มารอแล้วค่ะ พร้อมมากค่ะ เฮ้ๆๆ!!
สักพักพนักงานก็ตามให้มาเปลี่ยนเสื้อผ้า รอเจอหมออาร์มอีกครั้ง
คนนี้ๆ “หมออาร์ม” แห่งมาสเตอร์พีซ คลินิก หล่อใส ใจดี
เปลี่ยนชุดเสร็จพนักงานก็พาเรามาหาหมออาร์มที่ห้องปรึกษาอีกครั้ง หมอก็จะอธิบายว่าจะวางซิลิโคนตรงไหน ผลออกมาจะเป็นยังไง หมอจะทำให้เราสูงแบบพอดี ไม่โด่งมาก เพราะถ้าเป็นสันมากจะดูปลอม ไม่ธรรมชาติ คุยอยู่ประมาณเกือบ 10 นาทีได้ เสร็จก็ให้เราขึ้นไปรอหน้าห้องผ่าตัด..
รอหน้าห้องผ่าตัดแล้วค่ะ
ระหว่างที่รอเขา.. คุยกับเราไปก่อนดีมั้ย ฮิ้วววววว 5555555
ถามว่าตื่นเต้นมั้ย มันก็นิดหน่อยนะ แต่รู้สึกดีใจมากกว่า อย่างที่บอกว่าเราฝันจะทำจมูกมานานแล้ว มันเลยเป็นความรู้สึกดีใจมากกว่านั่งถ่ายรูปไปประมาณ 6-7 รูป ก็ต้องเก็บโทรศัพท์ไว้ที่ล็อคเกอร์เตรียมเข้าห้องผ่าตัดค่ะ
ที่บอกว่าตื่นเต้นนิดหน่อยตัดทิ้งทันมั้ย 55555 พอเจอบรรยากาศจริง อยู่ๆ มันเสียววาบขึ้นมาซะงั้น พยาบาลบอกให้เราเดินขึ้นเตียงได้เลย ตอนนั้นมือเย็นละ นี่เรากำลังจะผ่าตัด!! จะเสริมจมูก!! แล้วพี่เค้าก็บอกว่าจะทำ painless ให้นะ หะ.. อะไรนะคะพี่ 5555555 คือศัพท์แพทย์หนูไม่เชี่ยวจริงๆ มันคืออะไร?? พี่แกก็ขำ บอกอ๋อๆ พี่จะวางยาเบลอให้ ตอนทำเราจะได้ไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าสักพักหนูรู้สึกอยากหลับก็หลับได้เลยนะ เราก็ค่ะๆๆๆ 555555 (ความเหนือของที่นี่มีเยอะจริงๆ เพราะยาเบลอที่ให้ก็ไม่ได้ให้มั่วๆ นะ ควบคุมโดยทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างดี) พี่เค้าก็ชวนคุยไปเรื่อย ให้เราหายตื่นเต้น สักแปปมันก็เบลอๆ งงๆ บอกไม่ถูก คุณหมอเข้ามาตอนไหนเกิดอะไรขึ้นต่อจำไม่ได้เลยตอนนั้น มีสติอีกทีก็ตื่นมาอยู่ในห้องพักฟื้น
นอนพักต่ออีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็ลงมาเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมกลับบ้านค่ะความรู้สึกตอนนั้นยังชาๆ อยู่ เลยยังไม่รู้เจ็บหรือปวดแผลอะไร มันจะออกตึงๆ เหมือนมีอะไรติดที่จมูกอยู่ตลอดเวลา ก่อนกลับพนักงานก็จะจ่ายยาให้ ส่วนใหญ่จะเป็นยาแก้ปวด ลดบวม ให้กินตอนที่รู้สึกปวดแผล แต่เรากินดักไว้ก่อนเลย เสร็จก็นั่งบีทีเอสกลับบ้านค่ะ สะเทือนน้อยกว่านั่งรถเมล์หน่อยนึง 555555
ต้องประคบเย็นลดบวม 2 วันแรก
เราประคบเย็นอยู่ 2 วัน เพราะแผลค่อนข้างบวม แต่พอเข้าวันที่ 3 ก็เริ่มยุบลงแล้วค่ะ แต่ไม่มีอาการปวดนะ ตั้งแต่กินยาแก้ปวดดักไปวันนั้นก็ไม่ต้องกินอีกเลย ยาที่คลินิกให้มาเรียกว่าไม่ต้องใช้เลย
|