รีวิวผ่าตัดกระดูกทำวีไลน์+ยุบโหนก

karum

เรื่องราวก่อนผ่าตัด





สวัสดีค่ะ ขอเริ่มเลยแล้วกันนะคะ

วันนี้เราจะมาเริ่มเขียนรีวิวศัลยกรรมจากประสบการณ์ตรงที่ได้สัมผัสมาค่ะ

เริ่มแรกตั้งแต่ก่อนผ่าตัด เราเป็นคนมีโหนกแก้มซึ่งเห็นได้ชัดมาก โครงหน้าไม่ค่อยเรียบเสมอกัน

ได้ยินบ่อยมากว่าเราเป็นคนที่หน้าดูดุ แรกๆก็ไม่อะไร

พอได้ยินบ่อยๆเข้าก็แอบเครียดเหมือนกันค่ะ เสียความมั่นใจด้วย

หลังๆหนักมากจนไม่อยากมองหน้าตัวเองในกระจกเลย

มีอีกอย่างนึงคือเราไม่รู้มาก่อนว่าตัวเองเป็นคนคางสั้น คางตัด

จนเริ่มเข้าทำงานบริษัท แล้วเพื่อนๆในบ.มาแนะนำให้เราไปฉีดฟิลเลอร์คาง

ถึงได้รู้ตอนนั้นค่ะว่าตัวเองคางสั้น

แต่เรื่องคางเราไม่ได้ซีเรียสมากขนาดนั้นค่ะ

ติดอยู่ตรงโหนกเนี่ยแหละที่ไม่ชอบเอามากๆ

เลยตัดสินใจจะไปศัลยกรรมให้มันรู้แล้วรู้รอด



ก่อนจะเลือกรพ.เราจะหาจากรีวิวที่ทำหน้าออกมาแนวธรรมชาติเป็นหลัก

แล้วก็ได้มาเจอกับบาโนบากิค่ะ ได้เข้าไปปรึกษากับคุณหมอ

คุณหมอแนะนำให้ลดโหนกแก้ม เลื่อนกระดูกคางมาด้านหน้าเล็กน้อย

และลดกรามไปด้วยให้สัดส่วนใบหน้าโดยรวมเหมาะสมเข้ากัน

ถ้าทำตามรายการที่ว่าใบหน้าจะมีความอ่อนหวานขึ้นและเล็กลงด้วยค่ะ

ปกติเราเป็นคนค่อนข้างตัวสูง แต่ไม่ใช่คนกระดูกใหญ่มาก คุณหมอบอกว่าหลังผ่าตัด

สัดส่วนใบหน้าและลำตัวจะมีความเข้ากันมากขึ้นด้วยค่ะ ได้ยินแบบนี้ก็บอกเลยว่า

ตั้งความหวังไว้สูงเหมือนกันค่ะว่าต้องดีขึ้นแน่ๆ



ช่วงก่อนผ่าตัดเราอ่านพวกรีวิวต่างๆเยอะมาก

ได้ยินมาว่าหลังผ่าตัดกว่าแก๊สยาสลบจะออกไปจากร่างกายจนหมด

เป็นช่วงเวลาที่ทรมานมากๆ เรากังวลจุดนี้มากที่สุดเลยค่ะ

แต่อยากรีบผ่าตัด รีบยุบบวม รีบหายไวๆ อยากจะสวยกับเค้าแล้วค่ะ><

ศัลยกรรมครั้งนี้ผลจะออกมาเป็นยังไง

ช่วยรอติดตามกันด้วยนะคะ

karum

ในที่สุด เราก็ได้ผ่าตัดโครงหน้าค่ะ

ก่อนผ่าตัดเราไม่เคยกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวดที่ต้องผ่าตัดกระดูกมาก่อนเลยค่ะ

แต่ที่กังวลอย่างหนึ่ง คือ ที่เคยอ่านรีวิวมา ก๊าซยาสลบหลังผ่าตัดเป็นอะไรที่หลายคนทรมานค่ะ

ทำให้เราค่อนข้างกลัวค่ะ


และแล้ว! เราก็ตื่นขึ้นหลังจากผ่าตัด เรายังตั้งสติไม่ได้เพราะมินยาสลบอยู่ค่ะ

ทั้งเวียนศรีษะ เหมือนจะอาเจียนตลอดเวลา กลิ่นก๊าซยาสลบทำให้คลื่นไส้มากเลยค่ะ...

อีกอย่าง มีสายระบายเลือดออกมาจากในปาก เราเลยปิดปากไม่สนิท ยิ่งทำให้คอแห้ง แสบคอมากค่ะ

เราต้องอยู่ในสภาพนี้ และพยายามหายใจเข้าออกเพื่อไล่ก๊าซยาสลบออก จนเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัวค่ะ


พอเวลาผ่านไป คุณหมอพยาบาลก็นำน้ำเปล่า น้ำเต้าหู้ และน้ำยาบ้วนปากเข้ามาให้ค่ะ

เราเพลียมาก ดื่มแค่น้ำ ก็เลยนอนยาวเลยค่ะ


ตื่นมาอีกทีก็ตอนเย็น ตอนนั้นเราคิดว่าคอนดิชั่นเราโอเคแล้ว ก๊าซยาสลบออกจากตัวไปหมดแล้วนะคะ

แต่ปรากฎว่าผ่านไปแปปนึงก็กลับมาเวียนหัว คลื่นไส้อีกแล้วค่ะ

เราคลื่นไส้จนนอนไม่หลับเลยค่ะ

ตอนกลางดึกคุณหมอพยาบาลเลยมาฉีดยาบรรเทาอาการให้ค่ะ


เพราะเราฉีดยาแก้ปวดและทานยาแก้ระงับอาการปวดไป ทำให้เราไม่รู้สึกอะไรเลย

ตอนนี้นี่แหละลำบากสุด มีเสมหะ แต่บ้วนออกไม่ได้ค่ะ..

แถมเรายังเป็นภูมิแพ้อีก ในคอมีแต่เสมหะ หายใจไม่ค่อยออก ลำบากมากค่ะT^T

เราคัดจมูกอยู่แล้วยิ่งทำให้เหนื่อย และยิ่งหลังผ่าตัดมีเสมหะในคอ คัดจมูก เลยหายใจไม่ออกค่ะ



โชคดีมีคุณพี่พยาบาลที่อยู่เวรวันนี้ มาพ่นยาจมูกให้ เรานี่โล่งเลยค่ะ

ขอบคุณพี่พยาบาลที่คอยดูแลนะคะ นอนรพ.1คืนนี้ หลับสบายมาก ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ


กลับมาบ้านวันแรกไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไหร่ เลยดื่มแต่น้ำค่ะ

วันถัดมาเริ่มหิว เราทานทั้งโจ๊ก และไอศครีม ทานทุกอย่างที่ทานได้เลยค่ะ 5555





ช่วง5วันแรกหลังผ่าตัด จะเป็นช่วงที่ปากแห้งมากๆๆๆ ต้องเตรียมลิปบาล์มไว้ทาอย่างสม่ำเสมอนะคะ
เราเริ่มอาบน้ำวันที่ 2หลังผ่าตัด ตอนล้างหน้าจะเว้นไหมช่วงโหนกแก้มไว้ค่ะ ส่วนผมเราเข้าร้านสระผมค่ะ



วันที่ 4หลังผ่าตัด อาบน้ำได้ปกติแล้ว สระผมเองได้แล้วค่ะ

ที่สำคัญคือ การประคบเย็น!! รพ.บอกว่าให้ประคบเย็นบ่อยๆ สำคัญมาก

แต่ต้องคอยเอาไอซ์แพคไปแช่เย็น แล้วเปลี่ยนประคบ แอบขี้เกียจทำค่ะ





วันที่4 ความบวมไม่ค่อยลดลงเท่าไหร่ วันที่ 5เราเลยตั้งใจประคบ

หมั่นประคบบ่อยๆ แล้วความบวมก็ลดลงค่ะ

รพ.บอกว่า ห้ามนอนอยู่เฉยๆ ให้ลองเดิน พยายามเคลื่อนไหวร่างกายจะช่วยลดบวมได้เร็ว

เราลองทำทั้งสองอย่างแล้ว เราว่านั่งประคบเย็นทั้งวันเห็นผลดีกว่าการทำนู้นที่นี่อีกค่ะ


ปกติ 3วันแรกหลังผ่าตัดความบวมจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และค่อยๆลดค่ะ

แต่ของเราบวมขึ้นจนถึง 5วันเลยค่ะ ตอนแรกกังวลนะคะ แต่พอเวลาผ่านไปค่อยๆ ยุบค่ะ

ตอนนี้เริ่มเห็นกรอบหน้าแล้ว^^





แอบคิดว่าอาทิตย์หนึ่งเมื่อไหร่จะผ่านไปนะ เวลาผ่านไปเร็วจริงๆค่ะ
อยากให้ผ่านไปอีกอาทิตย์เร็วๆจัง จะได้ตัดไหมในปากสักที ถ้าได้ตัดไหมในปาก น่าจะลดบวมได้เยอะเลยไหมคะ?


ลืมบอกเราผ่าตัดปรับโครงหน้า 3จุด กราม+คาง+โหนกแก้มนะคะ
เจอกันใหม่รีวิวตอนหน้าค่า

karum

2 สัปดาห์หลังผ่าตัด


พอนึกถึงตอนฟื้นจากยาสลบ เรากลัวมากเลยค่ะตอนนั้น

คิดอยู่ตลอดว่าเมื่อไหร่เวลานี้จะผ่านไปซักที จนตอนนี้ผ่านมา 2อาทิตย์แล้วค่ะ!!! เย่!

อาการบวมก็ยุบลงประมาณนึงแล้ว ใส่แมสออกไปเดินข้างนอกได้ปกติมากเลยค่ะ

เมื่ออาทิตย์ก่อนตรงตาข้างซ้ายมีรอยช้ำสีเหลืองเกิดขึ้นมา ตอนนี้เริ่มกลายเป็นสีม่วงค่ะ...

ตอนแรกเราคิดว่าพอรอยช้ำกลายเป็นสีเหลือง อีกเดี๋ยวก็จะหายไปจนหมดแต่ไม่ใช่ค่ะ

แต่ไม่ได้ม่วงเหมือนโดนต่อยนะคะ 5555555555 แค่เป็นคล้ำๆเหมือนใต้ตาดำเฉยๆค่ะ





ในส่วนของอาการบวมอาทิตย์ก่อนๆหน้าเราบวมมากกก หน้าเต่งๆเลย

ใครมองก็รู้ว่าไปทำอะไรกับหน้ามาแน่ๆ แต่ตอนนี้ความบวมยุบลง

ทำให้หน้าดูเหมือนเราน้ำหนักขึ้นแทนค่ะ 55555555

ตรงคางก็ยังบวมอยู่เลยทำให้เวลามองจากด้านข้าง เห็นเหมือนเหนียงอยู่ใต้คางด้วยค่ะ

ตรงแก้มสองข้างจะบวม ลักษณะคล้ายคนมีแก้มเยอะ



หลังตื่นนอนในตอนเช้าจะบวมมากกว่าเวลาปกติ แต่ก็ดีกว่าอาทิตย์ก่อนๆเยอะค่ะ

เมื่อก่อนถึงเราจะประคบเย็นก่อนนอน แต่พอตื่นมาก็บวมมากอยู่ดี

ตอนนี้ถึงจะยังบวมอยู่แต่ก็ไม่ได้บวมจนเต่งแล้วค่ะ





ตอนแรกเราอยากกินนู่นนี่เยอะมาก แต่กินไม่ได้ เลยแอบกลืนเส้นมาม่าไปนิดนึง

แล้วก็กินพวกโจ้กแทนค่ะ แต่พอปวดช่วงกรามมากๆทำให้ขี้เกียจกินอะไรไปหมด

รู้สึกว่าการจะกินอะไรสักอย่างมันเป็นเรื่องใหญ่มาก TT

เลยทำให้ช่วงหลังๆมาไม่ค่อยกินอะไร ถึงกินก็กินพวกเครื่องดื่มเป็นส่วนมากค่ะ

ไม่รู้ว่าเพราะแบบนี้ด้วยรึเปล่า เลยรู้สึกว่าความบวมยุบลงค่อนข้างเร็ว






ช่วงครบ 7 วันหลังผ่าตัด เราไปตัดไหมหน้าหูตรงที่ทำโหนกแก้มมาด้วยค่ะ

ได้ทำทรีทเมนต์นวดใบหน้าด้วย

พอได้นวดหน้าแล้วรู้สึกขยับปากได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมยังไงไม่รู้ค่ะ

ก่อนนวดรู้สึกปากหนักๆเหมือนมีอะไรมากดเอาไว้

แต่พอมานวดความรู้สึกนั้นก็หายไปเลย สงสัยต้องมานวดบ่อยๆแล้วล่ะค่ะ

พอตัดไหมหน้าหูออกไปรู้สึกล้างหน้าง่ายขึ้นมากเลย ไม่ต้องมาคอยระวังไหมแล้ว

เหลือไหมในปากอย่างเดียวแล้ว ได้ตัดเมือ่ไหร่คงจะรู้สึกโล่งมากเลย

ทางรพ.ได้ให้ผ้ารัดหน้าเรามาด้วยพร้อมวิธีใช้ค่ะ





แล้วก็เราได้ลองแต่งหน้าดูด้วยค่ะ ครั้งแรกเลยหลังจากผ่าตัดมา

เวลาบเครื่องสำอาง ไม่มีปัญหาอะไรก็จริง แต่ตอนตบคุชชั่นตรงโหนกกับกรามก็แอบเจ็บอยู่ค่ะ

ช่วงนี้ถ้าไม่มีนัดอะไรสำคัญคงต้องเว้นการแต่งหน้าไปก่อนแล้วล่ะค่ะ TT

karum

วันนี้เรามารพ. มีนัดตัดไหมในปาก ถ่ายCT scan กับX-ray และก็เช็คอัพกับคุณหมอค่ะ





ตอนตัดไหมเจ็บมากเลยค่ะT^T

เราพยายามอดทนแล้วนะ แต่ตอนตัดไหมน้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวค่ะ..



ตอนแรกเราค่อนข้างกังวลกับโหนกแก้มข้างซ้ายที่ดูยื่นออกมา

แต่พอได้ดูรูปถ่ายแล้วก็โล่งใจเลยค่ะ

ในตาข้างซ้ายเรามีเลือดคลั่ง และหน้าข้างซ้ายเราก็บวมกว่าด้วย

คุณหมอบอกว่าอาการแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ค่ะ


ตอนดูรูปถ่ายเห็นเลยค่ะ ว่ากระดูกเข้าถูกปรับเข้าไปเยอะมาก
แอบกังวลเองอยู่คนเดียวตั้ง 2อาทิตย์แหนะ
กลัวว่าจะต้องผ่าตัดแก้หรือเปล่า กังวลมากๆค่ะ



ตอนพบคุณหมอ คุณหมอบอกว่าเรายุบบวมไปเยอะมาก แสดงว่าดูแลตัวเองดีค่ะ

อารมณ์ดีมากเลยค่ะ

ถ้าเราดูแลตัวเองดี ความบวมก็จะยิ่งลดลงเร็ว ช่วงนี้เราเลยรัดหน้าถี่มาก รัดเว้นทุกๆ 2ชม.เลยค่ะ





หลังจากตัดไหมแล้ว รู้สึกโล่งมากเลยค่ะ

ตอนที่ยังมีไหมอยู่ เวลาใช้ที่รัดหน้าหรือเวลาทำแก้มปล่อง

จะรู้สึกตึงเหมือนไหมรั้งผิว เจ็บมากค่ะ

พอตัดไหมแล้ว อาการแบบนั้นหายไปหมดเลยค่ะ

รู้สึกสดชื่นมากค่ะ!!

เหลือแค่อาหารการกินที่เปลี่ยนไปเท่านั้น นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไรแล้วค่ะ

karum

ยิ่งใกล้ครบ 2 เดือนยิ่งรู้สึกว่ายุบบวมลงกว่าแต่ก่อนเยอะเลยค่ะ



ยังคงยุบๆบวมๆสลับกันบ้างในแต่ละวัน แต่ก็ดีขึ้นมากแล้ว
ก่อนผ่าตัดเราไม่ชอบช่วงโหนกแก้มของตัวเองเลย
และหลังผ่าตัดแรกๆเพราะบวมด้วยทำให้โหนกแก้มมันดูปูดกว่าเดิม

ช่วงแรกๆแทบไม่กล้าจะส่องกระจกเลยค่ะ แต่ตอนนี้พอยุบบวมมากขึ้น
ทำให้เห็นเป็นโครงหน้าที่ชัดขึ้น บอกตรงๆว่าเบาใจขึ้นเยอะเลยค่ะ



แล้วอีกอย่างที่ดีคือคนดูไม่ค่อยออกด้วยค่ะว่าเราไปทำโครงหน้ามา 55555555555
แต่ดันมาถามว่าไปทำอะไรกับปลายจมูกมารึเปล่า ดูจมูกโด่งขึ้น ก็แอบงงๆอยู่

เลยไปเล่าให้คุณหมอฟังด้วยค่ะ 555555 คุณหมอบอกว่าไม่ได้ทำอะไรกับจมูกเราเลยนะ
แต่คนรอบข้างบอกแบบนั้นหมดเลยค่ะ แปลกดีแต่ก็ชอบค่ะ 55555555



ตรงแผลกรีดในปากช่วงแถวๆฟันกรามจะชอบมีเศษอาหารไปติดเลยแบบรำคาญอยู่บ้าง
ถ้าตรงนี้ดีขึ้นก็ไม่หวังอะไรแล้วค่ะ

karum

สวัสดีค่า นี่ก็ผ่านไป 2เดือนครึ่งแล้ว เอารูปมาให้ชมกันต่อค่ะ
เวลากินข้าวเราจะรู้สึกตึงที่โหนกแก้มค่ะ
แต่ก็ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่ จนมาถึงตอนนี้เริ่มกังวล
ว่าถ้าฝืนเคี้ยวอาหารทั้งๆที่รู้สึกตึงตรงโหนกแก้มแบบนี้ต่อไป
พินที่ยึดกระดูกโหนกแก้มจะหลุดออกมามั้ย
แต่ทางรพ.แจ้งว่ามันไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน ไม่ต้องกังวล
เลยรู้สึกเบาใจขึ้นมาหน่อยค่ะ เราน่าจะกังวลเยอะไปเอง TT





ตรงกระพุ้งแก้มสองข้างยังรู้สึกว่าบวมอยู่
มองดูเหมือนอมลูกอมไว้ในแก้มเลยค่ะ





พอเวลาผ่านไปน่าจะยุบลงมากกว่านี้ ต้องรอกันต่อไป
ช่วงที่รอยุบบวมเราก็กังวลมากเหมือนกันค่ะกลัวว่ามันจะยุบได้แค่นี้ ไม่ลงอีกจะทำไง
แต่ก็พยายามทำใจให้สบาย ลืมๆมันไปเดี๋ยวก็คงยุบไปเอง 5555555
เดือนหน้าเราว่าจะไปเช็คอัพกับคุณหมอด้วยค่ะ จะได้คลายความกังวลไปบ้าง

karum

ช่วงหลังผ่าตัดใหม่ๆเคยกังวลเรื่องการอ้าปากมากเลยค่ะ
ว่าเมื่อไหร่จะอ้าปากได้กว้างเท่าเดิม เมื่อไหร่จะได้กินอะไรเต็มที่อย่างที่อยากกิน
พอเวลาผ่านไป จนตอนนี้อ้าปากได้มากขึ้นเรื่อยๆ สามารถเคี้ยวอาหารได้ปกติแล้วด้วย
เลยกินยับเลยค่ะ 55555555 แอบกลัวอยู่ว่าถ้าเป็นงี้ต่อไปต้องอ้วนขึ้นแน่ๆ TT





เรื่องของความบวมก็น่าจะยังไม่อยู่ตัวค่ะ

เพราะวันไหนเกิดเผลอไปกินอาหารผิดสำแดงมา ในปากตรงแถวรอยผ่าตัดก็จะบวมค่ะ
ต้องบริหารปากช่วยให้มันยุบบวม พอแผลบวมก็จะชอบมีเศษอาหารเข้าไปติดด้วยค่ะ
แถวช่วงเหงือกตรงฟันล่าง ถ้ากินข้าวอยู่บ้านก็ไม่เป็นไรเพราะไม่มีคนเห็น
ถ้าไปกินข้าวข้างนอกก็คงต้องคอยบ้วนปากหลังกินข้าวเอาค่ะ



ส่วนภาพรวมรู้สึกโครงหน้าสวยขึ้นมาก แต่งหน้าเบาๆแค่ตบคุชชั่นก็ดูดีแล้วค่ะ
สวยแบบไม่ต้องอะไรมาก ชอบค่ะ 5555555555555
ไว้กลับมาพบกันใหม่ตอนครบ 3 เดือนนะคะ ~

karum

วันนี้มีนัดเช็คอัพหลังผ่าตัดครบ 3เดือนค่ะ

รู้สึกเหมือนเพิ่งผ่าตัดมาได้ไม่กี่วันเอง เผลอแปปเดียวครบ 3เดือนแล้วค่ะ





เราให้คุณหมอช่วยดูริ้วรอยคาดหน้าแก้ม กับตรงคางสองชั้นที่เรากังวลค่ะ

คุณหมอบอกว่าตรงส่วนให้เข้ามาเช็คอีกทีตอนครบ 6เดือน อาจจะต้องดูดไขมันเพิ่มค่ะ

โชคดีที่ผิวเราไม่หย่อนคล้อยเลยค่ะ

ก่อนผ่าตัดเรากังวลเรื่องผิวหย่อยคล้อยค่อนข้างมาก โล่งอกไปทีค่ะ





และคุณหมอบอกว่าหน้าเรากำลังค่อยๆ เล็กลงอยู่ค่ะ

นี่แค่ 3เดือนเอง ยังเห็นผลขนาดนี้ ยิ่งคาดหวังผลลัพธ์ตอน 6เดือนเลยค่ะ

karum

ผ่าตัดได้ 5เดือนแล้วค่ะ



เราพอใจกับผลลัพธ์มากค่ะ ติดตรงเนื้อแก้มกับไขมันตรงเหนียงนิดหน่อย
ลองเอามือทาบหน้าดู รู้สึกเลยว่าหน้าเล็กลงมากค่ะ

ความบวมเล็กๆ ค่อยๆ ลดลงอยู่ค่ะ รู้สึกว่าหน้าเล็กลงกว่าเมื่อก่อนมากเลยค่ะ
และก็ช่วงนี้เวลาออกไปข้างนอก มีคนชมว่าสวยหลายคนเลยค่ะ ^^
เวลามองด้านนอก ดูไม่ออกเลยว่าเราผ่าตัดมา จนหลายคนทักว่าสวย เหมือนเราสวยมาตั้งแต่แรกค่ะ55555
เป็นคำที่ฟังแล้วใจฟูที่สุดเลยค่ะ ได้ยินแล้วอารมณ์ดี



เราชอบหน้าตัวเองตอนมองหน้าตรงมาก
แต่ด้านข้างตรงแก้มยังไม่ค่อยเข้าที่เท่าไหร่ และยังมีไขมันตรงเหนียงอยู่ค่ะ
ในปากตรงที่เคยเย็บแผลยังมีความบวมอยู่ค่ะ
ช่วงฟันกรามล่างชอบมีเศษอาหารมาติดอยู่บ่อยๆ เราเลยยังบ้วนปากหลังทานข้าวอยู่ค่ะ

อาการแบบหลังผ่าตัดครบ 6เดือน-1ปีก็จะหายไปใช่ไหมคะ?5555
ต้องคอยดูแลตัวเองให้ดีจนกว่าถึงเวลานั้นแล้วล่ะค่ะ

karum

ตอนที่ 12



ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งรู้สึกว่าเห็นโครงหน้าชัดเจนขึ้นเรื่อยๆเลยค่ะ
เมื่อไม่นานมานี้มีโอกาสแวะกลับไปเที่ยวที่ทำงานเก่าแป้ปนึงด้วย
คนที่บ.เก่าชมกันใหญ่เลยว่าดูผอมลง
ไปทำอะไรมาสวยขึ้น หุบยิ้มไม่อยู่เลยค่ะ 555555

คุณหมอเองก็เคยถามเหมือนกันว่าคนรอบข้างไม่ทักหรอว่าหน้าดูเล็กลง
เป็นเพราะช่วงโควิดด้วยเลยไม่ค่อยได้ออกไปเจอคนอื่นๆเท่าไหร่
แต่ล่าสุดนี้มีได้ออกไปบ้าง เจอคนทักหลายคนเลยค่ะ



หน้าโดยรวมดูดีขึ้น จากเดิมที่หน้าดูเหมือนเหนื่อย ไม่สดใส
ตอนนี้ขนาดไม่แต่งหน้าก็ดูดีกว่าแต่ก่อนเยอะเลยค่ะ
ถึงแต่งหน้าก็ไม่ต้องแต่งจัดเต็มแค่ตบคุชชั่นเบาๆก็เอาอยู่แล้วค่ะ
เริ่มชินกับหน้าตอนนี้จนจำหน้าเก่าตัวเองแทบไม่ได้แล้วด้วย 5555555
ทุกวันนี้ส่องกระจกแล้วมีความสุขมากๆเลยค่ะ

karum

สวัสดีค่า กลับมาอัพเดทภาพให้ชมกันเล็กน้อยค่ะ



ยิ่งเวลาผ่านไปนานมากขึ้น บางทีก็ลืมว่าตัวเองเคยผ่าตัดโครงหน้ามา
ตั้งแต่พ้น 3 เดือนแรกเป็นต้นมา สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษในช่วงแรกก็ลดน้อยลง
จนไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันเลย
พูดง่ายๆคือใช้ชีวิตปกติมากเหมือนกับตอนก่อนผ่าตัด



แต่จะมีบางวันที่แบบเผลอกินมื้อดึกก่อนนอน
พอตื่นมาในปากตรงทีเคยเป็นรอยแผลอาจจะบวมขึ้นมานิดนึงเหมือนเดิม
แต่แป้ปเดียวก็ยุบค่ะ  นอกจากนี้คือปกติหมดเลย สบายมาก!

ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากจาตอนที่แล้ว
ไว้จะกลับมาอัพเดทต่อตอนครบ 6 เดือนนะคะ

karum

ตอนสุดท้ายแล้ว



ความคิดแรกหลังผ่าตัดเสร็จออกมาเลยก็คือ เมื่อไหร่จะครบ1สัปดาห์นะ,

อยากให้ครบ1เดือน หรือ6เดือนแล้ว

จนมาถึงตอนนี้เข้าเดือนที่6หลังผ่าตัดแล้ว  เวลาผ่านไปเร็วมากๆค่ะ





ถ้าดูรูปก่อนผ่าตัดอย่างเดียวมองไม่ค่อยออกเท่าไหร่

แต่หลังผ่าตัดพอลองเปรียบเทียบรูป Before-After ผลลัพธ์คือแตกต่างกันมากค่ะ

ช่วงประมาณ2~3เดือนแรกหลังผ่าตัด หน้าดูเหมือนไม่ค่อยเปลี่ยน ดูไม่ต่างจากก่อนผ่าตัดเท่าไหร่

เคยแอบไม่พอใจนิดนึงค่ะ



แต่พอเวลาผ่านไป เราลองเสิร์ชหาข้อมูลเยอะมาก

ในความคิดเราการผ่าตัดโครงหน้า เป็นการผ่าตัดที่จะทำให้เราสวยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แบบดูไม่โป๊ะแตกค่ะ



รีวิวส่วนใหญ่ทำศัลยกรรมตากับจมูกพร้อมกันเลย

เราลืมคิดไปเลยว่าผ่าตัดโครงหน้าอย่างเดียว

คิดไปว่าผลลัพธ์จะต้องแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดค่ะ





ปัจจุบันเราพอใจกับผลลัพธ์มากๆค่ะ

คนรอบข้างต่างชมกันว่าเราสวยขึ้นกว่าก่อนผ่าตัดมากและดูเด็กกว่าอายุจริงด้วยค่ะ



และที่ชอบมากที่สุดคือ สวยขึ้นแบบดูไม่ออกว่าไปทำอะไรมาค่ะ

เป็นธรรมชาติมาก ดูจากภายนอกไม่มีร่องรอยของการผ่าตัดเลย

ถ้าไม่บอกว่าเคยผ่าตัดโครงหน้ามา ก็ไม่มีใครรู้เลยค่ะ



ถึงหน้าเราจะยังไม่เข้าที่ดี แต่เราเชื่อว่าถ้าผ่านไปครบ1ปี หน้าเราจะเป๊ะกว่านี้มากๆค่ะ

พอผ่านมาได้ 6เดือน คำพูดที่ว่าเวลาจะช่วยเยียวยาเอง คำนี้จริงที่สุดค่ะ

ก่อนผ่าตัด เวลาส่องกระจกทีไรรู้สึกเครียดทุกที ตอนนี้ส่วนนั้นหายไปแล้ว รู้สึกดีมากค่ะ


เราสนุกกับการถ่ายรูปเซลฟี่มาก ขอบคุณคุณหมอมากๆๆๆๆๆๆๆนะคะ