" หมดไปเป็นแสนๆแก้จมูกสั้นไม่ได้ ในที่สุดก็ตามหาหมอที่แก้ได้จนเจอ "

gluaywirawan

รีวิวแก้จมูกสั้น ปลายบาง เนื้อน้อย กับคุณหมอศรัณ อินทามะระ

สวัสดีค่ะเราชื่อว่านนะคะ
ว่าจะมารีวิวนานแล้ว แต่ก็เห็นสาวๆสวยๆเยอะ เลยไม่กล้าจะลง 555
ว่านมีอาชีพเป็นนางแบบค่ะ เคยถ่ายลง FHM และ Zoo ค่ะ
และ มีอาชีพรับเหมาระบบสายไฟฟ้า กล้องวงจรปิด ระบบ lan
อายุอานามก็หลัก 30 + แล้ว



ว่านมีปัญหาเรื่องจมูก จมูกว่านปลายบางมาก และเนื้อน้อย มีร่องอยู่ตรงข้างปีกจมูก จมูกสั้นกว่าปีก นอกจากไม่สวยแล้ว โหงวเฮ้งก็ไม่ดีด้วย ว่านจึงเริ่มตามหาหมอทำจมูกแก้โหงวเฮ้งให้  โจทย์ที่คิดไว้คือว่านอยากได้จมูกที่โด่งขึ้น ปลายยาวๆ ดูมีสันมีมิติ แต่หน้าต้องดูไม่แข็ง



ว่านตัดสินใจไปทำจมูกกับคุณหมอท่านหนึ่งสมมุติว่าชื่อ คุณหมอ A  ด้วยความเชื่อมั่นในฝีมือและชื่อเสียง ในราคา 2 แสน + ก็บอกคุณหมอไปตามโจทย์ที่เราต้องการ   แต่เมื่อผลงานออกมา คุณหมอก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาให้ว่านได้ จมูกว่านยังคงสั้น ปีกจมูกทั้งสองข้างยังคงมีร่อง ว่านกลับไปหาคุณหมอ A อีกรอบ คุณหมอก็ไม่สามารถ ทำจมูกสั้นเนื้อน้อยให้ยาวได้ ร่องตรงปีกที่เด่นชัดขึ้นหลังทำจมูก คุณหมอก็แก้ไขโดยการฉีดฟิลเลอร์  สรุปแล้ว ว่านเสียเงินไปสองรอบเกือบสามแสน แต่ว่านไม่ได้ งานจมูกที่ต้องการ ว่านจึงต้องเบนเข็มไปหาหมอคนใหม่



ว่านใช้เวลาดูรีวิวและดูโฆษณาจากสื่อต่างๆ ใช้เวลาศึกษานานมาก แต่ชอบที่จะเห็นของจริงมากกว่า ว่าใครทำที่ไหนสวยบ้าง หรือออกมาเป็นอย่างไร โดยใช้วิธีถามจากเพื่อนๆ ว่านทำถึงขนาดว่า เวลาเจอใครเดินผ่าน สวนกัน หรือเจอในห้องน้ำ ถ้าเห็นว่าจมูกใครสวยก็จะปรี่เข้าไปถามเค้าทันที  ใจนึงก็กลัวโดนด่า แต่ด้วยความว่าอยากทำแล้วออกมาสวย ไม่อยากเจ็บตัวอีกหลายรอบ เลยยอมทนอายถามเค้า  555

จากนั้นมาเผอิญว่าไปถ่ายแบบมาหลายที่ ช่วงนั้นเจอเพื่อน พี่ น้อง ก็ถามเค้าไปทั่วว่าทำจมูกที่ไหนมา บางคนก็ยอมบอก บางคนก็ไม่ยอมบอก อ้างว่าจมูกเป็นของแท้พ่อแม่ให้มา แม้จะมองเห็นเป็นสันเงาโด่งเว่อร์เชียว จนกระทั่งวันนึงไปเจอเพื่อนของเพื่อนๆ นางแบบที่จมูกเค้าสวย เราก็ยอมทนอาย (เหมือนทุกครั้ง) ไปถามเค้า ว่าทำจมูกที่ไหนมา น้องๆ ก็น่ารักนะคะ เค้าบอกเราโดยไม่กั๊กว่า  เขาทำจมูกกับหมอศรัณย์ พอถามทั้ง 5-6 คน เค้าก็บอกว่าเค้าทำจากที่นี่ทุกคน และเป็นทรงที่เราอยากได้อยู่แล้วด้วย หลังจากนั้นมาก็ไม่ดูรีวิวของใครอีกเลย จดจ่อดูรีวิวและศึกษาเกี่ยวกับคลีนิคนี้อย่างเดียวเลย เพราะก่อนหน้านี้ ว่านไม่เคยได้ยินชื่อหมอมาก่อนเลย อาจจะเพราะว่าหมอไม่ได้ทำการตลาด ไม่ได้โปรโมท ...





จริงๆแล้ว หลังจากหาข้อมูลมาสักพัก ว่านก็พอรู้แล้วนะคะ ว่าจมูกสั้น ปลายบาง เนื้อน้อย เป็นจมูกปราบเซียน ว่านต้องหาหมอที่เก่งทางเทคนิคด้านนี้   แในขณะเดียวกันก็ต้องทำทรงแบบที่เราต้องการได้ด้วย ว่านเห็นจมูกคุณหมอศรัณย์จากเพื่อนๆในวงการหลายคน ก็คิดว่าใช่ทรงนี้แหละ ทรงสวย โด่งเนียนดี

หลังจากหาข้อมูล ตามดูงานจริงมาสักพักใหญ่ๆจนมั่นใจ ว่านจึงมาพบกับคุณหมอ...แรกๆ ระบายความอัดอั้นตันใจค่ะว่าเราอยากได้แบบไหน จมูกที่ได้ตอนนี้ มันยังสั้น ไม่โด่งดูหน้ายังแบน และมีร่องตรงปีกจมูก จมูกไม่ได้ดังใจ



คุณหมอบอกว่าเนื้อเราน้อย ถ้าใช้แค่ซิลิโคนอาจเป็นไปได้ยาก ยากที่จะทำแบบที่เราต้องการ หมอเลยให้ความรู้ว่าตอนนี้มีการใช้กระดูกอ่อนซี่โครงของตัวเราเอง มาช่วยในการเสริมจมูกได้ และมีผลดีตรงที่ปลายไม่ทะลุ เพราะเป็นกระดูกเราเองแท้ๆ โดยหมอจะเฉือนเอากระดูกอ่อนตรงซี่โครงโดยเปิดแผลจากใต้ราวนม ไม่เห็นแผลเป็น

ได้ยินคำว่า ซี่โครง !!! ความกลัวของว่านพุ่งสู่ระดับ 10 เลยค่ะ ตื่นเต้นด้วย กลัวเจ็บด้วย ทั้งที่ตอนทำนั้นวางยาสลบ คิดไปต่างๆ นาๆ สารพัด กลัวจะพลาด( อีก)  และจะไม่เป็นอย่างที่เราคิด แต่สุดท้ายก็คิดว่าไม่เป็นไร...เราเชื่อใจหมอ เราตามดูงานจริงมาเยอะแล้ว ทั่งของเพื่อนๆ ของที่คลีนิค  ต้องทำออกมาดีสิ !!!



ว่านจึงตัดสินใจทำเลยค่ะ

gluaywirawan

วันแรกที่ทำหลังฟื้นจากยาสลบก็ยังนั่งมึนๆ งงๆ เดินแทบไม่ได้ เบลอเพราะฤทธิ์ยา พอเข้าห้องน้ำดูกระจก ก็มีเฝือกแปะอยู่ที่จมูกอยู่แล้ว เลยยังไม่เห็นอะไรทั้งนั้นภายใต้เฝือก พอพักได้ 3 ชม.ที่คลีนิค ก็ขับรถกลับบ้านเอง 555 ( ไม่ควรเลียนแบบนะคะ ควรมีคนมารับจะดีกว่า )

ผ่านไปวันแรกเจ็บตรงแผลซี่โครงแต่ตรงจมูกมันรู้สึกแค่หนึบๆ ไม่ได้เจ็บอะไรเลย

วันที่ 4 ก็ไปเดินห้าง ซื้อของกินตามปกติ ทั้งที่มีเฝือกแปะอยู่ที่จมูก แต่ยังเจ็บแผลตรงซี่โครงอยู่

วันที่ 5 เฝือกหลุดออกมาเอง อาจเพราะเป็นคนผิวมันมาก พอหลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตปกติ มาตัดไหมตามกำหนดที่หมอระบุไว้

ผ่านไปเดือนแรก จมูกออกมาสวยเลยค่ะ อาจดูบวมๆ ตุ่ยๆ นิดหน่อย ตรงปลายจมูกและตา แต่หน้าดูยาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

3 เดือนแรก ออกมารับงานถ่ายแบบปกติ มีแต่คนทักว่าหน้าดูสวยและแพงขึ้น ว่านดีใจมากกกกกกกกก

พอ 6 เดือน จมูกก็เข้าที่มากๆ แห้งสนิทและไม่บวมแล้ว พอใจมากๆค่ะ ผลลัพธ์ที่ได้เป็นไปตามที่ต้องการทั้งหมดเลย ไม่เคยคิดว่าปลายจมูกจะทำได้ยาวขนาดนี้ เพราะไม่ได้คาดหวังไว้เยอะ  เพราะอ่านรีวิวมา  เห็นคนจมูกปลายบางสั้นเนื้อน้อย มันแก้ยากทำอะไรแทบไม่ได้  ไม่ได้ทรงแบบนี้เลย  พอผลที่ได้เกินความคาดหมายยิ่งดีใจมากกว่าเดิมหลายเท่าเลยค่ะ

ปัจจุบันผ่านมา 1 ปี 2 ปีแล้ว ว่านมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ เพราะเรามีความมั่นใจ ซึ่งเมื่อก่อนเวลามีคนทักเรื่องร่องจมูก หรือความสั้น เราก็ยิ่งเสียเซลฟ์ (ลึกๆเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองอยู่แล้วด้วย ) พอถอยจมูกมาใหม่แล้วเรามั่นใจ





เวลาส่องกระจกเราก็ไม่รู้สึกว่าเราด้อยเหมือนเมื่อก่อน อย่างน้อยก็มั่นใจว่าตัวเอง up level ระดับหน้าตาตัวเองจากระดับขี้เหร่ขึ้นมาเป็นระดับปานกลางได้สำเร็จ !!!

gluaywirawan

งานถ่ายแบบที่เมื่อก่อนก็มีบ้าง ไม่มีบ้าง ก็มีเข้ามาเยอะขึ้น มีงานต่อเนื่องแบบปากต่อปาก และผลงานที่มีมากขึ้น ทำให้คนรู้จักเราเยอะขึ้นเหมือนกัน ถึงแม้อายุเราจะผ่านมาเลข 3 กว่าๆ แต่ก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆ จนเยอะมากกว่าเดิมหลายเท่า





คนรอบข้างก็ชมว่าสวยขึ้น บางคนไม่เจอกันนานเค้าก็แปลกใจว่าแค่จมูกอันเดียวสามารถเปลี่ยนหน้าเราได้ขนาดนี้เลยเหรอ ร่องตรงปีกจมูกก็หายไป จมูกยาวขึ้นทำให้ดูหน้ายาวและเรียว ดูรับกับหน้าได้ดีเว่อร์ มีคำพูดนึงที่ฟังแล้วก็ขำดี เค้าว่า " แก้จมูกมารอบนี้ จากหน้าสาวภูธรกลายเป็นสาวในเมือง " ^ ^





อยากจะบอกว่าคุณหมอให้คำปรึกษาดีมากใจเย็นมาก แม้ว่าเราจะถามวนไป วนมา ซ้ำไปซ้ำมาแค่ไหนก็ตาม บางทีเราใจร้อน วิตกกังวลไปเองต่างๆนาๆ หมอก็แนะนำ และพูดมาคำนึงว่า "ไม่ต้องห่วง หมอจะดูแลให้ดีที่สุด" และหมอก็รักษาคำพูดตามนั้นจริงๆ ค่ะ อีกข้อที่ประทับใจคือหมอตรงไปตรงมา ไม่เอาแต่ผลประโยชน์หรือหวังจะเอาแต่เงินในกระเป๋าเราอย่างเดียว อะไรที่ไม่จำเป็นหมอก็แนะนำตรงๆ ว่าไม่ต้องทำ
ว่านอยากจะฝากข้อคิดสำหรับคนที่อยากจะทำ...ศัลยกรรมเดี๋ยวนี้ทำง่ายมากค่ะ หาที่ทำก็ง่าย ราคาถูกๆ ก็เยอะแยะ การแข่งขันกันสูงมาก จนคนไข้อย่างเราเลือกไม่ถูก เปิดดูจนตาลาย แต่ขอบอกเลยว่ารีวิวที่ว่าสำคัญแล้ว ไม่เท่ากับประสบการณ์จริงจากคนที่ทำหรอกค่ะ อะไรที่ว่าทำแล้วสวย เราไปมาหลายที่แล้วค่ะ ตั้งแต่ถูกยันแพง สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราคือบริการหลังการขาย ขนาดเราทำไปแล้วหลายปี หมอก็ยังยินดีต้อนรับและให้คำปรึกษาเราเต็มที่





ว่านภูมิใจทุกที เวลาที่มีคนมาถามว่าเราทำจมูกที่ไหน เค้าจะไปทำบ้าง บอกเลยว่าไม่เคยหวงค่ะ เพราะด้วยความที่เมื่อก่อนเราขี้เหร่มากๆมาก่อน เวลาถามคนสวยๆ ว่าเค้าทำอะไรที่ไหนสวยแล้วเค้าไม่ยอมบอกเรา แถมมองกลับแบบเหยียดๆ เราเข้าใจตรงนี้นะ...ถึงไม่เคยกั๊ก และชอบที่จะตอบคำถามนั่นๆ เพราะเราจะรู้สึกดีใจและยินดีกับเค้าเวลาที่เห็นคนนั้นเค้าทำออกมาสวย





การทำศัลยกรรมก็คงเหมือนการตกแต่ง ต่อเติมบ้านใหม่ หมอก็คงไม่ต่างจากช่าง เมื่อช่างตกแต่งบ้านเราเสร็จเค้าก็จากไป แต่คนที่ต้องมองดูบ้านทุกวันก็คือตัวเราเอง ถ้าสวยก็ดี ไม่สวยก็ต้องรื้อหรือแก้ใหม่ ขึ้นอยู่กับการให้ข้อมูลก่อนทำ ฝีมือช่าง และความรับผิดชอบหลังการขาย หรือที่เราเรียกกันว่า After service นั่นแหละค่ะ ได้ช่างดีก็ดี ถ้าช่างไม่ดีก็นอนมองมันทุกวัน แทบจะไม่ต่างกับการศัลยกรรมเลยจริงๆ






เฟซบุคของว่านค่ะ
Pornphan  Rujiseth

ขอบคุณค่ะ ^ ^