ดู: 4941|ตอบกลับ: 10
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[ปรับรูปหน้า/โบท๊อก/ร้อยไหม/ฟิลเลอร์] เตือน!ฉีดฟิลเลอร์เสี่ยงตาบอด เผยมีคนไทยเคราะห์ร้ายโลกมืดแล้ว 3 ราย

[คัดลอกลิงก์]
เนื้อหาข่าว


เตือน!ฉีดฟิลเลอร์เสี่ยงตาบอด เผยมีคนไทยเคราะห์ร้ายโลกมืดแล้ว 3 ราย

วันนี้ (6 ต.ค.) รศ.นพ.นภดล นพคุณ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้รับทราบปัญหาการฉีดฟิลเลอร์ หรือ สารเติมเต็มเพื่อช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีผู้ที่รับการฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอดทันที จึงอยากฝากเตือนไปยังประชาชนที่คิดจะทำเสริมสวยด้วยวิธีนี้ว่าทำแล้วคุ้มค่าหรือไม่ ต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะรอบดวงตาถือเป็นส่วนที่ละเอียดอ่อนและอันตรายมาก แม้แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จะหลีกเลี่ยงไม่ทำเสริมสวยตรงบริเวณดังกล่าว เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดจะแก้ไขไม่ได้ อีกทั้งการฉีดฟิลเลอร์นี้ยังสามารถลดริ้วรอยได้เพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น

“สิ่งที่เรากังวลมาก เพราะหมอที่ทำส่วนใหญ่ไม่มีความชำนาญแค่รับการอบรมไม่กี่ชั่วโมงก็มาฉีดแล้ว ทั้งนี้เท่าที่ทราบ ก่อนหน้านี้ทราบว่ามีคนไทยที่ฉีดฟิลเลอร์ตาบอดแล้ว 2 ราย และมีรายงานรายล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอีก 1 ราย เป็นคนไข้ทางภาคใต้ ซึ่งถูกส่งตัวมารักษาตัวที่ รพ.รัฐแห่งหนึ่งใน กทม.” รศ.นพ.นภดล กล่าว

ด้าน ศ.นพ.ประวิตร อัศวานนท์ ประธานวิชาการสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยที่ตาบอดจากการฉีดฟิลเลอร์ จากข้อมูลเป็นผู้หญิง อายุไม่มาก กรณีดังกล่าวเพิ่งเกิดเหตุการณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคนไข้ไปใช้บริการที่สถานบริการเอกชน ขณะนี้ส่งมารักษาตัวที่ รพ.รัฐแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

จากเดลินิวสส์
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=38&contentID=168098#.To3pquF15BY.facebook

ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลกรณีนี้พบว่า ฟิลเลอร์ที่ฉีดนั้นได้รับอนุญาตถูกต้องจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ส่วนคนที่ฉีดก็เป็นแพทย์ ดังนั้นจึงอยากเตือนไปยังผู้ใช้บริการว่า การรักษาอะไรก็ตามทุกครั้งมีความเสี่ยง ต่อให้ปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ หรือ ทำกับแพทย์ที่เก่งมีฝีมือก็มีโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนได้  อย่างกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นทราบว่าฉีดลบริ้วรอยรอบดวงตาปรากฏว่าตาบอดทันที เนื่องจากฟิลเลอร์เข้าไปเส้นเลือดที่อยู่บริเวณรอบดวงตา.
น่ากลัวจังเลย ฉีดๆสารเนี่ยอันตรายทั้งนั้นเลย  สงสารจังฉีดแล้วตาบอด ขอบคุณค่ะเจ้าของกระทู้ เราได้ข้อมูลเพิ่มมาอีกค่ะ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย cocokyu เมื่อ 2011-10-7 14:54

ถามท่านที่มีความรู้ และให้ความกระจ่างใด้

-แล้วแบบนี้คลินิคเขารับผิดชอบกับผู้เสียหายยังไงบ่างละครับ
-เราสามารถฟ้องหรือเรียกร้องอะไรใด้บ่างถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้
-สำหรับคนที่ต้องการฉีด เรามีวิธีเลือกหมอ+คลินิค ที่มั่นใจว่าปลอดภัยยังไง

ที่ถามมาทั่งหมดนั้น เพื่อเป็นความรู้นะครับ เพราะว่ามีแนวโน้มในการที่จะฉีดสูง
อย่างนี้ต้องศึกษาดี ๆ ว่าคุณหมอมีความเชี่ยวชาญมากไหม  ถ้าหากต้องการฉีดจริง ๆ แต่เราว่าหาวิธีอื่นที่ถาวรหน่อยดีกว่า
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-10-7 23:06:03 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Duffy เมื่อ 2011-10-7 23:06

http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1317917733
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-10-7 23:09:30 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
wuttisak..-blunt_cannula.jpg





เหตุเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นส.ISSA (นามสมมติ) แอร์โฮสเตสสาวชาวอาหรับสายการบิน Gulf Air มาฉีดเสริมจมูกที่clinicสีน้ำเงิน ชื่อดัง สาขา ....  กับคุณหมอต้น  

ใช้ยาฉีดยี่ห้อ Restylane โดยใช้ Blunt cannula หลังจากฉีดไปได้ไม่เกิด 1 นาที คนไข้เริ่มมีอาการปวดรอบดวงตา และเขียวทันที   

คลินิกชื่อดังแห่งนี้ได้ refer คนไข้ไปที่ รพ.รามาธิบดี ที่แรก พญ.วิไล แพทย์เจ้าของไข้ที่รับไว้คนแรก  บอกว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับ Restylane (อ.วิไล ท่านจะเก่งเรื่องการแก้การฉีด Ha ที่ฉีดแล้วมี Complication)   ท่านส่งตัวต่อแอร์คนดังกล่าวไปยังรพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์   

หมอ Neuromed สั่งทำ MRI พบว่า ก้อนยา filler ดังกล่าว ไปอุดตันที่บริเวณเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงที่ดวงตาข้างขวา  และไปอุดตันเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง  

ผลของการฉีด filler ดังกล่าว ทำให้คนไข้แอร์โฮสเตสสาวคนนั้น อาการล่าสุดขณะนี้อัมพฤกษ์ครึ่งซีกและตาบอด ขณะนี้คนไข้ถูก refer มาที่ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท อาการเป็นตายเท่ากัน คุณหมอนพดล  นพคุณ เป็นเจ้าของไข้
      
ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด คลินิกสีน้ำเงินชื่อดัง เป็นผู้ออกให้ทั้งหมด  


ขณะนี้ญาติของคนไข้เตรียมฟ้องร้องคลินิกสีน้ำเงิน เรียกค่าเสียหายหลายร้อยล้านบาท แต่คลินิกดังกล่าวปฏิเสธการจ่ายเงิน โดยตั้งทนายขึ้นมาสู้ อ้างว่าอาจเป็นความผิดปกติของเส้นเลือดของคนไข้เอง

สรุปจากเรื่องราวข้างต้นดังกล่าว มีปัญหาที่ต้องค้นหาดังต่อไปนี้  

1.      สิ่งที่คนไข้ได้รับเป็นเพราะ technical error หรือ ความผิดปกติของคนไข้เอง
2.      สรุปแล้วในเคสนี้ได้ฉีดสาร filler ตัวไหนกันแน่  
3.      Blunt cannula ที่กำลังจะเป็น trend ใหม่ในปัจจุบัน มีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 10/06/11 เวลา 23:40:51 by wuttisak.. »
ส่งโดย: wuttisak..
สถานะ: Newbie  
จำนวนความเห็น: 4   
   


http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1317917733
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-10-7 23:34:35 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ต้นฉบับโพสต์โดย cocokyu เมื่อ 2011-10-7 14:54
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย cocokyu เมื่อ 2011-10-7 14:54

ถามท่านที่ ...

- เฃื่อว่าทางคลินิกต้องรับผิดชอบแหละ แต่คงไม่คุ้มกับที่คนไข้ต้องตาบอด
- สามารถฟ้องได้นะเห็นใน http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1317917733 เค้าก็พูดกัอยู่
- ก่อนหน้านี้มีคนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วใต้ตาบวม เห็นว่าฉีดที่คลินิกด้วย  เห็นที่เว็บนี้น่ากลัวมากไม่รู้ปัจจุบัน เป็นอย่างไรบ้าง
8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-10-9 10:16:49 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เตือนจาก http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1318094229

เนื่องจากกระทู้เดิมที่ผมได้เคยรายงานเอาไว้

คลินิกชื่อดังฉีด filler แล้วคนไข้เป็น stroke และ ตาขวาบอดสนิท!!!!

ได้ถูกลบทิ้งไปแล้ว


เดิมทีผมกะว่าจะยุติการรายงานเรื่องราวความเป็นไปของเรื่องดังกล่าวเพราะเกร งว่าทาง WM จะไม่สบายใจ (เพราะท่านWMได้ทำการลบกระทู้ของผมออกไป)

แต่หลังจากนั้นมีเพื่อนสมาชิกได้สอบถามเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเป็นจำ นวนมาก และคุณ ได้ตั้งกระทู้ถามถึงเรื่องดังกล่าว ตามกระทู้นี้

http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action= display;num=1318065095

ทำให้เกิดคำถามกับผมว่า ผมควรจะรายงานเรื่องนี้ต่อได้หรือไม่ เพราะ การฉีด filler ด้วยเทคนิค blunt cannula แทนเทคนิคเดิมที่ใช้ sharp cannula กำลังจะกลายเป็นเทรนด์ใหม่  

ตอนนี้  Blunt Cannula เทคนิค ก็ได้มีการจัด workshop กันอย่างต่อเนื่อง

ดูได้จาก http://www.mycosmeticbeauty.com/seminar/

และคลินิคหลายๆแห่ง เริ่มมีการใช้เทคนิคดังกล่าวแล้ว

ถ้าผมสามารถรายงานได้  ผมจะรายงานได้มากน้อยเพียงใด ที่จะไม่ให้ทาง Wm และผู้ที่เกี่ยวข้อง สบายใจได้ทุกๆ ฝ่าย

เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง 100 เปอร์เซ็นต์  

ลองโทรไปสอบถามกับผู้ที่เกี่ยวข้องที่ โรงพยาบาล ส. สุขุมวิท ได้เลยครับ

ขอบคุณมากครับ   


« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ เวลา 00:51:58 by หมอภูมิ »
ส่งโดย: หมอภูมิ

กระทู้ที่มีประโยชน์ต่อผู้เล่นเวป ไม่น่าจะมีการลบนะครับ แบบนี้มันไม่แฟร์เลยนะ คนที่ตั่งกระทู้เขาก้ไม่ใด้พาดพิงหรือระบุชื่อบุคลใดในกระทู้นิครับ  เอ๊ะ !! ถ้าเล่นลบกระทู้กันแบบนี้เหมือนจะมีอะไรแอบแฝงนะเนียะ
โอย น่ากลัวมากมาย ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะครับ
อึ้งกิมกี่ไปเลย กำลังอยากฉีด หาข้อมูลอยู่กลัวไปเลย ได้ไม่คุ้มเสีย
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้