ดู: 3172|ตอบกลับ: 14
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[อื่นๆ] ไบโอทำร้ายชีวิตเรา

[คัดลอกลิงก์]
“ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”  ตรงกับความรู้สึกของเราที่สุด ตั้งแต่ได้รับการฉีดสาร Bio เข้าไปในใบหน้า เป็นเวลา 14 ปีแล้วที่สาร Bio อยู่บนใบหน้าของเรา Bio ไม่ได้แค่สร้างความเสียหายบนใบหน้าเท่านั้น ยังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต และสูญเสียโอกาสที่ดีอีกหลายอย่างอีกด้วย
ด้วยการตลาดและประชาสัมพันธ์เกินจริง ทั้งทางนิตยสารที่มียอดขายสูงอันดับต้น ๆ และสื่อโทรทัศน์ที่มีพิธีกรชื่อดังเป็นผู้ดำเนินรายการ  อีกทั้งนายแพทย์ท่านนั้นได้ออกมารับรองว่าการฉีดสาร Bio มีความปลอดภัยและสามารถเอาออกได้ตลอดเวลา ถ้าผู้ทำศัลยกรรมไม่พึงประสงค์ ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับแม่ของเราได้เป็นอย่างมาก
ปี 2546 เราได้ไปที่คลินิกแห่งนั้น (ย่านดอนเมือง) จากคำชักชวนของแม่ ครั้งแรกที่ได้เห็นสถานประกอบการแห่งนั้นดูโอ่อ่าน่าเชื่อถือ มีทั้งแพทย์ ใบประกอบโรคศิลป์ และคนไข้จำนวนมากรอปรึกษาการทำศัลยกรรมอยู่ เราจึงหมดข้อสงสัย
แม่ต้องการแคให้เราไปเติมแก้ม พอได้คุยกับหมอ หมอก็ให้แนะนำว่าควรจะเติมหน้าผาก และขมับเพื่อให้มัน Balance กัน และเห็นว่าเราเสริมจมูก และคางมาแล้ว ก็โน้มน้าวให้เราเอาออกและเปลี่ยนเป็นการฉีด Bio แทน
ซึ่งในตอนนั้นเราเองก็พอใจกับจมูกและคางที่ทำมาอยู่แล้ว แต่ในที่สุดเราก็ตัดสินใจเอาออก แม่เราก็ฉีด
Bio ที่แก้ม ส่วนน้องสาวเราก็เอาซิลิโคนแท่งออกและฉีดสาร Bio เข้าไปแทน
หลังจากที่ฉีดสาร Bio มาแล้ว  แก้มทั้งสองข้างของเราใหญ่และไม่เท่ากัน หน้าผากก็ดูนูนบวมไม่เสมอกัน ส่วนจมูกก็อ้วน คางยื่นแหลม  เรากลับไปพบหมอเพื่อขอให้เอาสาร Bio ออกให้ (ตามที่หมอเคยบอกไว้ว่าสามารถเอาออกได้) หมอได้ฉีดยาให้เราบอกว่าที่นูนใหญ่มันจะทำให้เล็กลง แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราจำใจต้องกลับไปที่นั่นอีก 2 ครั้ง ยังคงไม่มีอะไรคืบหน้า  เลยจำเป็นต้องยุติ ขืนยื้อต่อไปก็มีแต่เสียเวลา เราไม่อยากกลับไปที่คลินิกนั่นอีก “เราไม่อยากเห็น คนที่ทำร้ายเรา”
เราเดินหน้าต่อ   ด้วยการไปหาหมอศัลยกรรมย่านพระราม 2 เพื่อขอคำปรึกษาแก้ไข   เมื่อได้พบคุณหมอ หมอบอกว่า “ผมไม่รู้ว่าสารนี้คืออะไร” และปฏิเสธการรักษา  ได้ยินคำนี้  เราถึงกับเข่าอ่อนเลย แต่ก็จริงของหมอ สาร Bio เพิ่งมีในเมืองไทยไม่นานมานี่เอง
เมื่อมาถึงวันนี้แล้วมองย้อนกลับไป  เราต้องขอขอบคุณหมอมาก   แม้ว่าคุณหมอไม่อาจช่วยเหลือเราได้ในตอนนั้น แต่ก็ถือว่าหมอได้ช่วยเราแล้ว ด้วยการปฏิเสธการรับรักษาให้เราด้วยความที่ไม่รู้ ยิ่งจะเป็นการซ้ำเติมและทำร้ายเราซ้ำ
สิ่งที่เราต้องทำ คือ พยายามทำใจ ไม่ดิ้นรนไขว่คว้าอะไรอีก มันจะกลายเป็นการทำร้ายตัวเองมากไปกว่านี้

เราได้แต่หวังว่าวันข้างหน้าต้องมีเทคโนโลยี นวัตกรรม และหมอที่มีความรู้ความชำนาญ มีจรรณยาบรรณที่ดี มาช่วยแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้
ความมั่นใจในตัวเองได้หายไปหมด   เจอญาติพี่น้อง  คนคุ้นเคยทักเราถามเรา   เกี่ยวกับความผิดปกติบนใบหน้า  มันเหมือนกับเอามีดกรีดซ้ำลงไปอีก เรากลายเป็นคนที่อารมณ์เหวี่ยงสำหรับคนในบ้าน (คุณภาพชีวิตเราแย่มาก ๆ)
……………………………………
จนกระทั่งถึงปี 2554 อาการที่ใบหน้าเริ่มชัดมากขึ้น  เริ่มเห็นว่าเป็นก้อนแข็งบริเวณขมับ หน้าผาก   และแก้ม มีสีเขียวคล้ำ (เหมือนไม่มีเลือดไปเลี้ยง) มีสิวขึ้นรอบ ๆ ก้อนที่ฉีด Bio ในบางครั้งมีอาการคัน ระคาย และเจ็บ ๆ ตึง ๆ (คงเป็นการรั้งของผังผืด)  ที่จมูกก็เบี้ยวเอียง รั้งเห็นรูจมูกชัดเจน ตรงกลางดั้งมีตุ่มแดง ๆ  ที่คางเขียวคล้ำ เป็นตะปุ่มตะป่ำ มีตุ่มปูด ๆ แดง ๆ ด้วย เวลาไปกระทบกับอะไรจะเจ็บ
ปลายปี 2559 เราเริ่มกลับมาหาข้อมูล ทำการบ้าน โดย search หาจาก Internet และก็ได้ List ไว้
ต้นปี 2560 เราจึงได้เริ่มออกไปหาข้อมูลด้วยตัวเองอีกครั้ง
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-4-12 21:30:39 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
“หากันจนเจอ 1”
ครั้งแรก : ที่คลินิกย่านลาดพร้าว (คนไข้ทยอยกันมาเรื่อยๆ )  ขณะที่นั่งรอพบคุณหมอ  เราได้ยิน จนท.ที่เคานเตอร์คุยกับคนไข้ท่านนึงว่า ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาลูกค้าเยอะมาก  คุณหมอผ่าตัดจนถึง 6 โมงเช้า   เราเริ่มเอะใจ และเมื่อได้คุยกับคุณหมอผู้ทำการผ่าตัดรักษา  คุณหมอแจ้งว่า Case ของเราต้องทำการผ่าตัดรักษา 2 ครั้ง คือ
1.ผ่าตัดหน้าผาก กับจมูก  ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชม.
2.ผ่าตัดคาง ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.กว่า ๆ
ส่วนแก้มไม่สามารถทำการผ่าตัดรักษาได้     เพราะเกี่ยวกับเส้นประสาท        ค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นประมาณ 2xx,xxx บาท จากนั้นหมอก็ให้เราไปลงเวลาจองคิวไว้เลย
โอว! แม่เจ้า เมื่อออกมาจากห้องหมอ แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย คนไข้ที่รอรับการตรวจปรึกษามากันอย่างมึดฟ้ามัวดิน
สุขภาพก็เป็นสิ่งสำคัญ  ด้วยปริมาณคนไข้และจำนวน Case ที่ต้องผ่าตัดต่อวัน เราอดเป็นห่วงแทนหมอไม่ได้จริง ๆ เราจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่เคานเตอร์อย่างเกรงใจ ว่าเรายังไม่สะดวกเรื่องเวลา

ครั้งที่สอง : คลีนิกย่านท่าดินแดง ส่วนตัวให้น้ำหนักที่นี่มากเป็นพิเศษ จากข้อมูลที่ได้มีทั้งดารานักแสดงไปใช้บริการกันเป็นพิเศษ เมื่อเข้าไปถึงกรอกประวัติ พนง.ที่เคานเตอร์ พาไปพบคุณผู้หญิงที่ใส่เสื้อกราวด์ท่านนึง เมื่อเล่าปัญหาของเราแล้ว คุณผู้หญิงท่านนี้ก็แนะนำให้ทำการดึงหน้าที่เป็นวิธีการเฉพาะ   เพื่อจะได้ไม่เห็นก้อนที่แก้มและที่ขมับ ส่วนจมูกและคางรื้อเอา Bio ออกและเสริมแท่งเข้าไป  แต่ทั้งนี้คุณก็บออกว่า สาร Bio   ไม่สามารถเอาออกได้หมด เผอิญช่วงนั้นคุณหมอใหญ่ที่เราต้องการพบผ่านมาพอดี ได้คุยกับคุณหมอครู่นึ่ง  คุณหมอก็บอกว่าจมูกกับคางแก้ไขได้ แต่ก็ไม่ได้พูดถึงหน้าผากและแก้ม จากนั้นคุณผู้หญิงท่านนั้น   ก็แนะนำว่าควรฉีดยาไปสักระยะหนึ่งก่อนเข้ารับการผ่าตัด ให้ก้อนตะปุ่มตะป่ำนั้นเล็กและอ่อนตัวลง       เพื่อให้การผ่าตัดสะดวกขึ้น โดยฉีดยาเดือนละ 1 เข็ม ราคา 5,000 บาท แล้วประเมินเป็นระยะ          ๆ  ว่าสมควรเข้ารับการผ่าตัดได้หรือยัง (Case ของเรา คาดว่าใช้เวลาราว 3 เดือน)  เราจึงตัดสินใจฉีดยาไป 1 เข็ม
เมื่อกลับมาถึงบ้านเรายังคงมีคำถามค้างอยู่ในหัว  จึงปรึกษากับน้องสาว     เราได้โทรไปนัดและขอพบคุณหมอใหญ่ท่านนั้น ถึงวันนัดเราไปกับน้องสาว ก็พบคุณผู้หญิงท่านนั้นอีก   (รู้สึกผิดหวังอย่างแรง)         เมื่อเราซักถามถึงวิธีการเอาสาร Bio ออกจากแก้มได้บางส่วนแล้วดึงหน้าขึ้น      ในระยะต่อไปถ้ากล้ามเนื้อที่ใบหน้าต้องหย่อนคล้อยไปตามเวลา ก้อนนั้นจะกลับมานูนชัดอีกมั้ย  ให้ช่วยประเมินผลที่จะตามมาในวันข้างหน้าด้วย คุณผู้หญิงท่านนั้นเริ่มหงุดหงิด และตัดบท ไว้มาคุยกันใหม่ จะมาอีกกี่รอบก็ได้?   ไม่ต้องแล้วหรือ ไม่มีเหตุผลใดที่จะกลับไปอีก คำตอบไม่มีให้ คุณหมอใหญ่ก็ไม่ได้พบ จบข่าว
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-4-19 21:59:24 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
“หากันจนเจอ 2”
ครั้งที่สาม : คลีนิกย่านจตุจักร นัดเวลาได้แล้ว เมื่อไปถึงกรอกประวัติเป็นที่เรียบร้อย     แต่กว่าจะได้พบคุณหมอ ก็รออยู่กว่า 2 ชม.  บรรยากาศที่นี่คึกคักไม่แพ้กับที่ลาดพร้าว พนักงานได้เรียกเราเข้าไปถ่ายรูปใบหน้าในมุมต่างๆ  ก่อนเข้ารับการปรึกษา เมื่อพบคุณหมอ    คุณหมอท่านนั้นก็ได้บรรยายถึงความพิเศษของอุปกรณ์ที่ท่านได้ออกแบบมาเพื่อการทำศัลยกรรมจมูกโดยเฉพาะเป็นนวัตกรรม บลา บลา บลา หมอคะ!หนูรอหมอตั้ง 2 ชม. เพื่อฟังในสิ่งที่หมออยากจะพูด แต่หมอไม่ได้ใส่ใจที่จะฟังในสิ่งที่หนูอยากจะบอก  ในที่สุดหมอบอกว่า คงแก้ไขได้เฉพาะจมูกในเบี้องต้น ส่วนอื่น ๆหมอไม่ได้พูดถึง หมอบอกเราอย่างมั่นใจด้วยว่า  จะลองไปแก้ไขที่อื่นก่อนก็ได้ แต่สุดท้ายยังไงก็ต้องกลับมาแก้ที่หมอ
ขณะที่หมอมั่นใจ แต่เราไม่นะ....สำหรับเราที่นี่ยังไม่ใช่คำตอบ
ครั้งที่สี่ : แจ้งวัฒนะ  จากข้อมูลที่ได้ คือ รับแก้ไขศัลยกรรมจากการฉีดสาร Bio และอื่น ๆ  แก้ไขได้เกือบทั้งหมดของใบหน้า ทีสำคัญคุณหมอจะใช้เวลาในการผ่าตัดแก้ไขราว ๆ 5-7 ชม ต่อ Case
(เป็น Post จากผู้ที่เข้าทำการผ่าตัดแก้ไขเองโดยตรง) เราประเมินแล้วว่าถ้าเป็นอย่างนี้หมอก็รับคนไข้ได้เพียงวันละ 1 Case เท่านั้น ไม่ใช่ธุรกิจอุตสาหกรรมศัลยกรรมซึ่ง Focus ที่ Bottom  Line นี่แหละ “จรรยาบรรณวิชาชีพ”  ที่เราต้องการจากผู้ที่เป็นแพทย์
ที่นี่ไม่มีการทำการตลาดผ่านสื่อ ไม่มีการโน้มน้าวชักจูงด้วยการลด แลก แจกแถม เพียงแค่แจ้งราคาเริ่มต้นในการแก้ไขแต่ละรายการและรับนัดจัดคิวเท่านั้น  เมื่อนัดเวลาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เข้าไปที่คลินิก พนง.จะนำเอกสารปึกใหญ่มาให้อ่าน เกี่ยวกับปัญหาจากการทำศัลยกรรม ที่ใช้สารฉีด ทั้งซิลิโคน  Filler และ Bio เราอ่านทำความเข้าใจแล้ว พร้อมกับกรอกข้อมูลส่วนตัวและแบบสอบถามอีกนิดหน่อย ยอมรับว่าหายใจไม่ทั่วท้องเลย (ทุกครั้งที่เห็นใบหน้าตัวเองในกระจก ก็เครียดพออยู่แล้ว) เมื่อรู้ว่าสารแปลกปลอมเหล่านี้ส่งผลออย่างไร การทำการรักษา และผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่เป็นไปตามที่เราคาด
แต่การไม่เสี่ยงก็คือเสี่ยงกว่า เมื่อเข้าไปพบคุณเฟียต (ภรรยาคุณหมอ) ที่นี่คุณจะได้ยินในสิ่งที่คุณไม่อยากได้ยิน (โดยทั่วไปเราย่อมต้องการได้ยินในสิ่งที่ถูกอารมณ์ ในแง่มุมที่สวยงามเสมอ) แต่นี่คือ Fact เราต้องยอมรับว่าเราคือคนป่วย มีความผิดปกติจากสิ่งแปลกปลอมที่อยู่บนใบหน้า  คุณเฟียตได้แจ้งให้ทราบว่าเรามีความเสียหายมาระดับไหนแล้ว การแก้ไขเราอาจจะไม่ได้รับการเสริมด้วยแท่ง และยังต้องลุ้นอีกว่าหนังที่บริเวณจมูกจะขาดมั้ย สารBio คุณหมอจะเอาออกให้มากที่สุด 95% ส่วนบริเวณอื่นที่เสียหายคงต้องว่ากันเป็น Step ไป คุณเฟียตยังให้ดูภาพการผ่าตัดแก้ไขในหลาย ๆ Case ไม่ว่าจะเป็นจมูก คาง หน้าผาก หลังจากพูดคุยอธิบายจนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว คุณเฟียตจบการสนทนาด้วยประโยคที่ว่า คุณจะทำกับเราหรือไม่ก็ได้นะ?  อ้าว จบดื้อ ๆ แบบนี้เหรอ คุยกันมาเกือบ 3 ชม. จะมาผลักไสกันได้ไง   คุณเฟียต คุณอาจจะไม่แคร์สื่อ ไม่แคร์เรา แต่เราไม่ยอมง่ายๆ  หรอกนะ   เราสวนกลับไปอย่างไม่ต้องลังเลว่า “ทำค่ะ”  จึงได้มีการซักประวัติอื่น ๆ  เพิ่มเติมทั้งโรคประจำตัวและยาที่กินประจำ
เราเป็นโรคธัยรอยด์เป็นพิษ  กลืนน้ำแร่และกลายเป็นไฮโปธัยรอยด์ รักษาด้วยการกินยา คุณเฟียตให้เรากลับไปหาหมอธัยรอยด์เพื่อเอาผลเลือดและใบรับรองแพทย์มายืนยันว่าเรามีความพร้อมที่จะทำการผ่าตัดรักษา
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-4-22 23:21:37 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
“เตรียมตัวลงสนาม”
11/2/2560 เรากลับไปพบคุณเฟียต และได้คุยกับคุณหมออรรถพันธ์เป็นครั้งแรก พร้อมกับผลการตรวจรักษาธัยรอยด์ล่าสุด คุณหมอวัดชีพจรและความดัน (ถือว่าอยู่ในเกณฑ์) ครั้งนี้มีการซักประวัติการทำศัลยกรรมของเราอย่างละเอียด เพื่อปรับทัศนคติ “ให้เข้าใจตรงกันนะ เราไม่ใช่ลูกค้า เราคือคนป่วย” แต่หมอจะรักษาคุณอย่างดีที่สุด กำลังใจเรากลับมาเป็นกอง (เนื่องจากเรามีปัญหา จึงไม่กล้าคาดหวังสูง ให้เป็นการกดดันตัวเอง  แต่ถ้าผลลัพธ์ออกมาดีเกินคาด ก็ถือว่าเราถูกแจ๊คพอต) คุณหมอถามเราว่ายังมีข้อสงสัยอะไรอีกมั้ย เราหมดข้อกังขาใด ๆแล้ว จากนั้นได้ลงลายมือชื่อในเอกสารก่อนรับการผ่าตัด นัดวันทำการผ่าตัดวางมัดจำ คุณหมอจัดยาให้กินล่วงหน้าก่อนผ่าตัด 1 วันมาเลย   และเราต้องวัดชีพจรความดันรายงานคุณเฟียตทุกสัปดาห์ จนกว่าจะถึงวันผ่าตัด
ที่ณพลักษณ์คลินิก ทุกชีวิตมีคุณค่า  อาทิตย์แรกที่เราส่งชีพจรความดัน คุณหมอไลน์กลับมาหาเราตอนเที่ยงคืนว่า จากค่าที่วัดได้ให้เราปรับยาธัยรอยด์ลงเล็กน้อย แนะนำเรื่องออกกำลังกาย ซึ่งเราก็มีออกกำลังกายอยู่บ้างแล้ว แต่เราต้องทำให้สม่ำเสมอขึ้น คุณหมอขอให้เราส่งรายงานชีพจรความดันเป็นวันเว้นวัน
สองอาทิตย์ก่อนผ่าตัดเราเป็นหวัดและมีน้ำมูก ไลน์ปรีกษาคุณเฟียต คุณเฟียตแนะนำให้ดื่มน้ำมะนาวและพักผ่อนเยอะ ๆ เราตั้งใจที่จะดุแลตัวเองให้ดีที่สุด จะได้ไม่ต้องเป็นภาระในวันผ่าตัด
17/3/2560 ด้วยความกังวล จึงได้โทรไปขอคำแนะนำจากจนท.ที่เคานเตอร์ว่าเราควรปฏิบัติตัวอย่างไรก่อนเข้าห้องผ่าตัด ได้รับแนะนำว่าควรงดชา-กาแฟ ผักผลไม้ และอาหารรสจัด ควรทานอาหารกลางวันให้อิ่ม เน้นคาร์โบไฮเดรค และโปรตีน สวมใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ   และควรไปทำบุญ
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-4-27 19:39:54 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
“ภารกิจแรก กับการเลาะสารฉีดจมูก Bio”
20/3/2560 นัดผ่าตัดเวลา 13.00         น. เราไปถึงก่อนเวลา ทางคลีนิดให้เราอ่านเอกสารรอบสุดท้ายก่อนขึ้นผ่าตัด คุยกับคุณหมอและคุณเฟียตอีกครั้ง วัดชีพจรความดัน กินยา จากนั้นไปล้างหน้า แปรงฟัน และทำความสะอาดจมูก ก่อนผ่าตัด
เมื่อเข้าไปในห้องผ่าตัด ด้วยบรรยากาศที่สบาย ๆ เสียงเพลงยุค Sixty (เพลงโปรดที่เราเลือกเอง)และการดูแลเป็นอย่างดีจากคุณหมอ รวมถึงผู้ช่วยทุกท่าน ทำให้เราผ่อนคลายลงไปได้มาก คุณหมอขอรัดต้นแขนเราด้วยเครื่องวัดชีพจรความดัน ถ้ามีปัญหาระหว่างทำการผ่าตัดจะดูแลกันได้ทัน
หมอคุยกับเราเป็นระยะ ๆ ก่อนจะทำอะไร คุณหมอจะแจ้งเราก่อน ยาชาเข็มแรกเรารู้สึกว่ามีเข็มมาสัมผัสผิวหน้าเรา แต่ไม่เจ็บ (โรคธัยรอยด์ที่เป็น ต้องเจาะเลือดเป็นประจำอยู่แล้ว)  ขณะผ่าตัดได้มีการบันทึกภาพไว้ตลอด
ราว ๆ 18.00 น.คุณหมอได้ทำการเลาะเอาสาร Bio พร้อมกับกระดูกอ่อนหลังใบหูที่เราเคยเสริมไว้เมื่อปี 2540 ออกมาด้วย ปรากฏว่ามันได้เคลื่อนไปจากตำแหน่งเดิมบริเวณปลายจมูก จากสภาพผิวหนังบริเวณจมูกที่ไม่ขาด และเรียบ คุณหมอบอกว่าเราสามารถใส่แท่งได้ แต่ 50 : 50  เราจะใส่เลยมั้ย แต่ต้องยอมรับเงื่อนไขว่า ระหว่าง 2 สัปดาห์นี้ถ้ามีปัญหาต้องมาเอาออกนะ  เรายินดีรับเงื่อนไขนั้นทันที จากนั้นคุณเฟียดก็ได้นำแท่งมาวัดกับจมูกของเราพร้อมแต่งให้รับกับตุ่มนูนบริเวณสันจมูก
เราลงมาจากห้องผ่าตัดประมาณ  20.30 น.ทางคลินิกได้ให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองด้วยการประคบเย็น อาหารที่ต้องรับประทาน (อาหาร Clean) และควรหลีกเลี่ยง จัดยาที่ต้องกินต่อเนื่อง  ที่สำคัญห้ามแต่งหน้าอย่างเด็ดขาด ย้ำ ! โปรดฟังอีกครั้ง เข้าไปพบคุณหมอและคุณเฟียตอีกครั้ง ให้ดูสาร Bio ที่เลาะออกมาพร้อมกระดูกอ่อน ยังได้กำชับถึงกฎ กติกา มารยาท หลังทำการผ่าตัด   และนัดตัดไหมวันที่ 2/4/2260

6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-5-3 22:28:47 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
“ณพลักษณ์คลินิก ห่วงใยคุณ”
ผู้ป่วยต้องมาพบแพทย์ตามนัดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อติดตามผล และรับฟังคำแนะนำเป็นระยะ ซึ่งอาจมีข้อปฏิบัติที่แตกต่างกันแต่ละบุคคล ถ้าสงสัยว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับอวัยวะที่ได้รับการผ่าตัด  จะต้องโทรมานัดเพื่อเพื่อปรึกษาแพทย์ก่อนวันนัดหมายปกติ ถ้ามาพบแพทย์ล่าช้า  อาจเกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ และอาจส่งผลเสียต่อการผ่าตัดแก้ไขที่มีความยุ่งยากซับซ้อน  รวมทั้งผลลัพธ์ของการผ่าตัดรักษาแก้ไขอาจจะไม่ได้เป็นไปตามทีผู้ป่วยคาดหวัง
เมื่อผู้ป่วยได้มาพบแพทย์เพื่อติดตามผลการผ่าตัดจนครบ 3 เดือน อวัยวะที่ได้รับการผ่าตัดยุบบวมเป็นปกติ แต่ต่อมาสงสัยว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น   มีหน้าที่ต้องโทรมานัดวันเวลาเพื่อ
ปรีกษาแพทย์ นี่คือส่วนหนึ่งของข้อความในเอกสารที่ทางณพลักษณ์คลินิกให้กับผู้ป่วยหลังจากรับการผ่าตัดรักษาแล้ว
ที่นี่พร้อมจะ Maintenance, เช็คระยะให้อย่างน้อย 3 เดือน เราจึงอุ่นใจได้ว่าจะไม่ถูกทอดทิ้ง และปฏิเสธความรับผิดชอบ หลังจากที่รับการผ่าตัดรักษาและจ่ายเงินไปแล้ว
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-5-11 21:53:41 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ณพลักษณ์คลีนิก “คืนความสุขให้เรา”  
2/4/2560 ช่วงรอพบคุณเฟียตเพื่อตัดไหม ทางคลินิกได้นำเอกสารอีกชุดที่เป็นข้อมูลผ่าตัดแก้ไขคาง มาให้เราอ่าน ให้ความรู้และทำความเข้าใจกับปัญหาที่มาจากการทำศัลยกรรมคางฉีด
OMG ! ในสมรภูมิของการทำศัลยกรรมเขาทำกันเสียหาย วายป่วงเพียงนี้เลยหรือ ทั้งไทยและเทศสยดสยองไม่แพ้กัน   โปรดระวัง ! คุณอาจจะเจอ “ไฮยีน่า ศัลยกรรม คลินิก” โดยไม่รู้ตัวก็ได้  ด้วยกระแสศัลยกรรมเกาหลีที่มาแรง, การ PR ของเซเลบ  ดารานักแสดง มันสร้างแรงกระตุ้นอยู่ตลอดเวลา แต่ข้อมูลที่ได้เป็นข้อมูลเพียงด้านเดียว เพราะคนตาย ไม่ได้พูด
“การทำศัลยกรรมมีความเสี่ยง  โปรดศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน”
เพราะสิ่งที่อยู่บนใบหน้าคุณมันส่งผลต่อชีวิตคุณทั้งหมด คุณอาจจะได้กำไรหรือล้มละลายก็ได้หากเกิดความผิดพลาดเสียหายที่ไม่อาจคาดการณ์

เข้าพบคุณเฟียตช่วง  16.00 น. อาการบวมของจมูกได้ยุบเป็นปกติดี คุณเฟียตทำความสะอาด ตัดไหม และนวดจมูก คุณเฟียตกล่าวชมเราว่า นี่จะเป็นจมูกที่สวยที่สุดของคุณ และได้ถ่ายรูปบันทึกไว้ เราไม่ปฏิเสธ (ไม่ได้มโนไปเอง) มันยากที่จะบรรยายความรู้สึกจริง ๆ พี่น้องเอ้ย ทั้งหมดนี้ต้องยกเครดิตให้คุณเฟียตและคุณหมอ  
คุณหมอได้ซักประวัติเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมคาง และบอกว่าอาการที่เราเป็นนั้นมันคือ โรคหนังห่าน เมื่อซักถามจนเป็นที่เข้าใจแล้ว จึงลงลายมือชื่อ วางมัดจำนัดผ่าตัดคางเลาะสาร Bio ครั้งต่อไปในวันที่ 9/4/2560 รับยามากินก่อนทำการผ่าตัด ตามระเบียบ

หมอยังคงให้เราระมัดระวังเรื่องอาหารการกินต่อไปอีก 8 เดือน เพื่อประโยชน์ของตัวเราเอง

นอกจากความรู้เรื่องเกี่ยวกับศัลยกรรม และคำแนะนำอื่น ๆ แล้ว เรายังรับรู้ได้ถึงการดูแลเอาใจใส่ ความเมตตา ที่ได้รับจากคุณเฟียตและคุณหมออีกด้วย
................................
8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-5-11 21:57:11 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
“ณพลักษณ์คลินิก  Hard Core”
อะไรวะ!  หน้าก็หน้าเรา  ตังก็ตังเรา ห้ามโน่นนี่สารพัด ทำไมต้องหงุดหงิด โวยวายใส่ด้วยล่ะ มันอึดอัด ขัดอารมณ์นะ รู้มะ
แต่....เราเคยลงนาม MOU กับคุณเฟียตแล้วว่าจะดูแลและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด  โดยไม่มีเงื่อนไข  (ด้วยความสมัครใจ) ก่อนที่ณพลักษณ์คลินิกจะรับเราเป็นผู้ป่วยในการดูแล ทั้งนี้เพื่อผลการรักษาที่ดี และไม่ให้เสียของ
การตามใจ ก็คือการละเลย เพิกเฉย แต่การไม่ตามใจมักลงเอยด้วยการถูกต่อต้าน “ บอกแต่แรกแล้วไง คุณจะไม่รักษากับฉันก็ได้ เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ต้องฟังกันสิวะ ฉันก็เหนื่อย ก็เครียดเป็นนะเว้ย “
มองในมุมกลับ ถ้าเป็นคุณเฟียต  อยู่ดี ๆ จะมาเต้นแร้งเต้นกาทำไม ให้ใคร ๆ ไม่
ชอบหน้า สู้ฉันคะ คะ ขา ขา แล้วอวยคุณง่ายกว่ามั้ย ซึ่งถ้าปราศจากความห่วงใยและปรารถนาดี คงยากที่จะทำได้เช่นนี้ ก็เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกับตัวคุณเอง ลองเปลี่ยนมุมมองดูบ้าง แล้วคุณจะได้เห็นอีกแง่มุมของณพลักษณ์คลินิก รับรองว่า Unseen
Follow up อย่างนี้มีที่ไหน? มีแต่เร่งผ่าตัด รีบรับตัง หลังจากนั้นแทบจะถีบหัวส่ง

9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-5-18 21:41:22 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
“จัดการกับหนังห่าน กับสารฉีด Bio ที่คาง”
9/4/2560
นัดผ่าตัดคาง วันนี้ก็ปฏิบัติตัวเหมือนครั้งแรก อ่านเอกสาร และคุยกับคุณหมอก่อนขึ้นผ่าตัด คุณหมอแจ้งเลยว่าคางเราไม่อาจเสริมได้จะต้องพักฟื้น เร่งซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ เนื่องจากมีเนื้อและเซลส์บางส่วนตาย อาจใช้ระยะเวลาราว 1-1.5 ปี  รับทราบค่ะ
คุณเฟียตเป็นผู้ดูรายละเอียดปัญหาที่คางอีกครั้ง Mark ว่าปัญหาหลัก  ๆ ของเราอยู่ตรงไหนและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
เข้าห้องผ่าตัดช่วงบ่าย  หมอจะฉีดยาชาให้ที่บริเวณคาง จะมีเล็กน้อยในบางส่วนทีเรารู้สึกเจ็บเนื่องจากว่าเนื้อตรงนั้นแข็งเป็นหิน ระหว่างที่หมอกำลังเลาะสาร Bio ออก เรารู้สึกถึงความแข็งของมันเหมือนลิ่มตอกลงไปบนคอนกรีต (อ่านว่า คอน-กรีด ไม่ใช่ คอ-นก-รีด) คุณเฟียตได้ช่วยดูอยู่ด้วยระหว่างผ่าตัดพิจารณาว่าจะเก็บเนื้อตรงไหนไว้ และเลี้ยงเนื้อเยื่ออย่างไร เพื่อให้เมื่อร่างกายมีการซ่อมแซมแล้วจะได้คางที่สมบูรณ์ที่สุด

เมื่อนำสาร Bio ออกมาแล้ว และเย็บแผล ปรากฏว่าความเสียหายไม่ได้ส่งผลรุนแรงต่อผิวหนังมากนัก รูปทรงคางยังคงเป็น V Shape คุณหมอและคุณเฟียตพอใจ แต่เราพอใจมากกว่า ขอบคุณคุณทั้งสองอีกครั้ง
หมอเอาสารที่เลาะออกมาให้เราดู แผ่นใหญ่กว่าที่จมูก สีออกเหลือง ๆ มีเศษที่เป็นชิ้นเหมือนกระดูกชิ้นเล็ก ๆ หลายชิ้น  มีเซลส์ที่ตายแล้วชิ้นนึงออกมาด้วย
ออกจากห้องผ่าตัด พนง.ได้อธิบายวิธีการกินน้ำ กินอาหาร เนื่องจากริมฝีปากล่างรั้งจากการเย็บแผลและหนาจากยาชา ปากปิดไม่สนิทต้องใช้การช่วยประคองริมฝีปากล่างเพื่อให้มีแรงส่งขณะกลืนอาหาร ขณะเดียวกันต้องระวังไม่ให้คางโดนน้ำด้วย แล้วรับเอกสารข้อควรปฏิบัติ และรับยาไปกินต่อ ยังต้องระวังเรื่องของแสลงต่อไป เข้าไปพบคุณหมอกับคุณเฟียตอีกครั้งก่อนกลับบ้าน นัดล้างแผลวันพรุ่งนี้บ่ายสาม
ระหว่างนี้ต้องต่อสู้กับกิเลสของตัวเองอย่างหนัก ด้วยพฤติกรรมความเคยชิน ห้ามแต่งหน้าก็พอว่า แต่เรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ ให้บังเอิญว่าของมักของชอบของเราล้วนแต่เป็นของแสลงทั้งสิ้น ตำปูปลาร้า กุ้งแช่น้ำปลา ของหมักดอง คงไม่ต่างอะไรกับหมาเห็นปลากระป๋อง แต่ภารกิจกู้หน้านั้นยิ่งใหญ่นัก  เคยตามใจปาก ต้องหักห้ามใจ  ต้องมีวินัย กินยาให้ตรงตามเวลา เลือกอาหารที่มีโปรตีนสูง ก็เพื่อให้แผลหลังผ่าตัดออกมาดี  และตั้งแต่เลือกกินอาหาร Clean ระบบขับถ่ายเราดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ “You are what you eat”

10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-5-25 18:46:57 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
“นัดล้างแผล”
10/4/60
วันนี้ทำแผลที่คาง และเช็คระยะของจมูกไปด้วย ซึ่งยุบบวมดีเกือบปกติ แต่ต้องรอการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อในระยะต่อไป คุณเฟียตบอกว่าคางไม่บวมและแห้งดี ส่งกระจกให้เราดูผิวอันเรียบตึงที่คาง ไม่เห็นหนังห่าน รอยตะปุ่ม ตะป่ำแล้ว “รอกรวดน้ำ คว่ำกะลา บอกลา Bio  ซะที”
12/4/60
สี่โมงกว่า ได้เวลาล้างแผล ขณะเปิดผ้าเพื่อล้างแผล  รอฟังผลที่ออกประจำงวดนี้ แผลแห้ง ผิวเรียบดี  แอบถอนหายใจดังเฮือก ดูคางตัวเองในกระจกอีกครั้งชัด ๆ (เป็นครั้งที่สอง นับจากผ่าตัด) ดีใจโคตร แต่..อย่าเพิ่งชะล่าใจ ยังต้องดูแลตัวเองต่อ เดี๋ยวแผลไม่งาม แล้วคุณเฟียตก็ปิดแผลที่คางหันมาจัดการกับจมูกต่อด้วยการทำความสะอาด และนวดปรับทรงจมูก
นัดตัดไหมวันที่ 17/4/60
11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-5-25 18:48:36 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
“ทำแผล ประกอบคำรับสารภาพ”
17/4/60 เปิดผ้าปิดแผลปรากฏว่าคางบวมเนื่องจากยังมีเลือดคั่งอยู่ คุณเฟียตให้ล้างหน้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ก่อนเข้าไปทำแผลตัดไหม หนังไม่หลุด เซลส์ไม่ตาย ผิวหนังส่วนบนแห้งล่อนออก คุณเฟียตส่งกระจกให้เราดูเห็นผิวผลัดใหม่ ใสเป็นสีชมพู แต่อาการที่ยังมีเลือดซึมอยู่มันมีนัยยะ  ! คุณเฟียต (จิตสัมผัส) หันมาถามเราด้วยเสียงเข้มว่ากินโปรตีนอะไรบ้าง  แค่ไหน ? ใช่เลย ! ปริมาณโปรตีน (จากการลดไข่ขาว เข้าใจเอาเองว่าน่าจะพอ)  ที่เรากินเข้าไปไม่เพียงพอต่อการซ่อมแซมและสร้างเซลส์ใหม่  (รู้ได้ไงฟะ แอบนึกในใจ) ฉะนั้นจึงต้องปรับอาหาร เพิ่มประเภทโปรตีนสูง เน้นไข่ขาว น้ำเต้าหู้ และต้องออกกำลังกาย น้อมรับและจะนำไปปฏิบัติค่ะ (อย่านึกว่าจะรอดสายตา) แล้วคุณเฟียตก็นวดจมูกให้อีกครั้ง เช็คระยะรอบต่อไปวันที่ 22/4/60
12#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-6-2 23:12:56 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
“น้ำมันพราย”
เปิดผ้าปิดแผลออกมาปรากฏว่าที่คางมีน้ำเหลืองไหล (น้ำมันพราย เป็นอย่างนี้เอง) คุณเฟียต
บอกว่ามันเป็นอาการปกติสำหรับสารฉีดประเภทนี้ ซึ่งครั้งนี้จะปิดผ้าแค่บริเวณคางส่วนล่าง เปิดส่วนบนให้ทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอลล์ ยังต้องดูแลทะนุถนอมกันต่อไป หน้าที่ของเรา คือโด๊ปกันสุดฤทธิ์ อัดอาหารประเภทไขมันสูง นี่เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อว่าจะได้คางที่สมบูรณ์แบบหรือไม่? คุณเฟียตนวดจมูกให้พร้อมกับทำความสะอาดรูดเอาสิวเสี้ยนที่สะสมมาจากการฉีด Bio ออกมาจำนวนมาก  เจอกันใหม่วันที่ 28/4/60
13#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-6-2 23:17:27 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
“I will survive”

นัดล้างแผล วันนี้ได้ล้างหน้า แผลแห้งแล้ว คุณเฟียตทำความสะอาดและสอนวิธีการใช้ Silicone Gel ปิดแผล และฝึกทำกายภาพบริเวณคาง ริมฝีปากเพื่อบริหารกล้ามเนื้อด้วยการร้องเพลง ทำให้เราไม่รู้สึกเบื่อ (คุณเฟียต ช่างสรรหา activity ใหม่ ๆ มาให้ได้เราตื่นเต้นเสมอ) ไม่เคยสนใจคีย์  ไม่สนใจโน้ต  เสียงก็ห่วยแตก กลายเป็นนักร้องจำเป็น คุณเฟียตได้สอนให้เราร้องเพลง พร้อมกับแสดงให้ชมเป็นขวัญตา (คุณเฟียตเป็นผู้หญิงที่มหัศจรรย์จริง ๆ อดีตนักร้อง CU Band เลยนะ ขอบอก)    I will survive เป็นเพลงที่ request เราแทบจะลุกขึ้นมา dance ถ้าไม่เกรงใจว่าเป็นสถานพยาบาล ประทับใจมั่ก ๆ คุณเฟียตยังได้สำทับเราด้วยความหวังดีว่าก่อนจะร้องเพลงให้สำรวจประตูหน้าต่างให้แน่นหนาว่ามันจะไม่ไปรบกวนโสตประสาทเพื่อนบ้าน  แล้วไม่ลืมที่จะนวดปรับทรงจมูกให้เรา   อีก 1 อาทิตย์ พบกัน ส่วนเรื่องอาหาร ยังคงต้องจัดเต็มต่อไป
14#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-6-16 19:26:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Hand in hand (4/5/60)
เผลอแป๊บเดียว  Maintenance เช็คระยะไป  7 รอบแล้ว  ในช่วงเวลา 45 วัน อย่าเพิ่งเบื่อพี่น้อง ขณะที่ณพลักษณ์คลินิก ยังทุ่มเทดูแลเอาใจใส่เราเป็นอย่างดี เราเป็นผู้รับบริการ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีเลิศ ต้องเกิดจากความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย วันนี้ล้างหน้า เช็ดแอลกอฮอลล์ เพื่อฆ่าเชื้อและเอาคราบกาวจากผ้าเทปปิดแผลออก คุณเฟียตบรรจงนวดคาง และชมว่า ผลจากการที่เราดูแลทำให้ทรงคางและเนื้อเยื่อบริเวณที่ผ่าตัดออกมาดูดีทีเดียว แค่ต้องเร่งทำน้ำหนักตัวให้สร้างเนื้อเยื่อเพื่อมาเติมเต็มรอยย่นรอบๆ แผลผ่าตัด (จากรุ่น  fly weight สู่รุ่น  heavy weight) ราวกับจะขึ้นชก จากเน้นโปรตีน ไขมัน ยังไม่พอ ขอเพิ่ม Whey ด้วย  ได้เลยคุณเฟียต ในเมื่อคุณทุ่มเทกับเราขนาดนี้ ไม่จัดให้ก็จะกลายเป็น “ขุนเข่าไร้น้ำใจ”  สำหรับจมูกวันนี้จัดหนัก ถึงกับน้ำตาซึม (ด้วยความปลื้มปิติ) ความงามเริ่มปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้นทุกวัน จะไม่ให้ปลื้มได้ไง  
15#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-7-3 12:01:44 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
“สุดซอย”17/5/60
วันนี้คุณเฟียตโกยเซลสส์ที่สร้างขึ้นมาใหม่อยู่ด้านข้างจมูกทั้งซ้ายและขวา โดยดันเนื้อทั้งสองให้ขึ้นมาประสานกันบนสันจมูก ขาโหดส่งกระจกให้เราถือลุ้นไปพร้อม ๆ กัน ขณะที่เซลส์จะมาบรรจบกันเราแทบระลึกชาติได้  (เซลส์ที่สร้างขึ้นใหม่มีสีขาว) มันเป็นยิ้มที่เปื้อนน้ำตาจริง ๆ ส่วนที่คางคุณเฟียตสอนวิธีนวดให้  เซลส์ที่สร้างใหม่ก็ขึ้นมาแบบไม่ทำให้เราต้องเสียหน้า มิเสียแรงที่อัดซะเต็มสตรีม  ไข่ขาวปั่นน้ำเต้าหู้,นมสดฝาทอง,Whey,เนยก้อน   Ensure   ไหน ๆ แล้ว ก็ลุยกันให้สุดซอย ส่วนเรื่องน้ำหนักไม่ต้องกังวล ออกกำลังกายให้ได้เหงื่อ ร่างกายได้ขับของเสียออกไป  ส่งผลให้ผิวพรรณดูดีตามมาอีก “งาม 3 เด้ง”
และแล้วก็ได้ฤกษ์คุยกับคุณหมอเรื่องเอา Bio ออกจากหน้าผากและขมับซะที (เราเตรียมตังไปวางมัดจำ จองเวลามาหลายมื้อแล้ว คุณเฟียตก็ยังไม่รับ) หมออธิบายเรื่องความเสี่ยง
ที่อาจเกิดขึ้นว่า Bio มันอยู่ใกล้เส้นประสาทเหนือคิ้วทั้งสองข้าง การเข้าไปเลาะอาจเก็บได้ไม่หมด เพราะถ้าไปกระทบเส้นประสาทส่วนนี้เข้าเราอาจไม่ได้เบิกเนตรอีกต่อไป (หมดกันวิสัยทัศน์ตรู) แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูหน้างาน ว่าเปิดเข้าไปจะเจออะไร ระหว่างผ่าตัดหมอขอให้เราหลับตา และลืมตาเป็นระยะ ๆ  หมอต้องการให้เรารู้สึกตัว ถามเราว่าถ้าผ่าตัดครั้งนี้งด Xanax จะกังวลมั้ย  จัดไปเลยหมอ เอาที่หมอสบายใจ เชื่อมือณพลักษณ์อยู่แล้ว จากนั้นก็อ่านบันทึกความเข้าใจ ลงชื่อรับทราบ จองเวลาผ่าตัดเป็นวันที่ 27/6/60
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้