ดู: 1056|ตอบกลับ: 8
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

การผ่าตัดกล่องเสียง

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย opal2530 เมื่อ 2013-2-18 20:58

การผ่าตัดกล่องเสียง
เสียงถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากที่สุดเช่นกันจึงมีการผ่าตัดกล่องเสียงกันมากขึ้น เนื่องจากการใช้เสียงนั้นสามารถบ่งบอกอะไรได้หลายอย่างอีกทั้งน้ำเสียงยังสร้างความน่าเชื่อถือได้อีกด้วย หรือบ้างคนก็มักมีปัญหา เสียงหาย เสียงแหบ เสียงแห้ง เสียงใหญ่ เสียงทุ้ม เสียงแหลม ฯลฯ บางคนนั้นเกิดความไม่มั่นในตัวเองจนต้องมีการพึ่งพา การผ่าตัดกล่องเสียง เช่นเดียวกัน แต่ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่เรื่อง การผ่าตัดกล่องเสียง จึงไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปค่ะ พญ.อรอุมา ศรีวานิชวิพัฒน์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขา โสตศอนาสิก มีคำตอบมาให้ค่ะ
การผ่าตัดกล่องเสียง เพื่อเสียงสวย

- เสียงสะท้อนบุคลิกภาพ

ไม่น่าแปลกใจที่ในปัจจุบันจะมีผู้คนเริ่มให้ความสนใจกับเรื่องของเสียงมากขึ้น ถึงขนาดที่มีการศัลยกรรมตกแต่งเสียงหรือที่เรียกว่า "การผ่าตัดกล่องเสียง" เกิดขึ้น นั่นเป็นเพราะว่าเสียงสามารถสะท้อนได้ถึงบุคลิกภาพของผู้ที่เป็นเจ้าของนั่นเอง

หลายคนอาจเคยเห็นประสิทธิภาพของการศัลยกรรมตกแต่งกล่องเสียง มาจากสาวประเภทสองมากหน้าหลายตาที่สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับผู้คนที่อยู่รอบข้าง โดยการกลายเป็นผู้หญิงโดยสมบูรณ์แบบซึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนรอบข้างไม่สามารถรู้ได้ว่าคุณผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เป็นสาวประเภทสอง นั่นก็เพราะน้ำเสียงที่อ่อนหวานไพเราะเพราะพริ้งไม่ต่างอะไรกับสาวแท้ทั้ง หลาย

มีข้อมูลที่น่าสนใจว่า นอกจากสาวประเภทสองแล้วในประเทศสหรัฐอเมริกา การผ่าตัดกล่องเสียงยังเป็นที่นิยมในหมู่ของคนสูงอายุที่ต้องการให้เสียงกลับมาดูสดใสเหมือนวัยหนุ่มวัยสาวอีกครั้งด้วย โดยคนกลุ่มนี้จะเข้ารับการผ่าตัดกล่องเสียงเพื่อดึงสายเสียงที่หย่อนไปตามวัยให้ตึงขึ้นทำให้เกิดเสียงที่เล็กแหลมและไม่สั่นคลอนเหมือนสมัยยังหนุ่มยังสาวเหมือนเดิม
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-18 20:58:27 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
- เสียงต่ำ เสียงสูง หรือเสียงแหบ ก็เปลี่ยนแปลงได้

การผ่าตัดกล่องเสียงสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ไม่เฉพาะแค่ทำให้เสียงเล็กลงอย่างที่สาวประเภทสองต้องการ แต่สามารถเปลี่ยนแปลงเสียงให้ทุ้มต่ำลงได้ด้วย เช่นกัน ซึ่งจะพบในผู้ชายที่มีเสียงเล็กแหลมเหมือนเสียงของผู้หญิงหรือผู้หญิงที่ต้องการให้เสียงมีลักษณะห้าวใหญ่ขึ้นคล้ายกับเสียงผู้ชาย หรือในกรณีที่เสียงแหบซึ่งเกิดจากก้อนเนื้อที่สายเสียงหรือสายเสียงมีการทำงานลดลงจากการใช้เสียงผิดวิธี หรือมีโรคติดเชื้อที่สายเสียงก็สามารถเปลี่ยนเป็นคนที่มีเสียงสดใสได้ ซึ่งการผ่าตัดในแต่ละกรณีนั้นแตกต่างกันตรงที่ขนาดของแผลและระยะเวลาการพักฟื้น


- ปรับความถี่ของคลื่นเสียงได้ดั่งใจต้องการ

โดยปกติแล้วคลื่นความถี่ของเสียงสำหรับผู้และผู้หญิงจะต่างกันทำให้เสียงของทั้งสองเพศแตกต่างกัน คือผู้ชายจะเสียงที่ทุ้มต่ำกว่าโดยอยู่ในระดับความถี่ 50-100 เฮิร์ต ในขณะที่ผู้หญิงจะมีเสียงแหลมเล็กกว่าโดยอยู่ในระดับความถี่ 200-300 เฮิร์ต ซึ่งการผ่าตัดเปลี่ยนแปลงเสียงจะพยายามทำให้ระดับความถี่ของเสียงหลังการผ่าตัดเข้าใกล้ระดับความถี่ที่ต้องการมากที่สุด อย่างในกรณีของการผ่าตัดเปลี่ยนแปลงเสียงของสาวประเภทสองแพทย์จะพยายามทำให้ความถี่ของเสียงหลังการผ่าตัดอยู่ที่ระหว่าง 200-300 เฮิร์ต โดยการทำให้สายเสียงที่มีขนาดใหญ่และหนาของผู้ชายนั้นบางลงทำให้เสียงแหลมเล็กขึ้น
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-18 20:58:28 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย opal2530 เมื่อ 2013-2-18 20:56

- เตรียมตัวอย่างไรก่อนการแปลงเสียง

รับการตรวจสภาพการทำงานของกล่องเสียงและสายเสียงโดยละเอียด ได้แก่ ความพลิ้วไหวของเสียง ความถี่ของเสียงโครงสร้างและรูปร่างของสายเสียงและกล่องเสียง รวมถึงความดังกังวานของเสียงก่อนการผ่าตัด ถ้ามีอาการไอมากหรือเป็นหวัดต้องรักษาให้บรรเทาก่อนงดน้ำและอาหาร 6 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด ถ้าทานยาชนิดใดอยู่เป็นประจำหรือสูบบุหรี่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ เพราะยาบางชนิดและบุหรี่มีผลต่อการสมานแผลผ่าตัด
ระยะเวลาการพักฟื้น

- ผ่าตัดให้เสียงสูงขึ้น

- ผู้ป่วยจะได้รับการดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- แผลผ่าตัดจะมีขนาดเล็ก 1.5-2 ซม. ที่บริเวณลูกกระเดือกและใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ แผลจะติดสนิทและตัดไหมได้
- นอนพักโรงพยาบาล 3 วัน 2 คืน


- ผ่านตัดให้เสียงต่ำลง

- ผู้ป่วยจะได้รับการดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- แผลผ่าตัดจะมีขนาดเล็ก 2-3 ซม. ที่บริเวณลูกกระเดือก แผลจะติดสนิทภายใน 1 สัปดาห์ และตัดไหมได้
- นอนพักโรงพยาบาล 3 วัน 2 คืน
- ผู้ป่วยจะได้รับการดมยาสลบแล้วผ่าตัด โดยการส่องกล้องผ่านทางปากไปถึงสายเสียง

- ผ่าตัดรักษาเสียงแหบ

- ผู้ป่วยจะได้รับการดมยาสลบแล้วผ่าตัดโดยการส่องกล้องผ่านทางปากไปถึงสายเสียง
- ไม่มีแผลผ่าตัดภายนอกและนอนพักโรงพยาบาล 2 วัน 1 คืน
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-18 20:58:29 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ดูแลรักษาเสียงสวยอย่างไร

หลังผ่าตัดต้องงดออกเสียงเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ให้สื่อสารด้วยการเขียนแทน งดการไอหรือขากเสมหะแรง ๆ เพื่อลดอาการสายเสียงบวม งดอาหารกรอบ ๆ แข็ง ๆ ที่กระตุ้นการไอหรือระคายคอเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เริ่มทานอาหารอ่อน ๆ และยาฮอร์โมนได้ในรุ่งขึ้น พบแพทย์ตามนัด 1 สัปดาห์เพื่อตัดไหม พร้อมกับตรวจสภาพสายเสียงโดยละเอียดสำหรับกรณีเสียงแหบควรฝึกการออกเสียงหลังผ่าตัด

เทคโนโลยีที่ก้าวไปอย่างไม่หยุดหย่อนทำให้สามารถเนรมิตเสียงสวย ๆ ในแบบที่เราต้องการได้ แต่อย่างไรก็ตามการผ่าตัดทุกชนิดก็มีความเสี่ยงแม้จะเป็นการผ่าตัดเพื่อศัลยกรรมเสริมความงาม ฉะนั้นการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้ามนะคะ
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-18 20:58:30 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ดูแลรักษาเสียงสวยอย่างไร

หลังผ่าตัดต้องงดออกเสียงเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ให้สื่อสารด้วยการเขียนแทน งดการไอหรือขากเสมหะแรง ๆ เพื่อลดอาการสายเสียงบวม งดอาหารกรอบ ๆ แข็ง ๆ ที่กระตุ้นการไอหรือระคายคอเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เริ่มทานอาหารอ่อน ๆ และยาฮอร์โมนได้ในรุ่งขึ้น พบแพทย์ตามนัด 1 สัปดาห์เพื่อตัดไหม พร้อมกับตรวจสภาพสายเสียงโดยละเอียดสำหรับกรณีเสียงแหบควรฝึกการออกเสียงหลังผ่าตัด

เทคโนโลยีที่ก้าวไปอย่างไม่หยุดหย่อนทำให้สามารถเนรมิตเสียงสวย ๆ ในแบบที่เราต้องการได้ แต่อย่างไรก็ตามการผ่าตัดทุกชนิดก็มีความเสี่ยงแม้จะเป็นการผ่าตัดเพื่อศัลยกรรมเสริมความงาม ฉะนั้นการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้ามนะคะ
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-18 20:58:31 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เกร็ดความรู้

การกระแอมให้โทษมากกว่าที่คุณคิด ทุกคนคงเคยรู้สึกระคายคอและแก้ปัญหาด้วยการกระแอม แต่ อ.ปาริชาต คุณาธรรมรักษ์ จากมหาวิทยาลัยมหิดลได้เขียนบทความที่น่าสนใจชิ้นหนึ่งว่า การกระแอมเป็นการทำร้ายเส้นเสียงทางอ้อมเพราะการไอหรือกระแอมแรง ๆ จะส่งผลกระทบกระเทือนต่อเยื่อบุของกล่องเสียงและทำให้การทำงานของกล่องเสียงผิดปกติไปรีบแก้ไขก่อนที่จะสายได้ด้วยวิธีดังนี้

- หยุดการสูบบุหรี่และหลีกเสี่ยงควันบุหรี่จากบุคคลอื่น
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และคาเฟอีน หรือบริโภคให้น้อยที่สุด
- ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทานยาที่มีฤทธิ์ขับน้ำออกจากร่างกาย
- พยายามไอหรือกระแอมให้น้อยที่สุด
- ให้การกลืนและการผ่อนลมหายใจแทนการกระแอม
- เมื่อมีความรู้สึกอยากจะไออย่างรุนแรงให้ใช้การไอแบบไม่มีเสียง โดยขณะที่ลมจากปอดพุ่งขึ้นมาพยายามระวังไม่ให้มีเสียงเกิดขึ้น
- ในบางคนถ้าการหัวเราะกระตุ้นให้เกิดการไอก็ใช้การหัวเราะเบา ๆ แทนการหัวเราะเสียงดัง
- การควบคุมการไอและกระแอมบ่อย ๆ ในผู้ป่วยที่มีปัญหาเสียงแหบอาจจะทำเป็นตารางบันทึกลักษณะนิสัยของตนเอง
- ในแต่ละช่วงเวลาของแต่ละวันเพื่อเตือนตนเองให้ลดสาเหตุของการกระแอมหรือไอ
- ถ้าพบอาการแสบร้อนในอกหรือกระเพาะและภายในปากมีรสเปรี้ยว อาจหมายถึงกรดในกระเพาะอาหารผ่านมาที่กล่องเสียง ให้หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีรสเปรี้ยวหรือเผ็ดจัด การทานอาหารก่อนนอนและการทานอาหารปริมาณมากจนทำให้อิ่มเกินไปและควรไปพบแพทย์

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สุขภาพดี
หงะ พึ่งรู้นะคะเนี่ยว่าการกระแอมก็ทำร้ายเส้นเสียงของเราได้ด้วย เห็นทีต้องเปลี่ยนนิสัยการกระแอมใหม่ซะแล้วคะ
ติดตามข้อมูลดีดีอย่างนี้เรื่อยๆนะค่ะ  '
9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-18 21:52:15 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ต้นฉบับโพสต์โดย patzakapook เมื่อ 2013-2-18 21:31
ติดตามข้อมูลดีดีอย่างนี้เรื่อยๆนะค่ะ  ' ...

ขอบพระคุนค่ะ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้