย่างไรนั้น มาอ่านที่นี่ได้เลยว่ามีอะไรบ้าง
1. กระผ่าตัดศัลยกรรม เป็นการผ่าตัดในกลุ่มการผ่าตัดดึงหน้า (Face Lift) ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐาน นอกจากจะช่วยดึงแก้ม และใบหน้าที่หย่อนคล้อยแล้ว ยังช่วยยกหางตาและหางคิ้วให้ด้วยในคราวเดียว เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหย่อนคล้อยมาก แต่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าวิธีอื่น ๆ
2. การฉีด Botox เป็นวิธีที่มีมานานแล้ว ทำได้ไม่ยาก นอกจากจะช่วยลดริ้วรอยแล้วยังช่วยทำให้ดวงตาดูเปิดกว้าง แต่ผลการรักษาก็ยังขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของลูกค้า ดังนั้น ต้องปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์จริง ๆ จึงจะได้ผลการรักษาที่ดี
3. การใช้ Non Needle RF หรือคลื่นวิทยุที่ไม่มีเข็ม เช่น Thermage, E-Max เป็นต้น โดยคลื่นวิทยุจะส่งผ่านพลังงานคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ผลที่ได้คือการยกกระชับซึ่งสามารถนำมาใช้กับบริเวณรอบดวงตาและยกหางตาได้ โดยผลที่ได้จะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของเครื่องและประสบการณ์ของแพทย์ ซึ่งทำให้การรักษาแตกต่างกันได้มาก
4. การใช้ Micro Needle RF หรือคลื่นวิทยุผ่านเข็มขนาดเล็ก เช่น Vivce, E-Prime เป็นต้น โดยส่งคลื่นวิทยุผ่านปลายเข็มเล็ก ๆ จำนวนหลายเข็ม ขึ้นอยู่กับชนิดของเครื่อง ซึ่งจะทำให้พลังงานสามารถผ่านเข้าไปถึงผิวหนังชั้นลึกได้ง่ายกว่า ทำให้มีประสิทธิภาพในการยกกระชับมากขึ้น แต่ก็มีข้อจำกัดของการรักษาที่กระบวนการอาจมีหลายขั้นตอน
5. การใช้ Cannula RF หรือคลื่นวิทยุผ่านเข็มปลายทู่ เช่น Innofil, Bodytite เป็นต้น โดยจะส่งผ่านพลังงานความร้อนผ่านทางปลายเข็มที่สอดเข้าใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ขึ้นอยู่กับความสามารถของเครื่อง และประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำเป็นอย่างมาก
6. การใช้คลื่นเหนือเสียง หรือ Ultrasound เช่น Ulthera โดยคลื่นเหนือเสียงนี้จะส่งผ่านพลังงานความร้อนไปที่ชั้นผิวหนัง และชั้นกล้ามเนื้อใต้ผิวหนัง (SMAS) ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดรัดและการยกกระชับขึ้นได้ เช่นกัน และสามารถนำมาใช้บริเวณรอบดวงตาได้ด้วย
7. การร้อยไหม หรือ Fine Thread เป็นการร้อยไหมเพื่อยกกระชับบริเวณโหนกแก้มและหางตา ด้วยเทคนิค Panllel Vedor โดยเป็นเทคนิคของ Dr. Kwon Han Jin จากเกาหลี ซึ่งจะทำให้เกิดการยกกระชับที่ได้ผลดี และเป็นธรรมชาติ แต่ก็ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วย
8. การฉีดเมโส หรือ Mesolift เช่น Dysport Laft, Micro Botox Lift และ Meso Lift อื่น ๆ จากคุณสมบัติที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และช่วยในเรื่องการยกกระชับที่แตกต่างกัน จึงให้ผลที่ต่างกันได้บ้าง แต่บริเวณหางตาและหางคิ้วก็จะได้ผลในการยกกระชับค่อนข้างดี ขึ้นอยู่กับปัญหาอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ริ้วรอย หรือรอยหมองคล้ำรอบดวงตา
จากวิธีดังกล่าวข้างต้น ถือเป็นวิธีที่ใช้ในการยกกระชับหางตาซึ่งจะมีข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมกับลูกค้าที่แตกต่างกัน และการที่จะเลือกใช้วิธีใดนั้นจะต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านจริง ๆ และเลือกให้ตรงกับความต้องการของตนมากที่สุด เพราะไม่มีวิธีใดที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับทุก ๆ คน อีกทั้งไม่มีแพทย์ท่านใดที่มีความเชี่ยวชาญและสามารถให้บริการได้ในทุกวิธี ดังนั้น ควรเลือกปรึกษาให้ตรงกับความเชี่ยวชาญของแพทย์ด้วย จึงจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องมากที่สุด

VesPAGiRL2

ขอมูลที่นำมาแชร์เป็นประโยชน์มาก ขอบคุณนะคะ มีความรู้เพิ่มอีกแล้วค่ะ