|
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jane2 เมื่อ 2012-8-17 19:08
เพิ่งเสริมได้ไม่ถึงเดือนค่ะ ตอนแรกว่าจะทำในเมืองไทยแต่ลองถามเพื่อนๆดู เพื่อนบอกว่าบางคนเสริมในเมืองไทยแล้วจมูกเบี้ยวและหมอดังๆบางคนก็ไม่รับแก้ด้วย แถมโดนต่อว่ากลับมาอีกว่าพ่อแม่ให้มาไม่ดี ส่วนหมอบางคนรับแก้แต่เสียค่าแก้แพงกว่าค่าทำอีก
เลยตัดสินใจบินไปทำที่เกาหลีดีกว่าเลือกทำกับหมอที่เก่งสุดในเกาหลี เพราะเพื่อนเคยไปทำมาแล้วดูเป็นธรรมชาติมากๆและไม่มีปัญหาเรื่องเบี้ยวด้วย ไม่อยากเสียเงินซ้ำซ้อนและเสียเวลาในการบวมหลายรอบทำให้ต้องลางานอีก
วันที่ไปถึงที่โรงพยาบาล คนเยอะมากกก รอคิวนานมาก ขนาดนัดล่วงหน้าตั้งแต่ที่เมืองไทยแล้ว กว่าจะได้เจอหมอก็นั่งรอจนแทบจะหลับไปเลยค่ะ ได้เห็นชาวเกาหลีทั้งชายหญิงมาทำศัลยกรรมกันเยอะจริงๆ
พอเจอหมอหมอก็บอกว่าที่นี่วิธีใช้กระดูกอ่อนหลังใบหูในการเสริมเพราะดูเป็นธรรมชาติกว่า และตัดปีกจมูกให้ด้วย พอทำเสร็จเราก็นึกว่าตาจะบวมเหมือนที่เคยเห็นในรูป ปรากฏว่าโชคดีมาก ตาไม่บวมเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่มีรอยช้ำด้วย คงเป็นเพราะหมอมือเบามากๆๆๆ คิดว่าคุ้มจริงๆที่มาทำที่นี่เพราะไม่มีรอยช้ำเลยแม้แต่นิดเดียว เชื่อแล้วว่าหมอที่เก่งที่สุดในเกาหลีนั้นเก่งจริงๆ ตอนนี้เสริมไม่ถึงเดือนแต่พอดูได้ว่าเป็นธรรมชาติมากๆ รูจมูกก็ไม่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
ส่วนพนักงานชาวเกาหลีในโรงพยาบาลจมูกสวยทุกคน อยากจะขอถ่ายรูปพนักงานเขามาด้วยแต่กลัวเขาจะอาย
ไหนๆจะไปทั้งทีก็เลยไปลดกรามด้วยเลย พร้อมกับทำเลเซอร์กระชับผิวหน้าเนื่องจากหมอแนะนำว่า ถ้าตัดกรามแล้วกระดูกกรามหายไปทำให้หน้าเล็กลง ผิวหนังตรงกรามจะหย่อนลงมาจึงให้ทำเลเซอร์กระชับผิวหน้าและลดไขมันบนใบหน้าไปด้วย
และท้ายสุดก็ได้ทำตาด้วยเพราะหนังตาตกมาก หมอจึงแนะนำให้ทำโดยวิธียกหน้าผากขึ้นทำให้ตาไม่ตกและหน้าผากไม่มีรอยย่นด้วย ที่หมอเลือกวิธีนี้เพราะแก้ไขได้หลายจุดมากกว่าผ่าตัดที่ตาอย่างเดียว และก็ไม่มีรอยแผลเป็นที่ตา ถ้าผ่าตัดที่ตาจะเห็นรอยแผลเป็นชัดมาก
หลังผ่าตัดทางโรงพยาบาลให้พักโรงพยาบาล 1 คืนวันรุ่งขึ้นก็มีรถลิมูซีนมาส่งถึงที่พัก คนขับลิมูซีนเป็นหนุ่มเกาหลีขาวตี๋หน้าตาดีทุกคนถ้าอยู่เมืองไทยคงเป็นดาราไปแล้ว
ส่วนการตัดกรามก็ไม่มีรอยช้ำเช่นกัน ถือว่าโอเค ทำมาไม่กี่สัปดาห์อาการปากชาก็เกือบหายแล้ว เคยได้ยินมาว่าในเมืองไทยตัดกรามแล้วหน้าเบี้ยว หรือบางคนหมอตัดโดนเส้นประสาททำมาหลายปีแล้วปากยังไม่หายชา แถมไม่มีหมอคนไหนรับแก้เพราะเส้นประสาทโดนตัดไปแล้ว แล้วต้องมาเสียใจไปตลอดชีวิต เลยไม่กล้าเสี่ยงในเมืองไทยเช่นกัน
สำหรับค่าใช้จ่ายรวมทำ 4 อย่าง ทางโรงพยาบาลลดแล้วก็เหลือประมาณ 5 แสนกว่า ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน เฉลี่ยแล้วก็อย่างละแสนกว่า บางอย่างก็ไม่ถึงแสน
ช่วงนั้นทางโรงพยาบาลเขามีโปรโมชั่นพักโรงแรมฟรีอยู่ย่านในเมืองด้วย สะดวกดีอยู่ติดกับ subway ด้วย แล้วก็มีรถมารับที่สนามบินด้วย (ตอนนั้นต้องทำหลายอย่างเขาถึงให้โปรโมชั่นนี้)
ตอนนี้หนัายังบวมอยู่เพราะไปตัดกรามมายังไม่ถึงเดือนเลยยังไม่กล้าลงรูปนะคะ แต่ประทับใจฝีมือหมอจริงๆคิดไม่ผิดที่เลือกไปทำที่เกาหลี ทางโรงพยาบาลยังบอกอีกว่าที่นี่หมอดังทางด้านเสริมหน้าอกกับดูดไขมันด้วย (คนละคนกับหมอที่เสริมจมูก)
และชวนเราเสริมหน้าอกด้วย เขาบอกว่าที่นี่เสริมแล้วไม่ต้องนวดด้วย และก็ไม่เจ็บมากหลังผ่าตัด
(สงสัยหมอจะมือเบาอีกเช่นกัน) แต่ตอนนั้นเราหมดงบแล้ว ใช้เงินไปเกินครึ่งล้าน
ปล.ไม่ขอเปิดเผยชื่อโรงพยาบาลนะคะไม่ได้เป็นหน้าม้าค่ะ แต่ไปทำมาแล้วแฮปปี้มากเลยมาแชร์ให้เพื่อนๆฟัง คิดว่าตัวเองคิดไม่ผิดที่จ่ายครั้งเดียวแล้วไม่ต้องกลัวจมูกเบี้ยวหรือหน้าเบี้ยวแบบที่หมอในเมืองไทยบางคนประสบการณ์น้อยแล้วคิดราคาถูกๆ อันนั้นไม่กล้าไปเสี่ยงน่ะค่ะ
|
คะแนน
-
2
ดูบันทึกคะแนน
-
|