|
ก้ผ่านไปด้วยดี อืม ตอนฉีดยาสี่จุดบนสันจมูก ไล่มาจากจุดบน กลาง ปลายจมูก ซึ่งพอถึงตรงนี้ผมกำหมัดแน่น แถมครางซี้ดดดดดดด เข็มสุดท้าย ปีกจมูกซ้าย หมอส่งเสียงมาเตือนมา อันนี้เจ็บมากนะ ทนให้ได้นะ โอแม่เจ้า มันเจ็บจริงๆเลยจอรจ ผมจำเป็นต้องกำหมัดค้างไว้ แล้วครางต่อ ซีดดดดดดด)
เสร็จแล้วหมอก้ paintด้วยpovidine ทั่วทั้งใบหน้าและรอบดวงตาอันกลมโตของผม รวมทั้งริมฝีปาก ผมไม่ได้ตั้งใจแอบชิมนะ แต่มันไหลเข้าไปเอง ขมสุดยอด แต่ตอนหมอจะกรีด ผมแอบนึกภาพตาม นั่นไง หมอถือมีดมาแล้วเว้ยยยย จะกรีดแล้วนะเว้ยย ทั้งที่รู้ว่ามันไม่เจ็บ แต่จินตนาการมันหลอกหลอน เลยบอกหมอไปว่า หมอครับ ผมกลัว เฮ่อ...หมอก็บอก ไม่ต้องกลัวนะ ไว้ใจหมอนะ ไม่เจ็บนะ โอเค ค่อยชื่นจายยย
ข้ามขั้นตอนนี้ไป เย็บแผลเสร็จหมอบอกให้ลุกนั่งบนเตียง แล้วก็ตรวจดุความเรียบร้อย หันข้างครับ ฮืม สวย
แล้วน้องผู้ช่วยก้พาไปนั่งที่เตียงอีกห้องหนึ่ง บรรจงเช็ดๆๆๆๆคราบpovidine สีเหลืองๆดำๆ ออกให้หมดไปจากใบหน้า แล้วก้ปิดกีอส ปิดเทปที่สันจมุก แล้วมาถึงขั้นตอนฉีดยาแก้อักเสบลดบวมที่ต้นแขนทั้งสองข้าง(สองเข็ม) ผมก็กลัวอีกแล้ว น้องบอกพี่หลับตาค่ะจะได้ไม่เห็น คือตอนนั้นถุกกระทำหลายอย่างพร้อมกัน ความรู้สึกเลยถูกเฉลี่ยไปหลายบริเวณ เลยถูกฉีดได้โดยง่ายดาย ไม่งั้นผมมีงอแงด้วย ฮ่าๆๆๆ พูดแล้วอายว่ะ
(เรื่องนี้ขอสารภาพ คือความจริงผมทำงานด้านสาธารณสุขนะครับ ต้องทำแบบนี้กับคนไข้มานานหลายปี ทั้งฉีดยา ทำแผล เย็บแผล กรีดแผลคนไข้ อื่นๆอีกจิปาถะ แต่ผมอะ เวลาจะถูกฉีดยาผมจะกลัวเข็มมาก ทั้งที่รู้ว่ามันไม่เจ็บ เพราะเข็มมันจะคมมาก แทงลงไปแทบไม่รู้สึก แล้วเวลาที่ผมฉีดคนอื่น ผมก็จะประเมินแทบทุกครั้ง ถามว่า เจ็บมั้ยครับ คนไข้แทบทุกคนจะชมว่าผมมือเบามาก)
ออกจากคลินิกบ่ายโมงกว่าๆ ขับรถเอ้อระเหยบ้าง เร่งบ้างเป็นบางครั้ง ขากลับใช้เวลานานกว่าขาไปประมาณครึ่งชม.ครับ ระหว่างทางมีแวะจอดปั๊ม เข้าห้องน้ำด้วยนะ แต่ก็ผูกmaskปิดไว้ กันผู้คนแตกตื่น ฮ่า
ตื่นมาวันแรกบวมมากตรงหว่างคิ้วกับข้างจมุก วันที่สองลดลง ลดลงๆๆๆๆ จนวันนี้วันที่ห้า ในรุปจะเห็นแก้มล่างผมมันยังยุ้ยๆๆอยู่นะครับคืออาการบวมมันเลื่อนลงข้างล่างเรื่อยๆ แล้วค่อยๆ fade out วันที่ผมเขียนรีวิวนี่วันที่หก หายบวมกว่าในรุปอีกเยอะครับ |
|