ดู: 708|ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[โปรโบท๊อกซ์/ฟิลเลอร์/ร้อยไหม] ระวังภัย...ฟิลเลอร์ ตรวจสอบก่อนฉีด

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย PR.Yosaya เมื่อ 2012-11-7 19:55

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย PR.Yosaya เมื่อ 2012-11-7 19:54

หลังจากที่ตกเป็นข่าวดังทอร์คออฟเดอะทาวน์   สั่นสะเทือนวงการความงามของไทยกับประเด็นพริตตี้สาวฉีดฟิลเลอร์ที่สะโพกจนเสียชีวิต  ทำให้สังคมเกิดคำถามเกี่ยวกับฟิลเลอร์


ฟิลเลอร์คืออะไร

นพ.ทรงยศ จันทจิตร์  ศัลยแพทย์ตกแต่ง  แห่งยศยาคลินิก กล่าวว่า ฟิลเลอร์  คือสารที่นำมาฉีดเติมเต็มใต้ผิวหนัง  ปัจจุบันมีสารหลายชนิดที่ได้รับการรับรองทางการแพทย์ และถูกนำมาใช้มากที่สุดคือ สารไฮยาลูรอนิก แอสิด (Hyaluronic Acid) และการฉีดไขมันตนเอง (Fat Transfer)  ซึ่งสารไฮยาลูรอนิก เป็นที่ยอมรับและใช้กันแพร่หลายทั่วโลกมากกว่าสารอื่นๆ เพราะผ่านมาตรฐานการรับรองความปลอดภัยจากคณะกรรมการอาหารและยาในการใช้ โดยการสังเคราะห์ไฮยาลูรอนิกนี้จะมีลักษณะโมเลกุลคล้ายกับสารไฮยาลูรอนิกในร่างกายมนุษย์ และเนื่องจากไม่ใช่เป็นคอลลาเจนที่ผลิตมาจากสัตว์ โอกาสที่จะเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองมีน้อย โดยคุณสมบัติของสารไฮยาลูรอนิกมีอายุประมาณ 8-12 เดือน แล้วจะค่อยๆสลายไปตามธรรมชาติ โดยไม่มีร่องรอยใดๆทิ้งไว้   ซึ่งนับเป็นข้อดีของฟิลเลอร์เพราะหากมีข้อผิดพลาดหรือผู้ที่ฉีดไม่พอใจเมื่อเวลาผ่านไปฟิลเลอร์ที่ฉีดไว้ก็จะค่อยๆยุบตัวและหมดไปเอง

ฟิลเลอร์ปลอม…ตัวการความเสี่ยง
ปัจจุบันสาร Hyaluronic Acid หรือ HA ถือว่าเป็นมาตรฐานในการฉีดฟิลเลอร์  มีความปลอดภัยสูงกว่าเมื่อเทียบกับสารตัวอื่นๆ  จะมีราคาสูงกว่าพอสมควร เพราะเหตุที่มีราคาค่อนข้างแพงนี้เองจึงทำให้คลินิกเถื่อนหรือหมอกระเป๋าซึ่งแข่งขันในด้านราคา จึงพยายามนำสารอย่างอื่นมาใช้แทน  ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก  สำหรับสารที่ต้องระวัง ได้แก่
1.สารไม่ปลอดเชื้อที่ห้ามใช้ทางการแพทย์  เช่น  ซิลิโคนเหลว พาราฟิน  หรือน้ำมันอื่นๆ
2. สารที่ถูกผลิตมาใช้ฉีดอย่างปลอดเชื้อ มีลักษณะภายนอกคล้ายคลึงกับ Hyaluronic Acid เพราะเป็นเนื้อเจลใส หากดูด้วยตาไม่สามารถแยกจากสารHyaluronic Acid ได้เลย  จึงต้องระมัดระวังมาก เช่น  คอลลาเจนที่สังเคราะห์จากสัตว์  ,polyacrylamide , polyamide  หลายประเทศมีการนำมาฉีดอย่างแพร่หลายรวมทั้งตามคลินิกในเมืองไทย เพราะมีราคาถูกกว่าสาร HA หลายเท่าตัว  และยังคงทนอยู่นานถาวร  มีปัญหาแล้วสลายไม่ได้ สารเหล่านี้ไม่ผ่าน อย. เพราะความปลอดภัยไม่เพียงพอ  มีโอกาสเกิดปฏิกิริยากับผิวหนังได้สูง  สารทั้งสองประเภทนี้เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายซึ่งเป็นสารแปลกปลอมที่่ร่างกายไม่ยอมรับ จะทำให้เกิดอาการบวมแดง อักเสบ เนื้อตายอย่างถาวร เกิดปัญหาไหลย้อย บิดเบี้ยว เกิดผลข้างเคียงในระยะยาว  สารที่ว่านี้ยังไหลไปบริเวณข้างเคียงทำให้ผิดรูปร่าง  เกิดเป็นก้อนขรุขระหรืออาจไหลเลื่อนไปส่วนอื่นได้  สารอันตรายนี้จะอยู่ในร่างกายได้นานโดยไม่มีการสลายตัว   ไม่สามารถฉีดสลายได้เลยจึงทำให้แก้ไขได้ยากมาก
ตรวจสอบก่อนฉีด
1.        สารที่ฉีด ต้องแน่ใจว่าเป็นฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid ที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)  ไม่ใช่สารอื่นที่หลอกว่าเป็นฟิลเลอร์ หรือเป็นฟิลเลอร์ราคาถูกที่มีขายตามเวปไซด์หรือนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย เพราะเสี่ยงที่จะเป็นฟิลเลอร์ปลอม หมดอายุ  ไม่ได้คุณภาพ และดูภายนอกอาจจะไม่แตกต่าง ต้องอาศัยความเขี่ยวขาญและความน่าเชื่อถืออื่นๆมาประกอบกัน
2.        คนฉีด เพราะการฉีดฟิลเลอร์จำเป็นอย่างมากที่แพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญ มีความรู้ทางกายวิภาคอย่างเชี่ยวชาญ มีเทคนิคการฉีดต้องถูกต้องเหมาะสม มีการประเมินรูปร่างว่าบริเวณใดต้องฉีดมากน้อยเพียงใด และฉีดสารในชั้นผิวหนังที่ถูกต้อง ในปริมาณที่เหมาะสม   เพราะเมื่อฉีดสารเข้าไปย่อมมีโอกาสเสี่ยงในการที่จะไปโดนเส้นเลือดหรือบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ นำมาซึ่้งอันตรายที่อาจถึงแก่ชีวิตหรืออาจเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆได้
3.        สถานที่ฉีด ต้องฉีดในสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย มีเครื่องมือช่วยชีวิตยามฉุกเฉิน


ยศยาคลินิก โทร. 02-6938693

DR.Songyos_resize.jpg (81.13 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 0)

DR.Songyos_resize.jpg
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้