พอเค้าห้องผ่าตัดไปจะมีพี่วิสัญญีแพทย์มาคอยดูแลแป้งอย่างดี พี่เค้าฉีดยาชาให้ยาสลบแป้งค่ะ จากนั้นภาพก็ตัดตื่นมาอีกทีที่ห้องพักฟื้นค่ะ ดูนาฬิกาแล้วหมอเชี้ยวใช้เวลาผ่าตัดยกคิ้วให้แป้งประมาณ 1 ชั่วโมงเองค่ะ เสร็จแล้วแป้งก็นอนพักที่คลินิกอยู่ประมาณชั่วโมงนึงแล้วก็นั่งแท็กซี่กลับบ้านได้เลยค่ะ
ก่อนกลับคุณหมอแนะนำการดูแลตัวเองหลังยกคิ้วให้แป้งฟังแต่ไม่ได้เป็นเรื่องยากสำหรับแป้งเท่าไหร่ค่ะ 555 แบบห้ามแผลโดนน้ำงี้ (ไม่ค่อยอาบน้ำอยู่แล้ว) งดออกกำลังกายหนักที่ต้องก้มๆเงยๆ (ไม่ค่อยออกกำลังกายอยู่แล้ว) ส่วนที่ต้องเตือนตัวเองบ่อยๆก็เรื่องกินยาตามที่หมอสั่งนี่แหละค่ะ (ปกติขี้ลืมมาก) หมอให้ยาแก้ปวดมาหลายแบบเลยค่ะ คือหมอเชี้ยวเค้าใส่ใจเป็นห่วงคนไข้มากกลัวว่าแป้งจะปวดจนนอนไม่หลับ คุณหมอไม่รู้ซะแล้วว่าแป้งถึกแค่ไหน 55555
แป้งถ่ายความเปลี่ยนแปลงของตัวเองหลังยกคิ้วมาให้ดูวันต่อวันเลยค่ะ *ขออภัยในความหน้าสดด้วยน้า 555*
วันแรกมันก็จะกลมๆหน่อยเนอะ 555 แป้งยังปวดตรงแผลนิดหน่อยเลยพันผ้าไว้ก่อนค่ะ
วันที่2 มีความแบ๊วขึ้นนิดนึงค่ะตาดูโตขึ้นแบบที่หมอเชี้ยวเคยบอกเลย
เอาผ้าพันออกแล้วค่ะ คิ้วกับตาไม่ติดกันแล้ววันนี้รอยช้ำตรงตาน้อยลงมากค่ะ
แต่งหน้าเบาๆแล้วก็คาดผม มีความแอ๊บเด็กมากค่ะ 555
เปลี่ยนแนวเป็นสาวแซ่บก็ได้อยู่น้า 555 ตาไม่ช้ำไม่ปวดแล้วด้วยค่ะ
หลีกหน่อยแม่จะโพส 555 แววตามีความแบ๊วๆเห็นชั้นตาชัดและก็สดใสขึ้นมากค่ะ แฮปปี้สุดดดด
ความหน้าสดของแป้งเอง 555 แค่ 7 วันรอยช้ำก็ไม่มีแล้ว
วันที่ 7 หลังยกคิ้วแป้งก็ไปตัดไหมแบบคิ้วท์ๆ 555 แล้วก็ได้ความรู้ใหม่จากคุณหมอเชี้ยวว่า การยกคิ้วของแป้งเป็นการเย็บแผลผ่าตัดแบบพิเศษของมาสเตอร์พีซคลินิกค่ะ หมอเค้าใช้วิธีส่องกล้อง Endoscopic ที่ทำให้แผลแป้งเล็กและบวมน้อยลงกว่าการใช้ไหมละลายแบบเดิม แป้งนี่อึ้งไปสักพักเลยค่ะ 555 แปลกใจว่าที่นี่เค้ามีเทคนิคดีๆให้คนไข้เยอะมากกก ประทับใจแป้งเลยค่ะ
พอผ่านไปสองอาทิตย์ทุกอย่างเริ่มเข้าที่ ไม่ปวดแผลแล้วค่ะ
1 เดือนหลังยกคิ้ว หน้าเด็กกว่าตอน 18 อีก 5555 เวลาถ่ายรูปสายตาดูสดใสขึ้นเยอะเลยค่ะ
พอแป้งเห็นรูปตัวเองที่ถ่ายไกลๆเห็นชัดเลยว่าระยะห่างของคิ้วกับตากว้างขึ้น ใบหน้ามีสัดส่วนขึ้นด้วยค่ะ
หน้าดูสดใส ตาก็โตๆแบ๊วๆมากค่ะ แป้งฟินมากเหมือนหน้าเด็กลงเยอะเลยยย