ดู: 1693|ตอบกลับ: 7
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

เอามาฝาก...การเลือกศัลยแพทย์...

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขล่าสุดโดย มณี เมื่อ 2010-6-8 20:43

ไม่แน่ใจว่ามีคนเอามาฝากหรือยัง  เรากำลังเก็บข้อมูล ก็อ่านไปเรื่อย ๆ พอดีเจอตรงนี้ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังจะเลือกหมอ  ลองอ่านดูนะค่ะ  น่าคิดตามทีเดียว  รู้ไว้ ใช่ว่า...

เป็นบทความของนายแพทย์จุฑา จันทร์ศรี บทความค่อนข้างยาว เราคัดลอกเอามาแค่นี้นะค่ะ ใครอยากอ่านแบบเต็ม ๆ ก็ตามลิงค์ค่ะ


ควรเลือกศัลยแพทย์อย่างไร


      การผ่าตัดเป็นผลรวมของความใส่ใจของศัลยแพทย์ในหลายๆด้าน ตั้งแต่แรกพบ ผ่าตัด แนะนำระหว่างการพักฟื้น รับฟังปัญหาที่สงสัย คลายความกังวลระหว่างที่ยังไม่หายสนิท และทุกๆอย่างจนจบการรักษา ดังนั้น พอมองออกหรือยังครับ ว่าศัลยแพทย์ที่เราควรเลือกจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ...ลองดู ดังต่อไปนี้

      1. ให้คำปรึกษาแบบรอบด้าน สามารถเข้าใจปัญหาของเราได้ตรงกับที่เราคิด วิเคราะห์ต้นเหตุและแนะนำแนวทางแก้ไขได้แบบมีเหตุผล แจ่มแจ้ง และให้ทางเลือกแก่เรา ยิ่งมีทางเลือกให้เรามาก ยิ่งแสดงถึงภูมิความรอบรู้ สามารถบอกได้ถึงข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธี เพราะศัลยแพทย์ที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์จะรู้แต่วิธีผ่าตัดในแต่ละปัญหา แต่จะไม่ค่อยรู้ข้อด้อยของวิธีนั้นๆ เช่น อยากทำตาสองชั้นก็ทำ พอไม่สวยเพราะหางตายังตก ก็ให้ดึงคิ้วต่อ อยากหายตกด้วยต้องดึงเพิ่ม เรียกว่าเจอปัญหา ค่อยแก้ทีละอย่าง

      2. รอบรู้ในเทคนิคหลายแบบ การรู้หลายๆเทคนิคย่อมหมายถึงประสบการณ์ที่หลากหลาย สามารถหลอมรวมสื่งที่ดีที่สุด กลั่นกรองมาใช้ในการผ่าตัด เพื่อผลที่ดีที่สุด เช่น ในการตัดมุมกราม ศัลยแพทย์บางท่านผ่าตัดด้านนอกอย่างเดียว ไม่ผ่าตัดด้านใน หรือสามารถการผ่าตัดด้านใน แต่ไม่รู้ว่าทำอย่างไรจึงจะเรียวแบบเนียนๆไม่สะดุดเหลี่ยม และเรียวในท่ามองตรงด้วย ซึ่งทำให้เราเสียโอกาส ...แต่จะมีสักกี่คนที่จะบอกในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ หรือทำได้ แต่ไม่ดี

      3. ให้เวลาเราตามสมควร เมื่อศัลยแพทย์ให้เวลาเราเล่าปัญหา และตั้งใจรับฟัง ก็จะมีเวลาคิดสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อเรา รวมทั้งมีเวลาให้เราเข้าใจในแผนการผ่าตัด ทำให้เราสามารถดูแลตัวเองได้ถูกหลัก มีโอกาสที่จะลดผลแทรกซ้อน และได้ผลดีเท่าที่จะดีได้ ...ถ้าเจอศัลยแพทย์ที่ตรวจเรารีบๆ ลวกๆ ก็เตรียมเผ่นดีกว่าครับ

      4. มีดีไซน์ ถ้าศัลยแพทย์สามารถเลือกวิธีผ่าตัดที่สามารถตอบปัญหาเราได้ทุกข้อ สามารถคาดคะเนได้ว่าจะได้ผลตรงกับที่เราต้องการ ก็แสดงว่ามีความรู้ความสามารถที่แท้จริง แต่มีข้อแม้ว่า ทำได้อย่างที่พูดด้วย...ไม่ได้โม้

      5. คุณวุฒิ เป็นองค์ประกอบพื้นฐานเฉยๆ ไม่ได้การันตีผลการผ่าตัดใดๆทั้งสิ้น เนื่องจากในฝูงแกะขาว ย่อมจะมีแกะดำทั้งสิ้น แต่จะมีความหมายว่า ถ้ามีปัญหาศัลยแพทย์ท่านนั้นจะมีความรู้ที่จะแก้ปัญหาให้เราได้แค่ไหน เช่น ถ้าเรามีปัญหาท้องหย่อน ท้องลาย และไปปรึกษาแพทย์แผนกผิวหนัง และแพทย์ท่านนั้นก็แนะนำให้ดูดไขมันหน้าท้อง พร้อมบอกว่าจะใช้เครื่องมืออัลตราซาวด์กระตุ้นผิวให้เต่งตึง ไม่หย่อนยาน พร้อมกันไปด้วย ฟังดู ก็มีเหตุผลดีนะ แต่พอ ดูดไขมันหน้าท้อง ถ้าความหย่อนยังไม่หายไป หรือซ้ำหนักกว่าเดิม จะทำอย่างไร อายุรแพทย์ผิวหนังย่อมไม่สามารถผ่าตัดกระชับหน้าท้องได้ นั่นก็คือ สิ่งที่เราควรรู้ ก็คือ ศัลยแพทย์ที่เราจะเลือกเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านใด ซึ่งในวงการศัลยกรรมความงาม ก็มีหลายสาขาที่ทำการผ่าตัดอยู่เช่น ศัลยแพทย์ตกแต่ง, ศัลยแพทย์ทั่วไป, ศัลยแพทย์หู คอ จมูก, จักษุแพทย์,อายุรแพทย์ด้านผิวหนัง,เป็นต้น รวมทั้งที่ไม่จบอะไรเลย แต่ไปดูโน่นนิด นี่หน่อย แล้วมาหัดเอาจากคนไข้

      คำถามสำหรับเราก็คือ ถ้าคุณวุฒิของศัลยแพทย์ที่คิดจะเลือก ไม่สามารถอ้างอิงได้ คือไม่เข้าเกณฑ์นั่นแหละ แต่เรามีความเชื่อมั่นและศรัทธา จะโดยเพื่อน หรืออะไรก็แล้วแต่ จะเลือกอยู่มั้ย
      ...ก็คงให้พิจารณาเอง เช่น ระหว่างศัลยแพทย์ที่เรียนรู้แบบครูพักลักจำ มีประสบการณ์ยี่สิบปี กับศัลยแพทย์ตกแต่ง ที่จบจากสถาบันที่มีชื่อเสียงมาสองปี ...เลือกยากนะ เอาข้ออื่นมาช่วยเถอะครับ

คะแนน

2

ดูบันทึกคะแนน

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-6-8 20:42:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ต่อนะค่ะ ...ข้อสุดท้าย

6. มีความประณีตในการผ่าตัด ถึงแม้เราจะไม่เห็นศัลยแพทย์ว่าผ่าตัดเราอย่างไร แต่เราจะพอสังเกตุโดยอ้อมได้ โดยคร่าวๆ เช่น เสร็จเร็ว อาจไม่ได้แปลว่าเก่ง อาจจะชุ่ยหรือไม่ประณีต,เสร็จช้า อาจมีปัญหาระหว่างผ่าตัด,บวมช้ำมาก อาจแปลว่า เพิ่งหัดทำ หรือมีประสบการณ์น้อย ,รอยเย็บยู่ยี่ เป็นก้อนๆ มัดๆ ไม่เรียบร้อย แปลว่าไม่ใส่ใจในวิธีผ่าตัด สักแต่ว่าทำให้เสร็จๆ ไป หรืออื่นๆ แต่ต้องอ้างอิงถึงค่าเฉลี่ยทั่วๆ ไปด้วยนะครับ ว่ามาตรฐานทั่วไปเป็นอย่างไร จะให้ดี ควรเทียบกับมาตรฐานโลก เช่นในอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี จะได้ความแน่นอนกว่า เพราะให้ความสำคัญกับผลงานมากกว่าเวลา และศัลยแพทย์ของไทยเราที่ไม่อยากผ่าตัดนานๆ ก็มีอยู่ไม่น้อย อาจจะด้วยหลายๆเหตุผล เช่น ไม่อึด, ทำนานจะเปลืองและไม่คุ้มค่าแรง, โรงพยาบาลบีบเพราะผ่าตัดนานจะเพิ่มค่าใช้จ่ายที่เหมามา, สุขภาพไม่ดี, ขี้เกียจ, ไม่รู้จะทำมากกว่านี้ได้ไง เพราะรู้แค่นี้, เสร็จเร็ว ก็กำไรมากขึ้น,จะรีบไปทำคนไข้รายที่รออยู่ต่อไป, สุดท้าย ก็คือเหตุผลง่ายๆ ที่ทำเสร็จในเวลาไม่นาน และได้ผลไม่ดี ก็คือ...ชุ่ย

ลิงค์ค่ะ
http://jutasurgery.com/smf/index.php?topic=23.0

คะแนน

2

ดูบันทึกคะแนน

ตามไปอ่านต่อละครับ ขอบคุณมากๆ สำหรับกระทู้ และข้อมูลดีๆแบบนี้ครับ
ขอบคุณค่ะสำหรับบทความดีๆ
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-6-10 23:28:32 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ 3# ashii


   ดีใจที่ข้อมูลเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ค่ะ
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-6-10 23:28:57 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ 4# nu_kik1024


    ด้วยความยินดีค่ะ
อยากทำ มังจังแต่กลัวเจ็บอะ
เข้ามาดันให้นะครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้