เกือบ 2 ปีกว่าจะได้ทำตาสองชั้น

looknameng

สวัสดีค่ะ หลังแอบส่องแนวทางการเขียนรีวิวของคนอื่นมาพักใหญ่ ก็ถึงคราวเรามารีวิวเองบ้างแล้ว 55555 อ่านงงตรงไหนสงสัยอะไรแปะคอมเม้นไว้ได้เลยนะคะ ตอบทุกคอมเม้นแน่นอน

เราใช้เวลาตัดสินใจเกือบ 2 ปี เพราะที่บ้านไม่สนับสนุน

ก่อนทำตา

ก่อนจะตัดสินใจทำตานี่ก็ใช้เวลาหาข้อมูลอยู่เป็นปี อ่านจากรีวิว หาข้อมูลตามเว็บ ถามคนที่เคยทำแล้วบ้าง เพราะที่บ้านไม่อยากให้ทำเลย!! แม่กลัวทำแล้วหน้าจะเปลี่ยนไปเยอะ กลัวทำมาไม่ดี ตาจะมองไม่เห็นเหมือนเดิม ตาบอดอะไรแบบนั้น เพราะเค้าได้ยินเรื่องคนที่เคยทำแล้วพัง แผลเสีย ที่มันน่ากลัวๆ จากข่าวเยอะ

ตอนนั้นก็ใช้สติกเกอร์แปะตาไปค่ะ ใช้วนจนชินอยู่ 5-6 ปี ขาดไม่ได้เลย เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแต่งหน้าไปแล้ว ลืมบอกว่าเราทำงานเป็นพริตตี้ค่ะ ด้วยหน้าที่การงานเลยต้องดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษ บวกกับความรู้สึกส่วนตัวที่อยากมีตาสองชั้นอยู่แล้วด้วย เห็นเพื่อนที่ทำมาแล้วสวยขึ้น ก็ยิ่งรู้สึกอยากทำมากกว่าเดิม สรุปสุดท้ายก็บอกกับแม่ กล่อมอยู่นานจนแม่เริ่มใจอ่อน 55555 และก็ให้ทำในที่สุดค่ะ ตอนปรึกษา คุณหมอที่เจอเป็นผู้ชายค่ะ คุณหมอถามก่อนเลยว่าอยากได้ชั้นตาแบบไหน? ก็ตัดสินใจไม่ได้ รู้แค่ว่าอยากมีตาสองชั้นและเอาที่เหมาะกับหน้า เลยบอกกับหมอว่าแบบไหนเหมาะกับหนูเอาแบบนั้นเลยค่ะ  

คุณหมอบอกเราว่าถ้าทำสูงเท่านี้ จะออกมาเป็นแบบนี้นะ และบลาบลาบลา สรุปคุณหมอแนะนำให้ดูดไขมันออก+ตัดหนังตาทิ้งค่ะ

คุณหมอบอกว่าจะทำชั้นตาสูงขึ้นมา 8 มิลค่ะ นี่แอบตกใจนะ รู้สึกว่า 8 มิลมันเกือบเซ็นนึง มันก็เยอะอ่ะ ก็ถามหมอว่ามันไม่หนาไปหรอ?  คุณหมอบอกว่า 8 มิลกำลังดี ถ้ามากหรือน้อยกว่านี้จะดูไม่เป็นธรรมชาติสำหรับเรา และแนะนำแบบกรีดยาว เพราะเรามีตาตกด้วย จริงๆ คุณหมอก็แนะนำให้เรายกคิ้วด้วยนะ แต่เรากลัวทำแล้วตามันจะโตเกิน ไม่อยากให้หน้าเปลี่ยนเยอะ อีกอย่างเราไม่สู้เรื่องราคา แพงไป(สำหรับเรานะ) เลยขอทำแค่ตาสองชั้นค่ะ ปรึกษาเสร็จก็ตัดสินใจทำวันนั้นเลย รอคิวผ่าตัดอีกเกือบ 3 ชั่วโมง

ก่อนผ่าตัดคุณหมอก็ส่งกระจกให้เราถือไว้ค่ะ แล้วก็ขีดๆ แตะๆ ตำแหน่งไว้ (ไม่มีภาพให้ดูในห้องผ่าตัดเลย ตอนนั้นไม่มีโทรศัพท์แล้ว ต้องเก็บไว้ในล็อคเกอร์ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ) จะบอกว่าตอนผ่าตัดเราไม่หลับนะ มองเห็นทุกอย่างและหมอก็ให้ลืมตาสลลับกันด้วย รู้สึกชาแต่ไม่รู้สึกเจ็บ เพราะฉีดยาชาค่ะ

หลังทำตาเสร็จทันทีค่ะ

หลังทำเสร็จก็นอนประคบเย็นต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ พอถึงบ้านก็เริ่มมีอาการปวดที่แผล เลยอัดยาแก้ปวดไป 2 เม็ด ก็ดีขึ้น



วันที่ 1-3



วันที่ 4-6

หลังทำตาวันแรกแอบตกใจ ไม่กล้าให้แม่เห็นหน้าเลย กลัวแม่จะกังวล เพราะตามันบวม และเริ่มรู้สึกหนักๆ ที่ตาด้วย



หลังทำตา 7 วัน (วันนี้ตัดไหมแล้ว)





หลังทำตา 14 วัน

สำหรับคุณแม่แรกๆ ก็บ่นว่าไม่คุ้นหน้า หน้าเปลี่ยนไรงี้ แต่ก็ชมว่าดูสวยขึ้น หน้าหวานขึ้น ไม่เสียแรงที่รอและฟังแม่บ่นเรื่องที่เราขอทำตามาเกือบ 2 ปี ^^

สรุปนะคะ
ผ่าตัดครั้งนี้เราทำ 2 อย่างค่ะ
1.ดูดไขมันออก
2.ตัดหนังตาออก (เรามีปัญหาหนังตาตก)

สภาพแผลตอนนี้ก็ตามภาพเลยค่ะ แผลแห้งสนิทแล้ว ไม่มีสะเก็ด เรื่องบวมช้ำก็ไม่มีแล้วค่ะ

ก่อนจบรีวิวขอฝากถึงคนที่สนใจอยากทำตาสองชั้น แต่มีปัญหาคล้ายๆ เราคือที่บ้านไม่เข้าใจ จะทำทำไม แบบนี้ดีอยู่แล้ว ต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจกันค่ะ ใช้เหตุผล ที่สำคัญต้องยอมรับผลที่จะตามมาจากการตัดสินใจของตัวเองให้ได้ด้วย
.
.
.
.
.
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ ^^

oatrice

ดูธรรมชาติดี สวยค่ะ

coffee2

ตาหวานเลย

looknameng

เเต้งกิ้ว