เหลาคาง กรอคาง แก้คางใหม่ หน้าเบี้ยวเพราะซิลิโคนเหลวทำพิษ!

moonkminkkk

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ + อุทาหรณ์แก่เพื่อนๆทุกคน ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่าเราเป็นคนที่คางใหญ่ นูน เราเลยตัดสินใจไปฉีดซิลิโคนเหลว หวังให้คางเข้ารูป และสมดุล ช่วงแรกก็สวยดีค่ะ แต่พอผ่านไป 3-4 ปี ซิลิโคนเหลวที่ฉีดมาเหมือนไหลมากองรวมกันค่ะ เกิดการห้อยย้อย แข็งตึง และเบี้ยวในที่สุดค่ะ

คางยาวเหมือนแม่มด และดูไม่เป็นธรรมชาติ


ใกล้ๆค่ะ


เงยหน้าแล้วเห็นชัดๆมากเลยค่ะ เป็นก้อนซิลิโคนเหลวเลย

แต่ซิลิโคนเหลวก็คือซิลิโคนเหลวค่ะ มันไม่สลายไปได้เหมือนพวกฟิลเลอร์ ทางที่ดีที่สุดคือต้องแก้คาง ขูด เลาะออก แต่สำหรับของเราไม่ต้องเสริมซิลิโคนเข้าไปเพิ่ม เนื่องจากมีรูปคางที่ยาวอยู่เลย เลยทำเป็นกรอคาง เหลาคาง ให้เข้ารูปแทนค่ะ

ปรึกษาคุณหมอณัทธรแล้ว คุณหมอณัทธรบอกว่าเราต้องขูดซิลิโคนเหลว + กรอคาง เหลาคาง ใช้เทคนิคดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ค่ะ เราตัดสินใจแก้คางทันทีที่ปรึกษาเสร็จค่ะ

หลังกรอคาง เหลาคาง 7 วันค่ะ

3วันแรก ของเราจะบวมๆช้ำๆหน่อย เพราะว่าเป็นเคสแก้นะคะ แต่พอ 7 วัน รอยซ้ำก็แทบไม่เห็นแล้วค่ะ


15 วันผ่านไป ไวเหมือนโกหก ยังดูยาวนิดๆเพราะว่ายังไม่เข้าที่นะคะ จะยุบลงเรื่อยๆ

ผ่านไป 1 เดือนแล้วค่ะ ให้ดูหลายๆมุมเลย คางยุบลงมากแล้ว คางไม่เบี้ยว ไม่จับตัวเป็นก้อนแล้ว เลิฟมากค่ะ ขอฝากเรื่องของเราไว้เป็นอุทาหรณ์นะคะ หากอยากให้คางยาวขึ้นเป็นรูปทรง แนะนำเป็นเสริมคางซิลิโคนไปเลย สวยถาวร หรือหากอยากให้คางเล็กลง สั้นลง แนะนำกรอคางหรือเหลาคางไปเลยนะคะ อย่าไปริฉีดอะไรเพิ่มเติมเต็มให้สัดส่วนมันเท่ากัน ไม่งั้นอาจจะพบจุดจบต้องมาแก้คางแบบเราก็ได้

ไปทำสวยแล้วต้องสวยจริงๆ  เพราะถ้าไปหลงเลือกทำสวยแบบผิดทางแบบเรา อนาคตก็ต้องมาเสียเงินแก้ แถมแพงกว่าตอนทำครั้งแรกอีก เรายังถือว่าโชคดีมากๆที่หน้าโย้ ย้อยก็จริงแต่ไม่เป็นอะไรมาก เพราะหลายๆคนฉีดซิลิโคนเหลวแล้วอักเสบเน่า ติดเชื้อ ถึงขั้นพิการก็มี อันตรายมากๆค่ะ ยังไงก็ตามความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรก ถ้าจะให้แนะนำก็คงเป็นโรงพยาบาลเลอลักษณ์ค่ะ เพราะเป็นที่ๆไว้ใจได้ มีชื่อเสียงมานาน และทีมแพทย์มีความเชี่ยวชาญและเก่งมากค่ะ

pu_pea

สวยคร้า