รู้ตัวอีกทีก็อยู่คลินิกแล้ว วันนี้มาปรึกษากับหมออาร์ม คลินิกอะไรคนเยอะเว่อร์ รอจนเมื่อยเลย
วันปรึกษาเราไปก่อนเวลานัดตั้งครึ่งชั่วโมง แต่ที่คลินิกคนเยอะเว่อร์ เวลานัดเลยเลื่อนไปเรื่อยๆๆๆ พนักงานก็มาขอโทษขอโพด เราเลยได้แต่ยิ้มสวยใส่ แต่ในใจเรา เมื่อไหร่จะถึงคิวว้า 555555 สิริรวมเวลาในการนั่งรอไป 2 ชั่วโมงได้ ดีที่มีน้ำมีขนมให้นั่งกินรอ อยากสวยต้องอดทน 555555
มุมขนม เรานั่งกินจนอิ่มเลย 555555
ในที่สุดก็จะได้เจอหมอซักที (นี่จะมาทำตา หรือจะมาแอ้วหมอ555555) หมอตัวจริงน่ารักค่ะ คุยดี มีความตั้งใจมากค่ะ (ตอนแรกกลัวหมอหล่อแล้วจะแบด แต่ที่ไหนได้ น่ารักมาก)ตอนประเมิน หมอจะถามความต้องการของเราก่อน อย่างเราชอบตาสองชั้นที่มันไม่หนามาก แต่อยากให้ตาดูโตขึ้น สดใสขึ้น หมอก็จะเอาเครื่องมือวัดทำชั้นตาให้เราดู ว่าชอบแบบไหนประมาณไหนคุยเสร็จหมอสรุปว่าจะทำตาให้เราแบบแผลเล็กค่ะเป็นการกรีดสั้นไม่มีการตัดหนังตาออกเพราะหนังตาไม่เยอะ แต่จะเอาไขมันที่เปลือกตาออกเพราะตาเราตุ่ย ถ้าไม่เอาออกชั้นตาจะตกเร็ว แล้วดูไม่ชัด แล้วคุณหมอแนะนำให้ทำชั้นตาหนาขึ้นมานิดนึง เพื่อให้เข้ากับใบหน้าของเรา ทำออกมาแล้วพอแต่งตาหน้าจะดูเฉี่ยวสวย ถึงไม่กรีดอายไลน์เนอร์ก็ยังดูเป็นธรรมชาติเพราะไม่หนาจนเกินไป คุณหมอให้คำแนะนำค่อนข้างชัดเจน เป็นที่ปรึกษาความงามได้ดีมากค่ะ
คุยจบแต่เรื่องยังไม่จบ เราออกมานั่งคิด นั่งตัดสินใจอีกรอบว่าจะทำดีไหม แต่โดยรวมเราชอบนะ บรรยากาศดี เดินทางก็ง่าย หมอก็น่ารัก แนะนำดี๊ดี(ข้อนี้สำคัญ 555555) ติดแค่เรื่องคนเยอะ ซึ่งเราไม่คอยมีปัญหากับเรื่องนี้ ก็เลยตัดสินใจทำตาสองชั้นกับหมออาร์มค่ะ
ช่วงนั้นก็จะเที่ยวแนวนี้ซะส่วนใหญ่ เบาๆ ชิวๆ รักสุขภาพ
ระหว่างนั้นเราก็ตระเวนทำบุญเก้าวัด เห้ย ไม่ใช่! เราก็ดูแลตัวเองตามที่คลินิกแนะนำค่ะ ที่จริงตลอด 2 อาทิตย์ที่เฝ้าลุ้นว่าเมื่อไหร่จะถึงวันทำตาสองชั้นซะที เราก็แทบจะถือศีล 5 เลยค่ะ เหล้าเบียร์ไม่ยุ่ง มุ่งดูแลสุขภาพให้พร้อม เพื่อนชวนไปสังสรรค์ที่ไหน เราเทยับเลย 555555
หลังจากผ่าน 2 อาทิตย์หรรษาไป ในที่สุดก็ถึงเวลาซักที ถึงจะเฝ้ารออยากทำตาสองชั้นมาตลอด แต่พอถึงเวลาจริงก็ตื่นเต้นมากเลยค่ะ ไปถึงคลินิกเราตื่นเต้นจนมือเย็นเลยแต่ใจดีสู้เสือค่ะไหนๆ ก็ตัดสินใจจะทำแล้วก็จะสู้ให้ถึงที่สุดจ้า ที่จริงก็มีพนักงานมาให้กำลังใจเราอยู่ค่ะ เลยรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
ระหว่างทำไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่พี่สาวคนสวยเราบอกจริงๆ คือตอนทำเราก็นอนหลับตาตลอด คือคนกลัวเลือดกลัวเข็มไม่ต้องกลัวค่ะ เพราะเรามองไม่เห็น 555555 (อาจมีหวาดเสียวตอนฉีดยาบ้าง เพราะหมอจะบอกก่อนว่าจะฉีดยาชา) ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จค่ะ เราดูเวลาสิริรวมตั้งแต่เข้าห้องยันออกจากห้องก็ประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ ออกมาจากห้องผ่าตัด พยาบาลก็พาไปนอนประคบเย็นที่ห้องพักฟื้นเพื่อลดอาการบวม เรานอนประมาณ 15 นาทีให้ตาพอหายตึงบ้าง ก็กลับบ้านค่ะ
หลังทำเสร็จใหม่ๆ เรานอนพักที่ห้องพักฟื้น เลยถ่ายรูปเก็บไว้ค่ะ
กลับมาถึงบ้าน รื้อถุงยาออกมาดูได้ยามาอยู่ 4-5 ชุด ส่วนใหญ่จะเป็นยาลดบวมและแก้อักเสบ แล้วก็มีครีมทาตาเพื่อกันแผลติดเชื้อด้วยค่ะ เรากินยาตามที่หมอบอก แบบเคร่งครัด เพราะกลัวแผลจะติดเชื้อ (เรากลัวมาก กลัวตาพัง) กินข้าวเสร็จ กินยา ทำความสะอาดตา แล้วก็ประคบเย็น ทำวนไป จนตัดไหมเลยค่ะ เราถ่ายรูปตาเก็บไว้ แล้วเห็นได้ชัดเลยค่ะ ว่าแผลหายไวมาก อาจจะเพราะเราทำแผลเล็กด้วยเลยหายเร็ว
แผลที่ตาหายเร็วมากจริงๆ
วันที่ 3 ก็แต่งหน้าเบาๆ ได้แล้วค่ะ แต่เว้นช่วงตาไว้หน่อย
7 วันผ่านไป ตายุบจากวันแรกเร็วมากค่ะ
ช่วงอาทิตย์แรกสำหรับเรา คือไม่มีอะไรเลยค่ะ เห็นของบางคนจะมีรู้สึกเจ็บบ้างที่ตา แต่ของเราไม่มีเลย มีแต่อาการบวม ซึ่งพอเรากินยา และประคบเย็นก็รู้สึกว่าช่วยได้เยอะเลยค่ะ ตอนที่ไปตัดไหม ก็ได้คุยกับหมออีกครั้งหมอชมว่าเราดูแลแผลดี ไม่ติดเชื้อ ไม่ค่อยบวมแล้ว ซัก 1 เดือนก็น่าจะเข้าที่แล้วแหละ ระหว่างนี้ก็ให้เราประคบอุ่นแทน อีก 1-2 อาทิตย์ แล้วครบ 1 เดือนก็มาเจอหมออีกรอบ