ดู: 1810|ตอบกลับ: 6
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[ตัดลดโหนกแก้ม/กราม] รีวิว

[คัดลอกลิงก์]
ก่อนผ่าตัด

หลังจากตัดสินใจเดินทางมาผ่าตัดที่รพ.บาโนบากิ ประเทศเกาหลี วันนี้มีนัด consult กับคุณหมอครั้งสุดท้ายก่อนผ่า ซึ่งรอบนี้จะเป็นอะไรที่เห็นภาพชัดที่สุดแต่ก่อนจะได้คุยกับคุณหมอ เราต้องเตรียมตัวตรวจความพร้อมร่างกายให้ดีก่อนคับ นั่นคือการไปถ่ายรูปหน้าเราในทุกองศาหน้า (ตรงนี้บอกตามตรงเลยว่ารอดยากจริงๆ 55) แล้วก็เข้าเครื่อง Xray เพื่อดูโครงหน้าของเราทั้งหมด (สำหรับผ่าตัดโครงหน้า) จากนั้นก็เจาะเลือด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับความดันเป็นขั้นตอนถัดไปปป




เอาล่ะถึงเวลาปรึกษาแล้วว หมอโอชังฮยอนก็แนะนำแบบรวดเร็วทันใจแบบไม่ต้องเปิดไพ่หรือขอวันเดือนปีเกิด ก็วินิจฉัยบอกปัญหาอย่างตรงจุดแบบที่เราเห็นด้วยทุกอย่างและเป็นปัญหามานาน คือหน้าบานเป็นดวงจันทร์ ฮ่าา หมอโอไม่รอช้า เนรมิตสิ่งต่างๆ เพื่อแก้ปัญหานี้ทันที (ซึ่งก็ไม่น้อยเลย สำหรับคนที่เพิ่งทำศัลยกรรมใหญ่ครั้งแรก) มีดังต่อไปนี้ ...





เหลาโหนกกรามเพื่อให้เล็กเข้ากับรูปหน้า เพราะถ้าดูจากรูปก่อนทำจะเห็นเลยว่าการมีโหนกแก้มของเราคือปัญหาใหญ่ที่ทำให้หน้าป้านมาก ตัดกราม เราเป็นคนมีกรามนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หน้าเราโดยรวมออกมาแล้วไม่ได้สัดส่วนคางก็สำคัญ แต่เป็นสิ่งไม่ได้คาดคิดมาก่อนเหมือนกันว่าจะเป็นปัญหาว่าการที่เรามีคางยาวไม่สมส่วนกับหน้า หมอโอก็จะตัดให้สั้น เข้ากับรูปหน้าอีก 2 จุดที่ได้อธิบายไปข้างบน ฟังทั้งหมดนี้แล้วเหมือนจะหมด ยังงง หมอโอของแถมแบบที่สุดพิเศษคือการเอากระดูกที่ตัดออกไปแล้วมาเติมที่ร่องแก้มให้และที่บอกว่ามันพิเศษเพราะหมอบอกว่าถ้าเราทำแบบนี้จะทำให้ไม่ต้องฉีดโบท็อกซ์อีกเลยยย สุดๆๆ และมันเป็นครั้งเดียวเท่านั้นที่จำทำได้สำหรับคนที่ผ่าตัดโครงหน้าโดยเฉพาะ เพราะเขาจะเอากระดูกที่ตัดไปในส่วนอื่นมาใส่ให้ที่ร่องแก้มเรานั่นเอง



ถ้าถามว่าของเราจบหรือยังก็บอกเลยว่ายังง.. เพราะยังเหลือหมออีกท่านที่เราต้องไปปรึกษา คือหมอลียูจองที่จะมาดูแลจมูกของเรานั่นเอง พอเข้าไปถึงห้องคุณหมอก็ถามถึง REF ของจมูกที่เราอยากให้เป็นและอธิบายให้เราฟังอย่างง่ายเลยว่า จมูกของเรา ตอนนี้มันสั้น จึงต้องเอาซิลิโคนมาเติมตรงกลางจมูกและเอากระดูกซี่โครงหรือหลังหูมาต่อที่ปลาย เพื่อให้ได้รูป แต่หมอยูก็บอกเอาไว้ก่อนแล้วว่าโครงสร้างจมูกเราไม่เหมือนกับ REF ที่ให้มา ถ้าจะให้ธรรมชาติ (ตามบรีฟแรก) หมอยูก็จะทำให้ได้เพียงใกล้เคียงเท่านั้น ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เราต้องการ




จบแล้ว สำหรับวันปรึกษาอันเหน็ดเหนื่อย เพราะมีทั้งความ กังวล ตื่นเต้น และไม่รู้ว่าตัวเองตัดสินใจถูกไหมกับการทำครั้งนี้ แต่ในเมื่อโอกาสมาแล้ว และเคยสัญญากับตัวเองว่าจะพยายามรับทุกโอกาสที่เข้ามาให้ได้ ก็ต้องขอบคุณโรงพยาบาลบาโนบากิด้วยนะค้าบบ


2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2024-4-5 14:12:23 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
วันผ่าตัด

ทางโรงบาลก็จะนัดเรามีเช็ครอบสุดท้าย เพราะตารางผ่าเราคือ 10 โมง และจะต้องตรงเวลากันมากๆ  เพราะหากเราเลทจะยิ่งทำให้เคสต่อไปเลื่อนไป ซึ่งไม่ดีเลย ฉะนั้นเราควรห้ามสายเด็ดขาดด



เอาล่ะ ฮือออ เป็นวันที่ตื่นเต้นและอึนๆ กับตัวเองเหมือนกัน ที่เดินทางมาถึงจุดนี้ได้ มันแบบไปต่อได้ยังเดียว  ถอยหลังไม่ได้แล้ว จังหวะที่พี่ล่าม เดินมาบอกว่าถึงเวลาขึ้นไปห้องผ่าตัดแล้วคือแทบไม่อยากจะเชื่อ แต่เอาเถอะะ คิดแค่ว่าเรากำลังทำในสิ่งที่ไม่เสียหายและผลของมันหลังทำก็จะดีมาก ๆ ด้วย จังหวะนั้นคืออยากกรี๊ดดดด  สักที แต่กลัวคนหาว่าบ้า 555



พอเข้าไปถึงก็บ้วนปากรอบสุดท้าย และก็โดนเรียกตัว ไปที่ห้องผ่าตัด ก็เจอพี่ๆพยาบาลเรียงรายมากมาย จนเราเข้าไปถึงบนเตียง พี่ๆ พยาบาลก็จะเช็คเราอีกครั้ง เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพต่างๆ พร้อมล็อคมือและเท้าเราไว้ (เพราะร่างกายเราอาจจะขยับหรือกระตุกได้ ในช่วงที่เขาผ่าตัด) จังหวะนั้นเองหมอวิสัญญีก็จะเข้ามาเพื่อวางยาสลบเรา  ตอนนั้นโคตรของโคตรตื่นเต้นนๆๆ ไม่คิดไม่ฝัน ว่ามันกำลังจะเกิดขึ้น  แล้วสักพักควันยาสลบก็ค่อยๆ ลอยเข้ามา พยาบาลก็นับถอยหลัง  จนกระทั่งเราเหมือนหลับไปโดยไม่รู้ตัว ภาพตัด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เขาเอาเครื่องปล่อยยาสลบมาที่หน้าเราเมื่อไหร่ เปิดประสบการณ์มากๆ



รู้ตัวอีกที เราก็ถูกปลุกให้ตื่นซะแล้ว จังหวะนั้นเองที่เราเพิ่งคิดได้ว่าทุกอย่างผ่านไปแล้ว เขาผ่าตัดเสร็จแล้ว อย่างแรกคือหันไปดูนาฬิกาาา  18:30 แล้วว  ผ่านไปตั้ง แปดชั่วโมง ไวเหมือนโกหก จังหวะที่ตื่นมาได้แต่บอกกับตัวเองว่าต้องดึงสติตัวเองเอาไว้ให้ได้แต่มึนและเมายาสลบอยู่ ไม่รวมความเจ็บและปวดจากการผ่าตัด แต่เอาวะพยายามหายใจเพื่อเอายาสลบภายในร่างกายออกไป แล้วพี่ล่ามก็บอกจะยังไม่สามารถกินน้ำได้สี่ชั่วโมง ตอนแรกก็คิดว่าเอาวะเราทนไหวแหละ แต่ระหว่างรอกว่าจะดื่มน้ำได้เนี่ยแหละ ที่สุดแห่งการรอแล้ว คอแห้ง เจ็บคอ หายใจลำบาก ไหนจะสายเดรนอีก นี่มันโหดไปไหม อะไรที่คิดว่าจะได้เจอก่อนทำ ตอนนี้ได้เจอกับตัวเองแล้ว ประสบการณ์ชีวิตครั้งนี้ไม่มีลืมเด็ดขาดด




ความโชคดีนึงคือการมีเพื่อนไปด้วย ก็เป็นสิ่งที่ช่วยได้เยอะเหมือนกันในแง่ได้มีเพื่อนคุยระหว่างรอตั้งสี่ชั่วโมง มันอาจจะไม่ได้ไวขึ้นแต่มันดีกว่ารอโดยไม่มีใครสี่ชั่วโมงแน่ๆ แต่คนทำศัลย์ที่เกาหลีนี่เก่งกันจริงนะ เพราะเหล่าคนที่ได้รับการผ่าตัดวันนี้ ทุกคนล้วนรุกขึ้นมาเดินไปรอบ ๆ โดยมิได้นัดหมายด้วยกัน คงเป็นเพราะการเดินมีผลทำให้ฟื้นตัวไวด้วยนั่นเอง

แล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึงสี่ทุ่มพอดีเป๊ะ จังหวะนั้นคือรีบบอกให้เพื่อนไปหยิบน้ำเทใส่แก้วมาทันทีแล้วดื่มจนครึ่งขวด

จากนั้นก็ไล่เพื่อนกลับไปเพราะคืนนี้เราต้องนอนพักฟื้น 1 คืน แต่พอได้กินน้ำเราก็ดีขึ้นมากจริงๆ แต่ความโหดต่อมาคือความไม่เคยชินกับการหายใจที่ลำบาก ต้องนอนหน้าตรงเท่านั้นน นี่แหละที่ทำให้เรานอนยากมากๆ สำหรับคืนแรก

แล้วจะกลับมาอัพเดทให้เพื่อนๆ ได้อ่านต่อนะครับ
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2024-5-9 17:27:29 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สวัสดีครับตี๋ #DeeHupHouse #ดีฮัพเฮ้าส์ ครับ
วันนี้จะมาอัพเดทหลังศัลยกรรมปรับโครงหน้าและจมูก ครบ 1 เดือนครับ


หลังผ่าตัด 2 สัปดาห์แรก



มาถึงวันตัดไหมปาก จะบอกว่าเป็นวันนี้ที่รคอยมากๆ
มันเหมือนเราจะได้ปลดล็อค 14 วันแห่งความหวัง
ความอดทนทั้งหมดแล้ว คือถึงวันนี้ความเจ็บปวดต่างๆ หายไปหมดแล้ว
ยังคงมีความตึงๆ หน่วงๆ เหมือนเรายกของไว้ที่หน้าอ่ะ
จากปกติเรายกของเราต้องใช้ร่างกายส่วน แขน ส่วนมือ ไรงี้ เห็นภาพไหมนะ 55
กินอาจจะยากอยู่เพราะอ้าปากยาก
แต่ก็กินได้หมดแล้วแค่รักษาความสะอาดในช่องปากให้ดีเท่านั้น
และลดเค็มกับลดเผ็ดไปก่อนในช่วง 2- 3 เดือนนี้
ให้ร่างกายได้ซ่อมแซมได้อย่างเป๊ะที่สุดหรือพร้อมที่สุดก่อน จะได้หายยุบบวมไวๆ
แต่โดยรวมดีขึ้นมากแล้ว ทิศทางใบหน้าก็ดีขึ้น
คือฟีลพร้อมรับความสวยหลังบวมได้เลย ดีใจรอแล้ว


เอาล่ะถึงตอนตัดไหมในปาก ก็เป็นพี่พยาบาล 2 คนเหมือนเดิม

ก็เริ่มตัดไหมในจมูกที่เหลือก่อนเลย ซึ่งรอบนี้ก็ไม่มีปัญหาใดๆ เลย

ตัดไหมแบบชิลๆ ไม่เจ็บเหมือนเดิม จนมาตรงไหมในปาก

ก็ตื่นเต้นว่าจะมีปัญหาหรือเปล่าแต่สุดท้ายก็ไม่มีพร้อมตัดไหม

เราก็พร้อมมาก ไม่กลัวเจ็บ ไม่กลัวอะไรแล้ว ขอให้ตัดมันออกไปสักที 555



หลังผ่าตัด 1 เดือน



หลังจากครบ 1 เดือนตอนนี้เลิกรัดหน้าแล้วครับ
เริ่มฝึกอ้าปากแล้ว พยายามฝึกให้ครบรอบ การอ้าปากก็ยังอ้าปากได้ไม่เท่าตอนแรกๆ
แต่ก็อ้าปากได้มากขึ้นกว่าช่วง 2 สัปดาห์นะ เริ่มทานอาหารได้เยอะขึ้น
ความบวมยังมีอยู่แน่นอนแต่ลดลงจากช่วง 2 สัปดาห์อย่างเห็นได้ชัดครับ



แต่ถึงแม้ความบวมจะยังมีบวมๆ หน้าเต่งๆ อยู่
แต่องศากระดูกของหน้าเราเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น
หน้าดูมีมิติขึ้น จมูกรับกับรูปหน้าไม่ทำให้หน้าดูดุ
หน้าดูหวาน ละมุนขึ้นเยอะเลยล่ะครับ







4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2024-6-26 14:40:07 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สวัสดีครับตี๋ #DeeHupHouse #ดีฮัพเฮ้าส์ ครับ
วันนี้จะมาอัพเดทหลังศัลยกรรมปรับโครงหน้าและจมูก ครบ 2 เดือนครับให้เพื่อนๆได้ดูกันครับ



ถึงแม้ว่าจะผ่าตัดได้ 2 เดือนแล้ว แต่หน้ายังบวมอยู่ (ซึ่งเป็นเรื่องปกติ)

แต่หน้ายังยุบและเล็กลงเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัดแบบไม่ต้อง กังวล

ทุกอย่างหลังจากนี้เป็นเรื่องของเวลาจริงๆ พยายามอย่าไปโฟกัสมาก แค่ใช้ชีวิตต่อไป แค่ท่องเอาไว้ว่า เราจะดีขึ้นได้อีกๆ แค่นี้ก็พอแล้วว ภูมิใจในจมูกตัวเองสุดๆ


จมูกตี๋รู้สึกว่าจมูกบวมอยู่ไม่มาก แต่ก็ยังตึงๆช่วงเหนือริมฝีกปากบ้างครับ

แล้วก็ตอนนี้ยังอ้าปากได้ไม่กว้างมาก ทานอาหารที่เหนียวมากๆ อย่างสเต็กเนื้อไม่ค่อนถนัดเหมือนก่อนผ่าตัดครับ แต่ถือว่าฟื้นตัวได้เยอะมากๆ แล้ว

สามารถกินชาบู อาหารทั่วไปได้เลย ยกเว้นของที่แข็งมากๆ เราก็จะเว้นไปก่อนครับ


ตอนนี้ถ่ายรูปจะทีเผลอหรือตั้งใจก็ออกมาดีกว่า มั่นใจกว่าแต่ก่อนมากๆ มีมิติมีความพุ่งและเรียวก็ของใบหน้า รักบาโนบากิสุดๆคับบบ

5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2024-6-26 14:47:26 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย bandittee เมื่อ 2024-6-26 14:49

สวัสดีครับตี๋ #DeeHupHouse #ดีฮัพเฮ้าส์ ครับ
วันนี้จะมาอัพเดทหลังศัลยกรรมปรับโครงหน้าและจมูก ครบ 3 เดือนครับให้เพื่อนๆได้ดูกันครับ


3 เดือนผ่านไป

ตอนนี้อาการเจ็บ อาการใดๆ หายไปหมดแล้ว

เพื่อนๆ รอบตัวชมและชื่นชอบกับสิ่งที่คุณกหมอและบาโนบากิมอบให้มากกๆ จนอยากจะไปทำกัน




ส่วนเราที่รอวันยุบตอนนี้โครงหน้าเริ่มชัดขึ้น แต่ก็ยังมีที่รู้สึกได้ว่ายังลดได้ไม่หมด

ความลบบวมที่ยังเหลือน่าจะเป็นตรงช่วงคางและเหนียง

กรอบหน้าและกรามยังไม่ชัดเพราะความบวมกองอยู่ข้างล่าง

แต่ส่วนจมูกคือหมอประทานสุดๆ คือจมูกดีชีวิตเปลี่ยนมีอยู่จริง



ส่วนเรื่องการกินอาหารก็สบายมาก ตอนนี้ทานได้ทุกรูปแบบื่รอาหารได้ดป็นปกติ

เศษอาหารที่ติดตามซอกฟันไม่ค่อยมีแล้ว เพราะเราคอนโทรลการเคี้ยวได้มากขึ้น

ไม่น่าเชื่อว่าผ่าตัดใหญ่ขนาดนี้ใช้เวลา 3 เดือนก็พลิกชีวิตได้แล้ว

ขอบคุณโรงพยาบาลบาโนบากิจริงๆ ครับ

cats.jpg (128.58 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 23)

cats.jpg
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2024-7-24 16:07:49 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย bandittee เมื่อ 2024-7-24 16:10

4 เดือนผ่านไป
ตอนนี้ก็เหลือแค่รอหน้ายุบไปเรื่อยๆ เท่านั้น คือความดีใจคือไม่ใช่รอนาน แต่คือการรู้ว่านี่ยังไม่ใช่จุดที่ดีที่สุด (ถึงแม้มีคนชมว่าดีอยู่ตลอด)


คือเราจะดูดีขึ้นได้อีกเรื่อยๆ ต่างหาก คือเป็นรอเวลา 1 ปี ว่าเราจะไปหยุดดีดีที่ตรงไหนอะ ฮ่าา คือไม่รีบเลย รอสบายๆ เพราะเรากลับมาใช้ชีวิตปกติได้แล้ว



พร้อมเวลาถ่ายรูปก็มั่นใจในมุมต่างๆ มากขึ้น  แบบเกือบ 100 %






มีแค่ช่วงคางกับเหนียงที่เคยบอกไป ว่าน่าจะต้องใช้เวลา ก็จะถ่ายรูปอัปเดตมาให้ทุกคนได้ดูนะคับ
ตอนนี้เพื่อนๆ ทักตลอดว่าลืมหน้าเดิมไปแล้วว สะใจมากก ขอบคุณโรงพยาบาลบาโนบากิจริงๆ ครับ
ผมชอบหน้าตัวเองตอนนี้มากๆ อยากเห็นหน้าตัวเองตอนไฟนอลแล้วครับ
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2024-8-13 14:17:05 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย bandittee เมื่อ 2024-8-13 14:21

5 เดือนผ่านไป

5 เดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก



ตอนนี้ความเจ็บไม่มีแล้วสักนิด มีเพียงแต่ความชาเบาๆ ที่รู้สึกได้เวลาจับไปที่หน้าบริเวณจุดที่ทำ



ยังคงยืนยัน นอนยันว่าถ่ายรูปมั่นใจขึ้นมาก คนที่เจอบอกว่าหน้าเด็กลงมาก อาจจะเพราะเรายังคงมีแก้มตุ้ยๆ ซึ่งเป็นผลจากการบวมหรือเปล่าไม่แน่ใจ



แต่ก็ยังรู้สึกถึงความบวมที่แก้มอยู่แต่ไม่ใช่ปัญหาเลย สบายมาก รู้สึกน่ารักขึ้นแบบคูณร้อย ฮ่าาา


เชียร์ทุกคนครับกับการทำศัลยกรรมใหญ่ครั้งนี้ แฮปปี้มาก ใครที่คิดอยู่ไม่ต้องคิดแล้ว มืออาชีพอย่างบาโนบากิทำคือไม่ต้องกังวลอะไรเลย ถ้าเราอยากสวย อยากหล่อ อดทนไม่นานคับ ผลลัพท์ออกมาดีแน่ๆๆ

3.JPG (170.37 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 5)

3.JPG

PX006666.JPG (1.28 MB, ดาวน์โหลดแล้ว: 5)

PX006666.JPG

4 lo.JPG (132.69 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 5)

4 lo.JPG
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้