|
เมื่อลูกรักมีฟันขึ้นซี่แรก…
ผู้ปกครองหลายท่านมักเข้าใจว่าฟันน้ำนมนั้นไม่สำคัญ เพราะเมื่อโตขึ้นฟันน้ำนมก็จะหลุดออกไปเอง พอลูกมีฟันน้ำนมผุก็ปล่อยไว้ไม่พามาพบทันตแพทย์ ซึ่งในบางครั้งพบว่าเด็กมีฟันผุลุกลามจนมีอาการปวด บวม และรับประทานอาหารไม่ได้ ทพญ.นภา ชวนชัยสิทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมเด็ก คลินิกทันตกรรม Dentique Dental Care ได้ให้ความกระจ่างเรื่องของฟันน้ำนมว่า ในความเป็นจริงฟันน้ำนมมีความสำคัญอย่างมากต่อเด็กๆ เพราะฟันน้ำนมมีหน้าที่สำคัญหลายอย่างทั้งในด้านความสวยงาม การพูดออกเสียง การบดเคี้ยวอาหาร ทำให้เด็กได้รับสารอาหารเพียงพอต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย นอกจากนี้ฟันน้ำมนยังมีหน้าที่กันเนื้อที่ให้ฟันแท้ ช่วยให้ฟันแท้เข้าสู่ตำแหน่งที่ถูกต้อง ป้องกันไม่ให้ฟันแท้ซ้อนเกอีกด้วย
ในการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กๆต้องเริ่มต้นตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกซึ่งฟันน้ำนมซี่แรกของลูกจะขึ้นเมื่ออายุประมาณ 6 เดือน โดยก่อนฟันจะขึ้นคุณพ่อคุณแม่จะเริ่มสังเกตเห็นเหงือกนูนๆ ตรงตำแหน่งฟันหน้าของขากรรไกรล่าง หลังจากนั้นไม่นานก็จะเห็นฟันน้ำนมสีขาวๆ โผล่ขึ้นมา ในขณะที่ฟันกำลังขึ้น เด็กบางคนอาจมีอาการเจ็บๆ คันๆ ที่เหงือก มีน้ำลายไหลเยอะ และชอบเอามือเข้าปาก เด็กอาจมีไข้และร้องงอเเงด้วย ซึ่งอาการดังกล่าวนี้ สามารถช่วยบรรเทาได้โดยนำยางสำหรับกัดไปแช่เย็นให้เด็กกัดเล่น หรือให้รับประทานยาแก้ไข้เมื่อเด็กมีไข้ อาการทั้งหมดจะหายไปได้เองเมื่อฟันโผล่พ้นเหงือกขึ้นมาแล้ว ไม่แนะนำให้ผู้ปกครองทายาชาหรือเจลทาตอนฟันขึ้น (Teething gel) เพราะอาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้
สำหรับการดูแลรักษาช่องปากตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกคุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มแปรงฟันให้ลูกตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น โดยเลือกแปรงสีฟันที่เหมาะกับช่วงอายุของเด็ก ขนแปรงมีความอ่อนนุ่ม หัวแปรงขนาดเล็กและด้ามจับ ถนัดมือคุณพ่อคุณแม่ร่วมกับการใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์สำหรับเด็กในปริมาณพอเปียกแปรงเล็กน้อยแปรงฟันทั้งด้านในและด้านนอกให้สะอาด หลังจากนั้นให้ใช้ผ้าอ้อมสะอาดเช็ดฟองออกให้หมด เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กกลืนยาสีฟัน
นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบทันตแพทย์สำหรับเด็กตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นและไม่ควรเกินอายุ 12 เดือน โดยทันตแพทย์จะตรวจฟันและแนะนำวิธีการดูแลทำความสะอาดฟันน้ำนมและช่องปาก ประเมินความเสี่ยงในการเกิดฟันผุของเด็กแต่ละคนพร้อมทาฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุและนัดดูแลอย่างต่อเนื่องทุกๆ 3-6 เดือน
คุณพ่อคุณแม่เป็นบุคคลสำคัญที่มีส่วนช่วยในการสร้างประสบการณ์และทัศนคติที่ดีต่อการดูแลสุขภาพช่องปากของลูกๆโดยเริ่มต้นดูแลฟันของลูกตั้งแต่ฟันซี่แรก พาไปพบทันตแพทย์ตั้งแต่ยังไม่มีฟันผุ เพื่อให้ลูกๆ มีสุขภาพร่างกายและฟันที่แข็งแรงในอนาคต
|
|