|
แพทย์เตือน!! คาร์บ็อกซี่ หลุมพรางของคนคลั่งผอม
ปัญหารูปร่างและส่วนเกินกลายเป็นปัญหากวนใจของคนที่อยากมีรูปร่างผอมเพรียว ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเทคโนโลยีขึ้นมากมาย เพื่อเอาใจกลุ่มคนเหล่านี้ เริ่มจากการดูดไขมัน การผ่าตัดไขมันส่วนเกิน ไปจนถึงการทำ คาร์บ็อกซี่ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม และเป็นกระแสที่กำลังมาแรง
นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม กล่าวถึงกระแสนิยมของคาร์บ็อกซี่ว่า ปัจจุบันมีผู้สนใจทำคาร์บ็อกซี่กันอย่างมากมาย เนื่องจากมีการโฆษณาชวนเชื่อว่าสามารถสลายไขมันและเซลลูไลท์เฉพาะส่วนได้ในระยะเวลาไม่นาน และขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แต่หารู้ไม่ว่าคาร์บ็อกซี่กำลังเป็นภัยเงียบที่คุกคามผู้บริโภค หากไม่ศึกษาถึงผลกระทบให้ดีก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ นอกจากนี้ รศ.นพ.นิยม ตันติคุณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำคาร์บ็อกซี่ว่า ปัจจุบัน เรารู้จักคาร์บ็อกซี่ว่าเป็นนวัตกรรมความงามเพื่อใช้ลดไขมันเฉพาะที่ด้วย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซที่ละลายน้ำได้ดี สลายตัวได้เร็ว และพบว่าเมื่อฉีดก๊าซนี้เข้าไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง จะช่วยเพิ่มการขยายตัวของเส้นเลือดและทำให้เซลล์ไขมันสลายตัวและถูกกำจัดออก ไป เป็นเทคนิคใหม่ในการขจัดเซลลูไลท์หรือลดไขมันส่วนเกินในบริเวณที่ไม่ต้องการ
?
"กรรมวิธีในการนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้นั้น ทำได้โดยแพทย์ จะใช้เข็มฉีดยาที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดเล็กมาก
สอดเข้าไปในชั้นไขมันใต้ผิวหนังแล้วปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปตาม ปริมาณที่เหมาะสม ขณะที่ก๊าซผ่านเข้าไปสู่ชั้นผิวนั้นจะรู้สึกอบอุ่นบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย เมื่อคลำผิวบริเวณที่ฉีดจะได้ยินเสียงเหมือนก๊าซอยู่ใต้ผิว ลักษณะอาการหลังจากฉีดเข้าไปในผิวหนัง อาจมีอาการปวดและรู้สึกตึง หรือบางรายอาจมีรอยช้ำเกิดขึ้นและจะหายไปได้เองในภายหลัง" คุณหมอนิยม อธิบาย ทั้งนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังยังกล่าวย้ำอีกว่า การทำคาร์ บ็อกซี่สามารถใช้ได้ผลในการสลายไขมันเฉพาะที่ ลดเฉพาะจุดแต่ไม่สามารถใช้ลดน้ำหนักได้ และการใช้ก๊าซคาร์บอนฉีดนั้นยังเป็นเพียงการทดลอง ซึ่งยังไม่มีผลรับรองออกมาอย่างเป็นทางการ ในส่วนความคงทนในการรักษาขึ้นอยู่กับการดูแลตนเอง เช่น การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการออกกำลังกายสม่ำเสมอ
กลุ่มเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงการฉีดคาร์บ็อกซี่ได้แก่ ผู้ ที่มีปัญหาระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเลือด โรคเบาหวาน สตรีมีครรภ์ หรือผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ ดังนั้นก่อนปล่อยก๊าซเข้าไป แพทย์จึงต้องมั่นใจว่าก๊าซจะไม่ผ่านเข้าไปในเส้นเลือด เว็บมาสเตอร์ขอฝาก---> สำหรับคุณสาวๆ ที่อยากมีหุ่นดีผอมเพรียว แนะนำว่าเรามาออกกำลังกายกัน ดีกว่าค่ะ เพราะหากใครเลือกใช้วิธี ทางลัดทางด่วนอย่างเช่น คาร์บอกซี่ ทำไปแล้วก็อาจจะทำให้กลับไปอ้วนได้อีก และอาจได้เจ็บตัว(โคตร)เป็นของแถมอีกด้วยนะคะ แม้ว่าการออกกำลังกายจะต้องใช้ระยะเวลาสักหน่อย แต่ผลที่ได้กลับมารับรองว่า คุณจะหุ่นดีแบบถาวรทีเดียวค่ะ...คุณสาวๆ :)
?
ที่มา http://women.sanook.com
อ้างอิงเว็บไซต์จาก http://www.siliconeclub.com
|
|