|
แพทย์ผิวหนังเตือนภัย เดอร์มาโรลเลอร์ ทำหน้า เสี่ยงเชื้อร้าย
นอกจากการฉีดสาร กลูตาไธโอน เพื่อหวังจะให้ผิวขาว และนอกจากการฉีดสาร โบท็อกซ์ เพื่อ หวังจะให้ผิวหนัง-ผิวหน้าเต่งตึง ซึ่งล่าสุดมีดาราชายบางรายฉีดแล้วเกิดอาการเปลือกตาตก-ตาปิดจนเป็นข่าวดัง แล้ว กับการทำผิว โดยเฉพาะการ ?ทำหน้า? ในเมืองไทยยังมีการทำกันอีกหลายแบบ บางวิธีก็กำลังฮิตในหมู่ผู้รักษาแผลเป็นจากสิว...
เดอร์มาโรลเลอร์ (DermaRoller)? นี่ก็กำลังฮอต แต่แพทย์ผิวหนังก็เตือนว่า ?ต้องระวัง? เพราะเสี่ยง ?!? กับเรื่องนี้ รศ.นพ.ประวิตร อัศวานนท์ ภาค วิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานฝ่ายวิชาการสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ให้ความรู้ความเข้าใจผ่าน ?สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์? ว่า... ?เดอร์มาโรลเลอร์? ใช้เครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายลูกกลิ้ง และมีเข็มขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.25 มิลลิเมตร เมื่อกลิ้งไปบนผิวหนังก็จะทำให้เกิดรูหรือแผลขนาดเล็กมาก ๆ ซึ่งความลึกของรูหรือแผลจะขึ้นกับขนาดและความยาวของเข็ม การมีแผลลักษณะนี้ก็จะทำให้ผิวหนังต้องเกิดการซ่อมแซมตัวเองโดยสร้างคอลลา เจนขึ้นมาใหม่ คนที่มีแผลเป็นจากสิวหรือมีริ้วรอยตื้น ๆ จึงรู้สึกว่าผิวดีขึ้น เดอร์มาโรลเลอร์นี้ถือเป็นชื่อทางการค้า ทางการแพทย์เรียกว่าการ ทำ สกิน นีดลิ่ง (Skin Needling) หรือ ไมโคร-นีดลิ่ง (Micro-Needling) ซึ่ง พัฒนามาจากวิธีจี้เลเซอร์ซึ่งมีราคาแพงกว่า ลำบากในการดูแลรักษา และเจ็บกว่า จึงทำให้วิธีเดอร์มาโรลเลอร์ได้รับความนิยม โดย วิธีนี้ก็พัฒนาจากการใช้เลเซอร์ซึ่งจะกรอหน้าทั้งหมด ทำให้เกิดแผลสด การรักษาต้องใช้เวลา และอาจมีรอยดำตามมา ต่อมาจึงพัฒนาเป็นการใช้เลเซอร์เจาะรูบนผิวหนัง แต่ก็ยังมีข้อจำกัดคือราคาแพง ใช้เทคนิคสูง จึงมีคนประยุกต์นำเข็มเล็ก ๆ มาใช้แทนเลเซอร์ อาศัยหลักการคล้ายกัน ปัจจุบันเครื่องมือที่ใช้ก็มีหลากหลาย ทั้งแบบลูกกลิ้ง และแบบตรายาง ?ถามว่าได้ผลไหม เท่าที่สอบถามคนไข้หลายคนจะรู้สึกว่าได้ผล แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือข้อมูลวิชาการที่เป็นเรื่องเป็นราว ต้องยอมรับว่าเท่าที่ค้นก็ยังไม่มีข้อมูลหนักแน่นว่าได้ผลจริงในทางวิทยา ศาสตร์ และระยะหลังยังพบว่านิยมเติมสารอื่น ๆ ลงไปด้วย? ...แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังระบุ พร้อมทั้งบอกอีกว่า...
ด้วยความที่เดอร์มาโรลเลอร์กำลังได้รับความนิยม มีคลินิกเปิดให้บริการมากขึ้น สิ่งที่น่ากังวลใจตอนนี้คือเรื่อง ?ความสะอาดของเครื่องมือ? ที่ ใช้ เพราะวิธีนี้คือการทำให้เกิดแผลโดยใช้เข็ม หากความสะอาดไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้ทำตามหลักวิชาการทางการแพทย์ โอกาส ?เสี่ยงติดเชื้อโรค-ติดเชื้อร้าย? ก็สูง และจากข้อมูลพบว่าปัจจุบันมีหลายคลินิกนำเข็มกลับมาวนให้บริการใหม่ ซึ่งในต่างประเทศเครื่องมือเหล่านี้เมื่อใช้แล้วจะถูกทำลายหรือทิ้ง จะเหมือนกับการฉีดยา เข็มฉีดยาเมื่อใช้แล้วก็ต้องทิ้ง ?ถ้ามีการฆ่าเชื้ออย่างดีก็แล้วไป แต่ถึงแม้จะฆ่าเชื้อแล้วก็ต้องถามใจผู้รับบริการว่าจะสนิทใจหรือไม่ ถ้าจะทำก็ตามใจ แต่ควรดูว่าเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งวิธีที่จะดูว่าปลอดภัยก็คงแนะนำได้แค่ว่าต้องเห็นกับตาทุกครั้ง ว่าเขาแกะซองใหม่ออกมาจริง ๆ หรือต้องเลือกคลินิกที่เราคิดว่าไว้ใจได้? ...รศ.นพ.ประวิตรระบุ ขณะที่ รศ.นพ.นพดล นพคุณ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ก็บอกผ่าน ?สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์?
ว่า...ปัจจุบันการรักษาแผลเป็นลักษณะนี้กำลังได้รับความนิยมสูง ทั้งที่ในความเป็นจริงเครื่องมือดังกล่าวยังไม่ผ่านการรับรองจากทาง อย. ที่ผ่านมาก็เคยมีการจับกุม แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ใช้บริการมากนัก อาจเพราะทำแล้วรู้สึกว่ามันได้ผล ที่รู้สึกว่าได้ผลก็เพราะหน้าดูเต่งตึง หลุมลึกดูตื้นขึ้น ซึ่ง จริง ๆ เป็นผลมาจากอาการอักเสบ คือเป็นเรื่องของความรู้สึก ไม่ได้เป็นผลยืนยันในทางการแพทย์ ?ก็ต้องถือว่าเสี่ยง ยิ่งปัจจุบันมีการพัฒนาวิธีการดึงดูดใจคนได้เยอะ หลากหลายวิธี อย่างเช่นสื่ออินเทอร์เน็ต ก็มีทั้งโฆษณาตรง มีการ สร้างเว็บบล็อกบรรยายสรรพคุณเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งดูแล้วก็เหมือนว่าข้อมูลจะมีที่มาจากแหล่งเดียวกันหมด ที่สำคัญมีแต่ข้อดี ไม่มีการระบุถึงผลเสีย ยิ่งถ้าหากไม่ได้ผ่านการทำจากผู้เชี่ยวชาญ ความเสี่ยงก็ยิ่งเพิ่มขึ้น? ...นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังฯระบุ รศ.นพ.นพดลยังบอกด้วยว่า... ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ออกมามาก ซึ่งหลายชนิดยังไม่มีหลักวิชาการทางการแพทย์รองรับ อีกทั้งยังมี คลินิกความงามบางแห่งที่ผู้ให้บริการไม่ใช่แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ จนเกิดปัญหาตามมามาก ซึ่งการตรวจสอบว่ามีแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังอยู่ที่ใดบ้างสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ www.dst. or.th หรือตรวจสอบว่าแพทย์ที่ทำการรักษาอยู่ผ่านการฝึกอบรมแพทยสภาหรือไม่ ก็ตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ www.tmc.or.th ของแพทยสภาได้ เพื่อลดความเสี่ยง ส่วนใครที่สนใจประเด็น ?ขาวอันตราย-ขาวปลอดภัย? ทาง สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยจะจัดการบรรยายในวันที่ 26 ก.พ.นี้ที่ห้องโลตัส 3-4 โรงแรมเซ็นทรัลเวิลด์ เวลา 13.30-15.00 น. ซึ่งใครที่มีข้อข้องใจก็ไปสอบถามกันได้โดยตรง รวมถึงจะได้ความรู้ใหม่ ๆ ในการเสริมสวย-เสริมหล่ออย่างปลอดภัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็มีการเตือนกันต่อเนื่องในหลายกรณี อยากทำสวย-ทำหล่อก็น่าจะได้พินิจพิจารณากันไว้บ้าง จะได้ ?ไม่เสี่ยง-ไม่อันตราย? ทั้ง ๆ ที่ต้องเสียเงิน !!!.
เครดิตจาก http://women.sanook.com
อ้างอิงเว็บไซต์จาก http://www.siliconeclub.com
|
|