ครั้งแรกกับการทำศัลยกรรมในชีวิต ที่เมโกะคลีนิค หมอเบญจวรรณ คะ

sunday1103

ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยนะคะ ว่าจะได้มาตั้งกระทู้หรือทำรีวิวจมูกให้คนอ่านอ่ะคะ เริ่มจากสวัสดีเพื่อนๆทุกคนนะคะ ดิฉันชื่อ ซัน คะ อายุตอนนี้ก็ 30 ปีคะ แต่เท่าที่จำได้อยากทำจมูกมานานแล้วคะ เรียกว่าเป็นความใฝ่ฝันหนึ่งเลยก็ว่าได้นะคะ แต่คิดอยู่นานนนนมากคะ กว่าจะตัดสินใจทำซะที ตั้งแต่สมัยเรียน ปวช.เลยก็ว่าได้นะคะ

พอตัดสินใจได้แล้วว่าทำที่นี้แน่นอน โทรติดต่อที่คอลเซ็นเตอร์เลยคะ อ๋อ...ลืมไป ก่อนหน้ามีคลีนิคเป็นที่น่าสนใจจะไปทำเยอะมากคะ ก็โทรๆหลายที่ เดินเข้าไปคุยกะหมอหลายที่เหมือนกันคะ สุดท้ายตัดสินใจที่เมโกะ คะ ....

วันนัดเข้าไปคุยที่คลีนิคนะคะ เป็นวันที่ 13 พ.ค. 2557 คะ พอเข้าไปที่คลีนิคนะคะ ก็คุยเรื่องคิวที่เร็วที่สุดคะ เพราะไม่อยากรอนานคะ

สรุปวางเงินมัดจำเพื่อจองคิว กับคุณหมอ เบญจวรรณ เพราะมีคิวหลุดที่ว่างแค่คิวเดียวที่เร็วที่สุดคือ วันที่ 20 พ.ค 2557 เวลา 18.00 น. นับไปก็ประมาณอาทิตย์หนึ่งคะ ถือว่าโอเคมากๆเลยคะ

แล้วติดตามกันต่อนะคะ



ภาพก่อนทำคะ

sorauia

ให้ข้อมูลได้ละเอียดจังเลยคะ  เลือกจะทำกับคุณหมอเบญจวรรณเหมือนกันคะ

sunday1103

อ่านต่อจากกระทู้ด้านบนเพื่ออัพเดทนะคะ

ค่าใช่จ่ายที่ต้องชำระมี  -เสริมจมูกด้วยซิลิโคลน อเมริกา เกรดเอ แบบนิ่ม  17,000 บาท
                            -ตะไบจมูก (ตอนแรกไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เจ้าหน้าที่บอกทำแล้วดีคะ ดีกว่าไม่ทำคะ...อืม..สร้างจุดขายชัวร์ แต่ก็นะ..เหมือนเสียงโฆษณามันดังขึ้นว่า ถ้าคุณทำตอนนี้จากราคา 6,000 บาท ลดเหลือ 3,000 บาท ทันทีคะ แล้วหากตัดสินใจตอนนี้นะคะ คุณจะได้จมูกที่มีสันสวยงาม ไม่เบี้ยวง่าย และหน้าดูมีมิติขึ้นคะ หากตัดสินใจช้า อาจจะต้องเจ็บอีกรอบมาทำตะไบข้างจมูกได้นะคะ...อะไรทำนองนี้คะ ^_^ ไอ้ราคาน่าสนใจคะ เพราะว่ามันลด แต่ที่น่าคิดคือ นิสัยตัวเองคะ เพราะถ้าทำแล้วเดียวต้องกลับมาตะใบจมูกให้มีมิติอีก เจ็บอีก งั้นเป็นอันว่าเอ้า...ทำด้วยล่ะกันนะ...ซึ่งความจริงคุณน่าจะทำพร้อมกับจมูกโดยที่ฉันไม่จำเป็นต้องจ่ายเลย แต่คุณจะให้จ่าย ไม่งั้นคุณแค่ยัดซิลิโคนแล้วก็จบ จมูกฉันก็ไม่สวยดิ่ ก็ได้ยอมจ่ายแล้วกัน) 3,000 บ.
                             -ทำหยดน้ำ  เพิ่มอีก 3,000 บาท (อยากโหวงเฮ้งดี มันก็ต้องทำหยดน้ำดิ่ เพราะจะได้อุดมสมบรุณ์ตามตำรา และอีกอย่างจะได้ไม่ตกเทร์นเกาหลีกะเขาด้วยนะ
                             -ยาและเจลทำความเย็น ประมาณเก้าร้อยกว่าบาทเกือบพันหนึ่งอ่ะ รวมโน่นนี้นั้นแล้วเบ็ดเสร็จ  25,000 บาท คะ

   แต่ทำการมัดจำและชำระส่วนปลายไว้ ให้เหลือตัวเลขกลมๆไว้พอคะ

sunday1103

กลับมาเครียดจัด สิวขึ้นคะ ตรงสันดั้งพอดี...อั้ยย่ะ ตายล่ะหว่า ทำไงดีเนี้ย อีกแค่หกวันเองก็จะขึ้นเขียงแล้ว รีบเลยคะ ไปกดสิว เม็ดเดียวที่สันดั้ง ตรงคลีนิคแถวสยามเซ็นทรัลเวิร์ค คะ สิวเม็ดเดียวยังกะปล้นคะ จำชื่อคลีนิคไม่ได้อ่ะ ที่ชั้นสอง ที่มีพลอย เป็นพรีเซ็นเตอร์อ่ะ ตอนแรกบอก 300 เราก็โอเค พอเสร็จ บอกหมอกดสิวและฉีดสิวให้ด้วยนะคะ  ราคาทั้งหมด 850 บาทคะ พร้อมยาแต้มสิวหลอดเล็กๆมาให้(ซึ่งแต้มสิวที่เกิดใหม่ไม่เห็นจะหายเลยอ่ะ) ก็ต้องยอมจ่ายแบบงงๆคะ แต่ก็ทำไงได้หว่า ฉันจะทำดั้งอีกหกวัน ถ้าสิวฉันไม่หายตามที่คลีนิคนี้บอกว่า สองถึงสามวันก็หายแน่นอนคะ สัญญาคะ ตูจะมาถล่มแน่...(เจ้โหดมาเองเลยอ่ะ..5555) เนี้ยล่ะนะชีวิต...ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อดั้งอันเดียวแท้ๆเลย ก็ได้แต่หวังว่าทำออกมาแล้วมันจะสวย โหวงเฮ้งดี รับกับใบหน้าและไม่มีปัญหาตามมาเหมือนคนที่เขาโชคร้ายไปเจอก็แล้วกันนะ ไม่อยากจะต้องนอนขึ้นเขียงเจ็บตัวบ่อยๆ เพราะดั้งอันเดียวอ่ะนะ ก็ต้องรอดูกันต่อไปคะ ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น ...

sunday1103

ถึงวันนัดหมายคะ วันที่ 20 พ.ค. 2557

ตื่นเต้นๆๆๆๆๆๆ  วันนี้แล้วสินะที่เราต้องขึ้นเขียงมีดั้งใหม่ซะที จะได้จมูกใหม่แล้ววันนี้ ดีใจผสมป่นกลัวไปหมดคะ ระหว่างรอไม่เป็นอันทำอะไรเลยอ่ะ รอนานมาก จากนัด หกโมง ทำจริง สองทุ่มกว่าคะ หิวข้าวมากๆเลย เพราะตื่นเต้นกินไรไม่ลง แต่พอไปสักพักมันเริ่มหิวอ่ะดิ่ ผสมกับเซ็งๆ เมื่อไหร่เราจะได้ทำให้เสร็จซะที ขี้เกียจรอล่ะ เพราะมันหวาดเสียว อารมภ์บอกไม่ถูก ทำๆไปซะก็สิ้นเรื่อง เจ็บก็ให้มันเจ็บ ไม่อยากอารมภ์เก้ๆกังๆ แบบนี้อ่ะ  เพราะเนื่องจากมีเคสก่อนหน้านี้เป็นเคสแก้คะ เลยนาน คิดว่าอย่างนั้นน่ะนะคะ แต่ก็ดีคะ เพราะมาคิดได้อีกที ตอนที่พอถึงคิวคะ นอนคว้านทำความสะอาดจมูก และกินยาแก้เครียดไปสองเม็ดสีฟ้าๆ เลยได้สติว่า ถ้าเราไม่รอนานเราคงเป็นลมสลบแน่เพราะกลัว แต่ที่เรารอนานและจนยั่วโมโหเลยเกิดแรงฮึดขึ้นก็ดีเหมือนกันนะ เพราะเราจะได้กล้าขึ้นอ่ะ

พอพยาบาลให้กินยาแก้เครียดสีฟ้าสองเม็ด อยากขอสักสามเม็ดอ่ะ เพราะเราไม่เห็นหายเครียดเลย เฉยๆ อ่ะ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ไม่มึนเหมือนที่คนอื่นเขาบอกเลย ไม่ง่วงด้วย ไม่อะไรเลยอ่ะ...สงสัยมันคงใช้กับเราไม่ได้มั้ง ^_^



อันนี้รอคุณหมอคะ



เตรียมรอผ่าตัดคะ ทำความสะอาดจมูกและตัดขนจมูกคะ ตอนทำความสะอาดก็กลัวล่ะคะ แต่ก็สู้ตายคะ ^_^

sunday1103

อันนี้ออกจากห้องผ่าตัดถ่ายหน้าห้องผ่าตัดเลยคะ  ตอนเจอหมอเบญจวรรณ คุณหมอน่ารักคะ ตัวเล็ก เหมือนเราเลยอ่ะ แล้วคุยเก่งด้วยคะ ถามว่าเจ็บไหมเหรอคะ เจ็บคะ ตอนฉีดยาชานะคะ และพอหลังจากนั้นก็ไม่เจ็บล่ะคะ แต่รู้สึกได้หมดคะ เพียงแต่ไม่รู้ว่าทำอะไรคะ เพราะหลับตา ก็เล่นแยงไฟห้องผ่าตัดซะเต็มเบ้าตา คงต้องหลับตาโดยอัตโนมัติไม่ต้องให้บอกคะ เพราะไม่งั้นตามีปัญหาแน่ ระดับไฟขนาดนั้น  คุณหมอไม่ปิดตาคะ ผ่าคลุมสีเขียว เปิดหน้าเราคะ แล้วจะมีหมอกับพยาบาลช่วยกันคะ พยาบาลจะฉีดยาชาคะ และอำนวยความสะดวกให้คุณหมอคะ พยาบาลคุยเก่งมากคะ แต่คุยกันเองนะคะ เหมือนหมอจะออกห้าวๆ ดูไปดูมาเหมือนทอมคะ สาวๆพยาบาลคุยเล่นกับหมอเป็นกันเองดีคะ แล้วก็ชวนเราคุยด้วยคะ ไม่ค่อยรู้สึกเจ็บ แต่ถ้าเจ็บก็บอกหมอได้คะ เรากลัวเจ็บพอปลายๆมันเริ่มรู้สึกเจ็บเลยบอกว่าเจ็บ พยาบาลฉีดยาชาให้คะ แต่สงสัยฉีดไม่ถูกที่มันรั่วเข้าคอกลืนกินยาชาแทนที่ยาชาจะเข้าเส้นจมูกอ่ะ แล้วเข็มต่อมาค่อยเข้าเส้นจมูก เออ..ยังดีว่ะ



เสร็จแล้วหมอกับนางพยาบาลบอกสวยมากคะ โด่งเนอะ หน้าเปลี่ยนเลยคะ แล้วเอากระจกมาให้ดู ถามว่า พอใจไหมคะ สวยไหมคะ อันนี้พยาบาลถามคะ เราก็บอกมันโด่งเนอะ แล้วไม่เป็นอันตรายเหรอคะ ไม่ทะลุเหรอคะ คุณหมอบอกว่าไม่คะ ปลอดภัยคะ เพียงแต่ว่าตรงปลายหยดน้ำทำยื่นได้นิดเดียวนะ เพราะเนี้ยตรงนี้เราน้อย แต่ตรงสันจมูกพอตะไบแล้วมันทำให้โด่งได้ตามนี้ ปลอดภัยคะ

เลยถึงบางอ้อว่า อ๋อ ถ้าตะไปแล้วเนี้ย จากเราเนี้ยน้อยมันก็จะมีพื้นที่เพิ่มมาให้เสริมโด่งอีกนิด จัดระเบียบดั้งให้ได้รูปมากขึ้น

เสร็จแล้วหมอก็ปิดแผลและบล็อกจมูกเราคะ ตามภาพที่เห็น เดินออกมาจากห้องผ่าตัด ตัวเหมือนเวียนๆเหมือนกันนะ แปลกจัง เป็นอันว่า นัดหมอหกโมงเย็น ทำจริงสองทุ่มกว่า และเสร็จเอาประมาณ ห้าทุ่มกว่า เพราะออกจากห้องผ่าตัดมาพยาบาลให้มานอนประคบเย็นที่ห้องพักฟื้นข้างห้องผ่าตัดอีก ประมาณ ครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้คะ เรียกรถแท็กซี่มาส่งห้อง จากจตุจักร มาที่คอนโดแถวอ่อนนุช แถมแท็กซี่หาทางไม่เจออีก เบื่อๆไอ้พวกแท็กซี่เนี้ย พอให้ส่งที่ไหนมันบอกไม่รู้จัก ขนาดบอกอ่อนนุชนะคะ โลตัสตรงบีทีเอสสถานีอ่อนนุช มันมีโลตัสเดียวล่ะคะ ที่มีบีทีเอสอ่อนนุชน่ะ ถ้าไม่รู้จักขับตามถนนรถไฟบีทีเอสไปก็ได้ มันขับวนคะ แล้วมาถึงอ่อนนุชบอกให้มันเลี้ยวซ้าย มันเถียงว่าขวามีโลตัส เราก็อ่ะเลี้ยวขวาแต่หลงทางต้องยูเทริ์นมาเลี้ยวซ้ายตามเดิม กวนส้น....ซะจริง ยิ่งเจ็บดั้งอยู่นะ สรุปตามเคยนั่งแท็กซี่แพงเวอร์คะ เคยนั่ง ร้อยกว่าบาท เนี้ยมันฟาดไปสองร้อยกว่า

sunday1103

ภาพนี้สถาพตอนตื่นนอนของเช้าวันต่อมาคะ ได้นอนตอนเที่ยงคืนเกือบตีหนึ่ง ตื่นอีกทีประมาณ สี่โมงกว่าเกือบห้าโมงเช้าคะ นอนหัวสูงตามคำแนะนำคะ พร้อมประคบเย็นทั้งคืนคะ โดยเอาพาชุบน้ำแล้วบิดเอาไปแช่ตู้เย็นสักสองผืนและแช่เจลด้วยที่ซื้อกับคลีนิค เพราะจะได้ทันใช้คะ



ผลปรากฏว่าใช้ผ้าชุบน้ำแช่ตู้เย็นดีกว่าคะ หรือที่เรียกว่าผ้าเย็น รุ่นทำเองเนี้ยล่ะคะ ดีกว่าใช้เจลอีก เพราะเจลมันหนัก แต่มันเก็บความเย็นได้นานกว่านิดหน่อย พอมันหนักมันก็เจ็บจมูก เหมือนโดนกดน่ะสิ เพราะพยาบาลสอนว่าให้วางระหว่างคิ้วกับหน้าผากและจมูกกะตาคะ ถ้ามันหนักมันก็มีปัญหาสิ (อันนี้คิดเองนะ) แต่พอใช้ผ้าแล้วมันไม่เจ็บอ่ะ ไม่รู้สึกเหมือนโดนกดเท่าไหร่อ่ะ แถมรู้สึกทั่วถึงใบหน้าดีนะ โป๊ะไว้ทั้งคืนคะ พอรู้สึกตัวก็เปลี่ยน เพราะนอนหมอนสูงไม่พอ เอาที่รองคอที่เราใช้ตอนนั้งบนรถมารองอีกที เดียวหาว่าสูงไม่พอ  หมอนสองใบทับกัน มันก็นอนไม่สบายสิคะ ท่านผู้ชม มันก็เดียวหลับเดียวตื่น แต่ไม่เป็นไรจะได้ประคบเย็นไปด้วยในตัวอ่ะ



ภาพนี้เตรียมพร้อมนัดพยาบาลไว้ว่าจะไปแกะเผือกที่จมูกวันนี้ (แต่ไวเหมือนกันนะ ไม่รู้ว่าจะใส่ไว้ทำไม พอวันรุ่งขึ้นต่อมาก็ไปแกะออกล่ะ T^T ) เอามาร์คปิดจมูกปิดไว้แล้วไม่แคร์สื่อคะ เพราะไม่อยากโดนแท็กซี่หัวหมออีกล่ะ นั่งบีทีเอสเนี้ยแหล่ะ ง่ายและเร็ว ประหยัดตังค์ด้วย และไม่ต้องใช้ปากพูดมากด้วย เจ็บดั้งอยู่ ไม่ค่อยมีอารมภ์คุยมาก เพราะมันสะเทือนอ่ะ ถึงไม่เจ็บมากแต่มันก็สะเทือนนะ

sunday1103

ก็มองกันตามระเบียบคะ แต่ทุกคนก็เข้าใจเราคะ ไม่กล้ามองเรามากกลัวเราอาย เขาแกล้งทำเป็นไม่สนใจคะ แต่ก็รู้สึกดีคะ แต่ดันมีผู้หญิงคนหนึ่งอ้วนๆดำๆ หน้าตาเอาเรื่องเหมือนกันคะ ถามว่าพี่ไปทำจมูกมาเหรอคะ เราก็บอกไปตามตรงว่า คะ แล้วไม่มองหน้าเพราะไม่อยากจะคุยต่อคะ เขาก็ถามอีกว่าทำที่ไหน ก็ตอบไปว่า เมโกะ คะ เขาบอกทำตัวไหนคะ เราก็มองหน้าแล้วถามกลับว่า จะไปทำเหรอคะ เขาบอกว่าทำแล้วคะ คือ ดูไม่ออกว่าเขาทำเลยคะ เพราะมันดูเป็นธรรมชาติมากคะ(เข้าใจไหมคะว่า ธรรมขาติมากกกก จนดูไม่ออกเลยว่าทำคะ) แต่ไม่อยากถามว่าที่ไหนคะ เราเลยตอบไปว่า เป็นซิลิโคน อเมริกา เกรดเอ คะ ... รู้ไหมคะ น้องเขาบอกว่า พี่รู้ป่ะพี่ทำไอ้เนี้ยมันจะรั้งหน้าพี่ มันจะดึงหน้าพี่ มันไม่ดีคะ มันไม่สู้เกาหลีคะ บลาๆๆๆๆ(คิดในใจ ใครก็ได้เอาอีนี้ไปที...ก็ฉันทำแล้วจะมาพูดเพื่อ...อารายยย) ก็ไม่ฟังคะ จนน้องเขาเรียก พี่คะ พี่ ได้ยินไหมคะ นั่นแหล่ะคะ เลยบอกน้องเขาไปว่า ขอบใจนะ แต่ไม่พูดจะดีกว่า เพราะมันอยู่ในดั้งพี่แล้ว และตอนนี้มีเรื่องกังวลอีกเยอะแยะ ถ้าจะดีนะคะ อย่าพูดให้เพิ่มความหนักใจมากกว่าเดิมนะคะ ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือคะ .... เงียบไปเลยคะคุณน้องคนนั้น ก็มันจริงนิ่ ที่เมโกะเขามีแบบเดียว คือ อเมริกา แล้วฉันก็ทำแล้ว พูดเพื่ออะไรอ่ะ ให้คิดมาก แต่ก็ขอบคุณในความหวังดีของน้องเขาเหมือนกันคะ แต่ถ้าไม่พูดอย่างนั้น เขาคงจะเยอะกว่านี้คะ ^_^



ภาพนี้แกะเผือกออกเรียบร้อยคะ นับวันนี้เป็นวันที่หนึ่งของการติดตามผลคะ

sunday1103

วันที่ 1 แกะเผือกที่จมูกออก เห็นชัดว่าหน้าบวมคะ เหมือนอวตารเป็นที่เรียบร้อยคะ



ไม่ว่าจะเป็นด้านไหน ตอนนี้ก็อวตารคะ



ก็รอดูและติดตามดูกันอีกที ในวันถัดไปนะคะ เพราะตอนนี้ต้องขอตัวเข้านอนแล้วคะ เอาไว้มาอัพเดทใหม่นะคะ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้หน้าเราจะเปลี่ยนหรือเป็นยังไงบ้างนะ....


ใครที่รอติดตามผล รอติดตามได้ต่อตรงคอมเม้นด้านล่างได้เลยนะคะ

wawie

รอตอนยุบค่ะ หายไวๆนะค่ะ

sprayzi

ปูเสื่อรอชมหาย ยุบไวๆนะคับ

sprayzi

ปูเสื่อรอชมหาย ยุบไวๆนะคับ

cookiico

รอติดตามอยู่นะ

วร

ดื่มน้ำมะพร้าวเยอะๆค่ะ ช่วยลดบวดได้

narhmchlp

ทำออกมาสวยมากๆเลยค่ะพี่ ><
ตอนบอกคุณหมอพี่บอกว่าเอาทรงยังไงเหรอค่ะ?

so.nic

หายบวมสวยแน่นอนค่ะ

sunday1103

ขอบคุณสำหรับกำลังใจทุกคนเลยนะคะ     สำหรับทรงไหนที่บอกหมอเหรอคะ  ก็เสริมทั้งที ก็อยากให้มันมีไรเปลี่ยนแปลงบ้าง ก็อยากได้โด่งคะ แต่ขอแบบโด่งให้เข้ากับใบหน้า และไม่เป็นอันตราย และเน้นทำให้ได้โหวงเฮงด้วยนะคะ (อันนี้เป็นแรงบัลดาลใจในการทำเลยก็ว่าได้คะ ^_^ )  

เหมือนที่คนอื่นทำคะ เอารูปดาราที่เราคิดว่าอยากได้ทรงจมูกทรงนี้ไปให้ดู แต่มีหลายคนมากคะ แต่เน้นที่คนที่เขาทำแล้วเป็นดาราที่ประสบผลสำเร็จ เรียกว่า โหวงเฮงดีไปให้คุณหมอดูคะ  คุณหมอเบญจวรรณดูแล้ว บอกว่า มันก็พอทำได้นะ เป็นรูปร่างประมาณนี้ แต่คงไม่โด่งมากเหมือนเขา แต่จะทำให้เหมาะกับหน้าเราและอ้างอิงภาพที่เอามาให้ดูให้มีความคล้ายคลึงในแบบที่เป็นเราให้มากที่สุด

ก็ไม่รู้สินะ เพราะตอนนี้บวมอยู่ คงต้องรอดูตอนมันหายบวมถึงจะรู้ว่า เป็นตามที่คุณหมอ เบญจวรรณ แห่ง Meko พูดหรือป่าวนะคะ

แต่ก็ยอมรับอย่างหนึ่งคะ ว่าคุณหมอมือเบาเหมือนกันคะ และหน้าไม่ได้ช้ำหรือว่าบวมจนดูไม่ได้ ก็ยังสามารถเดินออกไปหาอะไรกินที่ห้างโลตัสหรือว่าตลาดได้ โดยไม่ต้องพกหมีแพนด้าไปตลาดด้วยน่ะคะ

มาดูกันต่อนะคะ  วันนี้เป็น วันที่ 2 ของการติดตามผลหลังจากการผ่าตัดเสริมจมูกไปคะ

sunday1103

ส่วนแบบที่เอาไปให้คุณหมอดูก็มีหลายคนคะ เช่นตามดาราเหล่านี้เลยคะ ที่เอาไปให้หมอดูนะคะ








ปล. มีแต่คนสวยๆ คะ และโครงจมูกก็ดูโต และมีผลทางโหวงเฮงดีด้วยคะ แต่สำหรับตัวเองคงไม่ได้เหมือนเขาหรอกคะ แค่ใบหน้าก็สิวและหลุมสิวเยอะมากคะ หลังจากทำจมูกเสร็จแล้วคงต้องบำรุงและทำหน้าต่อซะแล้วคะ เพราะหน้าสดมากคะ เวลารีวิวจมูก ^_^

Icethai

อธิบายได้ชัดเจนมากกค่ะ. ชอบตรงที่ขอความร่วมมือให้หยุดพูดจะดีกว่า อิอิ รอดูรีวิวยุนะะ

Zymeiz

รอติดตามค่ะ

bellalista

ที่ตะไบนี่ตะไบด้านข้าง หรือด้านบนคะ   
รอชมอัพเดทด้วยจ้า  หายไวๆค่า

sunday1103

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ สำหรับกรณีการตะไบจมูกนั้นนะคะ ไม่ทราบเหมือนกันว่าคุณหมอเบญจวรรณตะไบด้านข้างหรือว่าด้านบนคะ เพราะไม่ได้ดูคะ(หลับตาอ่ะ ไฟผ่าตัดตรงหน้ามันจ้ามากเลยคะ ^_^ ) แต่ก็รู้สึกว่าจะตะไบด้านข้างมั้งคะ หรืออาจจะทั้งสองอย่างก็ไม่แน่ใจคะ ตะไบแป๊บสักพักคะ แล้วก็นำซิลิโคนมาสอดใส่แล้วจัดระเบียบดั้งให้ได้รูปและเข้าที่คะ

เรามาอัพเดทกันต่อนะคะของอาการ วันที่ 3

sunday1103

ส่วนอันนี้ เป็นวันที่ 4 คะ



สังเกตุดูตรงเบ้าตาทั้งสองข้างจะมีสีออกเหลืองๆ คล้ำๆ นิดๆ คะ เหมือนคนนอนน้อย(คือนอนน้อยจริงๆคะ เพราะทำงานจนดึกก็ยังไม่นอน พอนอน ไม่ถนัดนอนหมอนสูงด้วยคะ เจ็บคอ นอนไม่สะดวก เดียวหลับ เดียวตื่นอีกคะ @_@ )  หน้าบวมคะ โดยเฉพาะแก้มทั้งสองข้างป๋องเลยคะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันคะ ป๋องและบวมแต่แก้ม ตรงตาหายบวมแล้วคะ ปรกติ ตอนนี้มีเหลือตรงหลักๆเลยคือ จมูกคะ มือไปแตะโดนมันเจ็บ แต่ลูบเบาๆ พอได้ไม่เจ็บและลดอาการปวดได้ด้วยนะคะ ถ้าเอามือลูบเบาๆ เหมือนนวดอ่ะ ส่วนตรงปลายก็ตึงมากคะ บางครั้งเหมือนจี๊ดๆ เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะการกินด้วยมั้งคะ ไม่แน่ใจว่ากินน้ำปลาได้ป่าว หรือต้องกินเกลือแทนน้ำปลา ผงชูรสด้วยอ่ะ เพราะเห็นบอกว่าห้ามกินของหมักดอง (เอ...อันนี้มันจะเรียกว่าเป็นของสแลง หมัก ดอง ด้วยหรือเปล่านะ) และก็ชอบกินน้ำคะ ไม่รู้อาการบวมของแก้มมันจะเกี่ยวกันหรือเปล่านะ เพราะน้ำมันจะทำให้บวมได้(เห็นคนแก่บอกมา) ตอนนี้แก้มกับดั้งตึงไปตามระเบียบ อย่างอื่นก็เริ่มเข้าที่เข้าทางบ้างแล้ว เช่น ตา ที่เคยบวม หายแล้วคะ แต่ตรงสีตรงเบ้าตากลับมาแทน .... ก็รอดูครบเจ็ดวันแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไปคะ เพราะเดียววันอังคารหน้า เห็นเจ้าหน้าที่บอกว่า ต้องกลับไปให้หมอดูอาการ และต้องส่งรูปไปให้ทางไลท์ เพื่อรับการรับประกันงานด้วยคะ

จากภาพสังเกตุแก้ม กับ เบ้าตาคะ จะมีสีคล้ำออกเหลืองๆ ช้ำๆ และแก้มบวมคะ



เอาไว้มาอัพเดทใหม่อีกครั้งคราวหน้านะคะ ^_^

sunday1103

อัพเดทล่าสุดนะคะ วันนี้เป็นวันที่เจ็ดแล้ว ไปหาหมอเบญจวรรณ และได้เจอตัวหมอแบบเต็มๆ ตาแล้ววันนี้ เพราะว่าครบเจ็ดวันหมอให้มาตรวจความเรียบร้อยคะ คุณหมอห้าวๆ คะ ตัวเล็ก หน้าตาน่ารักคะ จมูกสวยด้วย ^_^

คุณหมอบอกว่ามันจะยุบลงอีกนะ (แสดงว่าปรกติดี และมีสิทธิ์ที่จะโด่งกว่านี้) ก็ดีใจคะ ที่ไม่มีปัญหาอะไรคะ พร้อมตอบข้อสงสัยว่า สีที่เบ้าตากลายเป็นสีเหลืองเพราะอะไรคะ และต่อไปจะเป็นสีอะไร แล้วมันก็จะหายไป อาการตึงๆ จมูกและอาการเจ็บนิดๆ ก็เช่นกันคะ

สำหรับภาพวันที่ ห้า และวันที่ หก ภาพไม่ได้แตกต่างกับภาพวันที่ สี่ เลยคะ (มันอาจจะดีภายในก็ได้มั้งคะ) แต่ที่เปลี่ยนคือ ความรู้สึกเกี่ยวกับจมูกของเราคะ เพราะว่าจะรู้สึกเบาจมูกขึ้น และไม่หนักเหมือนวันก่อนๆคะ พอตอนนี้รู้สึกว่าจมูกตัวเองไม่โด่งอ่ะ หมอเลยบอกว่า มันโด่งมากจะทะลุ และมันจะยุบลงอีก แสดงว่าตอนนี้มันก็ยังบวมอยู่ และยังไม่เป็นรูปเป็นร่างดี ต้องรออีกอาทิตย์หนึ่งจมูกจะยุบลงและเห็นได้ชัดขึ้น พร้อมกับปลายจมูกที่ตอนนี้มันดูใหญ่ๆ อยู่ เพราะว่ามันยังบวมอยู่ เดียวมันจะยุบลงอีก แต่มันจะไม่ได้เล็กไปเลยนะ เพราะว่าโครงจมูกเราแต่เดิม(คงไว้อยู่..อะไรประมาณนี้คะ) อันนี้คุณหมอบอกคะ

ภาพวันที่ 7 อัพเดทคะ วันนี้ลองแต่งหน้าไปหาคุณหมอคะ

Beau_sweetdream

สวยจังค่ะ