ศึกษามา5ปี จนในที่สุดก็ตัดสินใจจบที่ Dream Clinic คุณหมอทรงยศ

maplelee

        สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่จะมาเขียนรีวิว เราไม่เคยรีวิวด้วย และเราขอพิมพ์อย่างย่อที่สุด เพราะการตัดสินใจของเรา ไม่ได้ใช้เวลาเป็นเดือน แต่เราศึกษาได้5ปี ถึงตัดสินใจเลือกสถานที่ตรงนี้

และขอบอกอย่างไม่อาย เราเป็นคนขี้กลัวมากถึงมากที่สุด เป็นคนขี้เจ็บ กังวล อุปโลกน์นั่นแหละ!!!5555

        ส่วนตัวเป็นคนหน้าอกเล็กถึงเล็กมาก เรียกว่าไม่มีเลยก็ได้ เราศึกษาการผ่าตัดมาทั้งหมด 5ปี!!!! เราให้ความสำคัญมากๆ กับการผ่าครั้งนี้ (ไม่รู้ดิ) นมเรา เราก็อยากให้มันดีที่สุด สวยที่สุด ตลอดระยะเวลา 5ปี เราไปดู คลีนิก โรงพยาบาล ที่เราคัดไว้ เราไปสถานที่จริงทั้งหมด และเราก็มาจบที่ ดรีมคลีนิก เพราะ!! คุณหมอมีความน่าเชื่อถือมา งานเย็บสวย ใส่ใจลูกค้าดี ทุกอย่างมันดูตอบโจทย์กับใจเราด้วย เราเลยเลือกที่นี่ (จาก5สถานทีที่คัดไว้)

        เริ่มเลยนะ เราเข้าไปปรึกษาคุณหมอ ตอนนั้นมันมีโปร ราคารวมทั้งหมดแล้ว 50000ปลายๆ ถึง 60000 เราจำชื่อโปรไม่ได้ แต่เป็น ซิลิโคน Silimed.

        คุณหมอพูดว่าเรามีเนื้อนม 120 (555+ คือแบบ!!! คัพA  ยังอาย) คุณหมอ ให้เราลองใส่ 335 cc และ 390 cc silimed เราเลือก 390 cc. โดยไม่ต่อรอง (ว่าง่ายมาก) เราพอใจมาก 5ปี กับการศึกษาและตัดสินใจ มันง่ายดาย ราบรื่นไปหมด แต่ก็แอบถาม ถ้าเราอยากได้ 400 มันจะยังไง คือเราก็ใส่ได้นะผลการประเมิน เพราะด้วยเนื้อ และ ความผิว เราสามารถใส่ได้สบายๆ แต่!!! ที่ไม่ใส่ เพราะมันมีราคาเกินขอบไง เพิ่มอีก5000 จบนะ!

หน้าอก คัพเอ จริงๆ

(ลืมบอก เราทำใต้ราวนม ทรงกลม ผิวทราย) กลับมาจากการพบหมอได้ไม่ถึง 2 วัน เราโอนค่ามัดจำเลย

        มาวันผ่าตัด วันพฤหัสที่ 21 กันยายน2560 เวลา 12.00 ช่วงรอคุณหมอเราจะนั่งรออยู่ข้างๆห้องผ่า มันน่าแปลกที่เราเป็นคนขี้กลัวแต่วันนั้นเรากลับไม่กลัวเลยสักนิดเราพร้อมที่จะผ่าตัดทันที แต่แน่นอนมันมีความตื่นเต้นอยู่แล้ว หลังจากนั้น คุณหมอเดินเข้ามาในห้องเพื่อมาวัดและวาดรูปก่อนผ่าตัดบนหน้าอกโดยใช้เมจิกในการวาดนะ จะเย็นๆหน่อย

        ณ.เวลาขึ้นเตียง ทีมแพทย์จะมัดแขนมัดขาเพื่อกันไม่ให้เราดิ้นในช่วงเวลาผ่าตัด แพทย์ผู้ช่วยในเรื่องของยาสลบก็ชวนเราคุยต่างๆนานา อารมณ์ประมาณ อยากให้ใจเราหายกังวลและครั้งสุดท้ายของก่อนหลับตาลง เราแอบท่องบทสวดมนต์ด้วย ( อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะ ) การผ่าตัดผ่านไปอย่างราบรื่นเราตื่นมาพร้อมความเบลอเพราะยาสลบ ยาชา เรามาคิวแรกก็จริง แต่เรากลับคนสุดท้าย555
        *แนะนำเพื่อนๆ ควรพาใครสักคนไปด้วยนะ คุณไม่สามารถกลับบ้านได้เองแน่นอน!!! อันนี้สำคัญ

        เราไม่รู้สึกเจ็บกับการผ่าตัดเลยแต่เรารู้สึกเบลอมากกว่า  คืนแรกเรายังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แฟนก็จะคอยหยิบ โน่นนี่นั่นให้ ยิ่งวันที่สองมันจะมีความลำบากมากๆ มีความคอแห้ง มึน แต่มันก็แค่สองวันแรกนะที่เรารู้สึกว่าทำอะไรด้วยตัวเองลำบาก วันที่สามก็เริ่มเดินได้เองบ้างเล็กน้อย!!! ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ความเจ็บจากการผ่าตัดแหนะหรอ แทบไม่มีไม่รู้สึกเลยด้วยซ้ำ(สาบาน) อันนี้พูดจริงๆคุณหมอนัดเราหนึ่งอาทิตย์เพื่อดูสายเดน เช็คเลือดน้ำเหลืองเป็นอย่างไรวันนัดตรวจครั้งแรกเราบอกคุณหมอเลยว่าเราไม่รีบเอาสายเดนออกเพราะเราลางานแล้วคุณหมออยาก ให้เราเอาใส่ไว้นานแค่ไหนเราโอเค สรุปคือเราใส่สายเดรนไปประมาญ10 วัน ซึ่งมันเป็นผลดีนะมันทำให้เลือดที่ค้างอยู่หลังจากการผ่าตัดได้ระบาย เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในอนาคต

        *คุณหมอกำชับไม่ให้เราออกกำลังกายงดเล่นเวตงดยกของหนัก ไม่กินของเผ็ด ของแสลง มันเป็นช่วงเวลาที่ทรมานที่สุดสำหรับการกินส้มตำปูปลาร้า และการเข้าฟิตเน็ทของเรา

        ตลอดระยะเวลาหลังผ่าตัดคุณหมอเรียกให้*ไปพบแทบจะทุกอาทิตย์ ดูผลหลังผ่าตัด ดูการใส่สปอต์บราด้วย ถ้าซื้อมาใส่ผิด ก็ต้องซื้อใหม่ช่วงเดือนหกถึงหนึ่งปี จะซีเรียสเรื่องการใส่สปอร์ตบรานิดนึงและฉันใส่สปอร์ตบาอยู่ประมาณ1ปี หลังจากนั้นก็เริ่มหาเสื้อในไร้ขอบมาใส่มันเป็นช่วงเวลาที่ดี๊ดี.

        มาตรวจทุกครั้งตามที่หมอนัด

        ตอนนี้ครบปีกว่าได้แล้วว แฮปปี้มากก เจอใครก็ทักว่าดูสวยขึ้น เซ็กซี่ขึ้น