ดู: 8874|ตอบกลับ: 22
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[เสริมจมูก] ฉีดฟิลเล่อร์เสริมจมูกไปแล้ว...ควรทำความรู้จักกับณพลักษณ์ ศัยกรรมคลินิกไว้บ้างนะค

[คัดลอกลิงก์]

       มาแชร์ประสบการณ์ค่ะ ถ้าคุณหรือคนรู้จักเคยไปฉีดฟิลเล่อร์ต่างๆ ก็ควรรู้จัก ณพลักษณ์ ศัยกรรมคลีนิกไว้บ้างนะคะ เผื่อฉุกเฉินคะ เนื่องจากในวงการสถานบันเสริมความงามต่างๆ กำลังเฟื่องฟู คนที่ไม่เคยคิดอยากจะเสริมสวยอะไร ตรงไหน ก็มีจุดเอนเอียงมากขึ้น ด้วยโฆษณา ดารา เพื่อนกัน ทำกันให้สนุกสนาน และดูจะเป็นเรื่องธรรมดาในบ้านเราไปแล้วจริงๆ
       ฉันอายุ 36 ปี แล้วคะ มีสามีที่น่ารักมาก และลูกๆ ที่น่ารักอีก 2 คน ฉันยอมรับว่า อยู่ในความโบราณ และพอใจกับหน้าตาตัวเองพอประมาณค่ะ ไม่ได้คิดจะขวนขวายเสริมอะไร ผิวขาว รูปร่างก็ไม่ได้พิกลพิการ โดยรวมอยู่ในสภาพที่ยอมรับตัวเองได้ หน้าที่การงานดี แล้ววันที่มีจุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้น เมื่อปี 55 ฉันได้รู้จักกับน้องคนนึง น่ารัก นิสัยดี เราสนิทกันรวดเร็วมาก และในความสนิทน้องเค้าก็เป็นคนเปิดเผยตัวเองพอสมควร และเล่าให้ฟังว่า ตัวเธอแต่ก่อนหน้าเป็นเสี้ยวพระจันทร์ เราก็ขำเพราะไม่น่าเชื่อ เพราะภาพที่เห็นน้องเค้าจมูกโด่งมาก น้องเค้าเสริมซิลิโคนมาก่อน แล้วก็ฉีดทับด้วยฟิลเล่อร์ เพราะว่าที่หมอเสริมนั้นไม่โด่งถูกใจเธอนัก...จนฉันเองก็แอบแปลกใจ เวลาหมอเสริมโด่งก็ดูเด่นเกินไปเดี๋ยวคนอื่นรู้ พอธรรมชาติมากไป ก็รู้สึกเหมือนไม่ได้ทำ จริงๆ เห็นใจหมอเหมือนกัน เพราะเราเองก็ทำอาชีพเกี่ยวกับงานออกแบบ เราไม่สามารถนั่งในใจ จนกว่า ภาพจะออกมาแล้วเหมาะสมกับตัวเองหรือเปล่า แล้วเราก็รู้จักกันมากขึ้น สามีเองก็ปรามบ้าง แต่เราก็แอบคุยกันบ่อยๆ จนใจกล้าที่จะโทรไปนัดคิดเสริมจมูกที่คลีนิกแถวรัชดาที่นึง แต่ก็ปอดตรงพักฟื้น เพราะรู้สึกว่า ลูกคนเล็กอาจจะยังไม่พร้อมให้เราพักฟื้นได้ 3-4 วัน เราก็โทรไปยกเลิก แล้วก็ลบความคิดที่จะเสริมจมูกไปพักใหญ่เลย
       แล้ววันหนึ่ง...ฉันก็เริ่มรู้จักการฉีดโบท็อกซ์เข้ามาแทน ฉีดเพื่อลดริ้วรอย และหน้าเรียวตามสไตล์เกาหลี...มันมีแต่ข้อมูลดีๆ เยอะมาก และฉันก็เข้าไปคลีนิกมีชื่อแห่งหนึงก่อน และฉีดโบท็อกซ์มา หน้าเรียวและริ้วรอยหายไปสมใจจริงๆ หน้าฉันดูดีจนรู้สึกติดใจการฉีด แต่ก็เน้นแค่เติมโบท็อกซ์ ความไม่พอของฉัน มันเริ่มต้นตรงนั้นเอง ที่เสาะหาที่ฉีดถูกๆ ดีๆ เพราะคิดว่า คลีนิกใหญ่ๆ ชาร์จค่าบริการแพง ต้นทุนของไม่น่าจะเท่าไหร่ แล้วฉันก็ได้หาจนเจอเบอร์น้องคนนึงที่เค้าเน้นจุดขาย ฉีดโดยแพทย์มีใบบริการถูกต้อง สามารถเลือกสถานที่รับบริการได้ตามสะดวก เราก็เออ...แปลกๆ ใจ น้องเค้าเป็นเซลขายยานำเข้า และรู้จักกับแพทย์หลายท่าน และคิดแค่ค่าฉีดไม่ได้มีค่าบริการหน้าร้านใหญ่อะไรมากมาย เลยถูก ของ usa เหมาขวด 8,000 บาทฉีดได้ทั้งหน้าเลย เราก็โอเค น้องเค้านัดให้ไปคลินิกที่เมืองทองธานี อยู่ใต้คอนโด เรายอมรับว่า ก็แปลกๆ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรมาก และคิดว่า แค่ฉีดโบท็อกซ์ คงไม่ได้อะไรมากมาย
      

1377013419025.jpg (57.79 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 11)

คุณหมออรรถพันธ์ ผู้ผ่าตัดเอาสารอควาลิฟท์ออกมาจากจม ...

คุณหมออรรถพันธ์ ผู้ผ่าตัดเอาสารอควาลิฟท์ออกมาจากจม ...

1377013405099.jpg (235.01 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 6)

คุณหมอวางตำแหน่งที่สารนี้ไหลไปทั่วบริเวณที่ฉีด ...

คุณหมอวางตำแหน่งที่สารนี้ไหลไปทั่วบริเวณที่ฉีด ...
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-22 15:30:24 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

เล่าต่อ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย houngja เมื่อ 2013-8-22 15:32

       แล้วฉันก็ได้เข้าไปอยู่ที่คลินิกนั้น ยอมรับว่า ไม่ค่อยมั่นใจนัก การบริการก็แปลกๆ ไม่มีการทำประวัติ เราก็ถาม เค้าบอกว่า ไม่ต้องคะ เพราะว่า แค่ฉีดไม่ได้เปิดคอร์ส ถ้าเปิดคอร์สเราจะทำประวัติ เราก็ไม่ได้สนใจ เพราะยอมรับว่า ก็อาจจะมาฉีดแค่ครั้งเดียวก็ได้ ระหว่างทายาชา มีป้าคนนึงอายุประมาณ 50 ปลายๆ มาเสนอให้เราทำเสริมจมูกด้วยการร้อยไหม ยกกระชับด้วย เราก็ยืนยันว่า ไม่ทำ แล้วก็เริ่มขายเป็นฉีดฟิลเล่อร์ไหม ไม่เจ็บเลยนะ สบายๆ ฉีดแค่ 5 นาทีโด่งทันใจ เราก็บอกว่า ไม่เอา..อยากลองใช้บริการฉีดโบท็อกซ์ก่อน แล้วค่อยว่ากัน การคะยั้นคะยอทายาชาไว้ก่อน ฉีดไม่ฉีดค่อยว่ากัน แล้วเอากล่องฟิลเล่อร์อควาลิฟท์มาให้ดู และบอกว่า เค้าฉีดกันทั่วไปนะ ดูรูปสิว่าใช้ฉีดกับใบหน้า เราก็เออ ออ ไปกับเค้า แว่บนึงก็อยากลองขึ้นมา เพราะน้องที่สนิทกันเค้าฉีดก็ไม่ได้มีผลข้างเคียงอันใด แต่ลืมไปที่ว่า ฉีดตัวเดียวกันหรือไม่อันนี้ไม่รู้เลย ก็เลยลองให้เค้าฉีดดู ตอนแรกเค้าเสนอมา 4-5 cc. เราบอกไม่เอา เยอะไป 2 cc. แค่ตรงสันและปลายหยดน้ำก็พอ...แล้วมันก็เป็นการตัดสินใจที่ยังคงคาใจอยู่อย่างนั้น แม้กล่องที่เห็น แต่ไม่เห็นการดึงสลิงออกจากขวด ก็คาใจ เพราะยิ่งมาอ่านคนอื่นๆ ที่มันต้องเห็นขวด เห็นเลขทะเบียนการนำเข้าข้างกล่อง ฯลฯ อะไรก็ได้ที่เป็นข้อมูลเพิ่มความมั่นใจ มันไม่รู้อะไรเลย แม้แต่ อควาลิฟท์ที่เค้าฉีดนั้น ใช่อควาจริงหรือเปล่า ฉันก็ตอบไม่ได้เต็มปาก เพราะมันคือ การพูด และพูด และพูด
       ฉันจิตตก ตั้งแต่วันที่ฉีด แต่เป็นความโชคดีที่ไม่มีผลข้างเคียงในการฉีดมา เช่น ตาบอด พล่ามัว หรืออาการบวม แดง หนอง ไม่มีเลย แต่มันอยู่ในจิตใจฉันต่างหากที่เริ่มป่วย ความสวยงามมันก็มีพอประมาณ และเริ่มคิดที่จะเอาออก...การเอาออกเราก็ต้องทราบสารนั้นชัดเจน คุณหมอต่างๆ ที่ลงข้อมูลไว้ในเน็ต ไม่มีใครกล้ารับประกันในการฉีดสลาย เพราะท่านไม่ใช่คนฉีด...เออ...มันจริง แล้วฉันก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการนำสารนี้ออกไปให้ได้
      ฉันเคยเดินเข้าคลีนิกใหญ่แห่งหนึ่งที่ห้างดัง...ศัยกรรมความงาม...ฉันถามเค้าว่า จะสามารถผ่าเอาฟิลเล่อร์ออกให้หน่อยได้ไหมคะ แล้วเสริมใหม่ เจ้าหน้าที่ตอบหน้าเมินๆ ว่า ไม่ได้...มันเลวร้ายที่สุด ในคำตอบที่ไม่ง้อลูกค้า ไม่คุย แย่มากกกก...ฉันอายที่มันกลายเป็นปัญหาโลกแตกไปเสียแล้ว
      จนฉันเสริชเจอ ณพลักษณ์ ศัยกรรมคลินิก ตอนเปิดใหม่ๆ ฉันก็คิดเหมือนคนอื่นๆ เค้าจะมาสนใจอะไรกับคนมีความทุกข์ เพราะนี่มันไม่ใช่หน้าเค้า...ฉันดูไปเรื่อยๆ ทีละหน้า ทีละภาพ และเปิดให้สามีดู เพราะสามีก็รู้ว่า ฉันไม่สบายใจ เค้าเองก็ไม่สบายใจเพราะกลัวว่า เราจะเป็นอะไรไปเช่นกัน และตัดสินใจในเวลาไม่ถึงเดือน โทรนัดปรึกษาทันที  คุณเฟียต ใจดีอย่างที่ทุกคนโพสท์ไว้เลย และฉันก็เข้าใจว่า ท่านคงฟังปัญหาพวกนี้มาเยอะมาก ท่านให้เราท้าวความเพียงเล็กน้อย เพราะทุกวันก็คงมีคนเล่าเรื่องราวซ้ำๆ นี้ให้ท่านฟังทุกวันและ ก็จบที่ท่านก็ต้องเหนื่อยไปกับคุณหมออรรถพันธ์ ที่เป็นหมอใหญ่ ที่ต้องทำการผ่าตัด รายแล้ว รายเล่า ที่ท่านทำด้วยความเมตตาจริงๆ เราสังเกตุได้จากแววตา การพูดคุยตรงไปตรงมา ใส่ใจความรู้สึก และไม่ซ้ำเติม พร้อมกันแนะทางให้เราพยายามช่วยบอกคนอื่นๆ ถึงภัยร้ายนี้ด้วย ท่านมีจิตทำทานนี้ด้วยใจจริง
      
   
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-22 15:33:22 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
     ฉันได้คิวผ่าตัดวันที่ 20 ส.ค.56 ที่ผ่านมา ฉันตื่นเต้น และอ่านข้อมูลของคนที่ผ่าตัดที่ ณพลักษณ์มาพอสมควร แต่ความวิตกก็มีเป็นธรรมดา...แต่ในความวิตก ฉันมีความมั่นใจในมือคุณหมอและคุณเฟียตที่จะทำให้ฉันคลายทุกข์นี้ไปได้แน่นอน และเป็นเพียงที่เดียวจริงๆ ฉันเคยเห็นในยูทูปเกี่ยวกับเสริมและแก้จมูกฟิลเล่อร์ เค้าบอกว่า เอาฟิลเล่อร์ออกแค่ 1 ชั่วโมง และเสริมใหม่ได้เลย แป้บเดียวก็เสร็จ คำพูดที่คล่องแคล่วดูโปรมาก...แต่ทำให้ฉันกลัวเรื่องความละเอียดของงาน...เมื่อเทียบกับคุณหมออรรถพันธ์ ทุกคนเข้าห้องผ่าตัดใช้เวลา ผ่าตัด แคะ แงะ ดูการหลงเหลือ ไหลผ่านของสารนั้น แล้วเอาออกมา เป็นเวลากว่า 5 ชม. มันง่ายขนาดนั้นเลยหรอกับความทุกข์บนจมูกเราที่อยู่มาเป็นปี จะจบแค่ 1 ชม. ก็คงต้องใช้การไตร่ตรองกันดูนะคะ
      ตอนนี้ฉันรู้สึกยินดีมากที่สิ่งนั้น มันหายออกไปจากชีวิตของฉันได้ และคงเป็นบทเรียนกันไปอีกนาน ฉันสเตตัสให้เพื่อนในเฟสบุคให้รับรู้การเป็นไปทุกอย่างอย่างไม่อาย เพราะมันคือเรื่องจริง ทำไมเราต้องรอให้คนอื่นไปเจอมาบ้าง แล้วมารวมตัวกันสมน้ำหน้า มันไม่สนุกหรอกความทุกข์ของคนมันย้อนมาเบียดเบียนเราในทางอื่นๆ ได้ จิตที่เป็นทาน เป็นกุศล โลกเราถึงจะสงบสุขได้ และฉันหวังว่า เรื่องราวของฉันจะเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจของใครหลายๆ คนที่จะไปเสริมจมูกฟิลเล่อร์ ฟิลเล่อร์ไม่ได้อันตราย ถ้าใช้ถูกที่ ถูกตำแหน่ง และถูกต้อง ที่สำคัญถูกคน...ที่จะนำมาใช้กับเรา ศึกษาให้ลึกๆ ก่อนที่จะตัดสินใจพลาดแบบฉัน

       และขออย่าได้คิดว่า ดิฉันเป็นนายหน้าของคลินิกนะคะ ถ้าเค้าจะจ้างหน้าม้าเยินๆ เค้าจ้างดาราเกาหลี หรือซุปตาร์ดังๆ คุ้มกว่ามาจ้างใครอย่างฉันที่ไม่มีคนรู้จักมาขายอะไรแบบนี้ และอย่าอายที่จะเปิดเผย...เพราะมันยิ่งทำให้คนชั่วๆ เลวๆ หากินบนความทุกข์ของคนอื่น ฉันเสียเงินฉีด 3,000 บาท และต้องมาเสียหาย เสียสุขภาพจิต เสียเงินรักษาตัวอีก 65,000 บาท ซึ่งมันไม่ควรจะเสียเลย ถ้าไม่ต้องมาเสียรู้ มิจฉาชีพพวกนี้นะคะ
สู้ๆ นะค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-22 16:23:04 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ต้นฉบับโพสต์โดย patt_fino เมื่อ 2013-8-22 15:57
สู้ๆ นะค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ

ขอบคุณนะคะ ตอนนี้ต้องเรียกว่า สบายใจค่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ เราก็แก้มาแล้วรอบหนึ่ง จากโด่งเป็นสันกลายเป็นแบบธรรมชาติ แต่ธรรมชาติจนไม่มีคนรู้ว่าทำจมูกมาแบบว่ามันไม่โด่ง อะ  อยากทำใหม่แต่หาเวลาพักฟื้นไม่ได้  สู้ๆ นะค่ะ
ฮือๆ ดีค่ะที่นำเอาความรุ้ดีๆมาแชร์ แต่ว่าพี่หนักแน่น มั่นคงดีจังเลย หนุยังสองจิตสองใจอยุ่  อยากสวยแต่ก้กลัว เอาไงดีหน่ออออ แก้ใหม่หรือฉีดฟิลเลอดี แต่ต้องหาที่ดีๆที่รับรองใช่ไหมค่ะ
ขอบคุณคะ ที่เอาเรื่องราวมาบอกกล่าว เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ให้กับเพื่อนๆ หายเร็วๆนะคะ
ขอบคุณคะ ที่เอาเรื่องราวมาบอกกล่าว เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ให้กับเพื่อนๆ หายเร็วๆนะคะ
11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-22 21:56:06 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ต้นฉบับโพสต์โดย aonhamtaro เมื่อ 2013-8-22 20:07
ฮือๆ ดีค่ะที่นำเอาความรุ้ดีๆมาแชร์ แต่ว่าพี่หนักแน่ ...

ก่อนฉีดจริง อยากให้ดูรีวิวฟิลเล่อร์ต่างๆ ที่ เฟสบุค ณพลักษณ์ ศัยลกรรมคลีนิกดูการตกค้างของสารเหล่านั้นดูนะคะ ว่าจะเลือกตัวไหนค่ะ ส่วนงานผ่าตัด เสริมจมูกปกติง่ายและเจ็บน้อยมากๆ แทบไม่รู้สึกแค่ยาชาเข็มแรก บางทีอาจจะไม่เจ็บเลย แต่สำหรับงานแก้เอาสารนี้ออก ความเสียหายมากกว่า 3 เท่าที่ต้องทำนะคะ คุณหมอไม่ได้บอกฟิลเลอร์ไม่ดี แต่มันต้องเลือกให้ถูกต้องทุกอย่างถึงจะปลอดภัยค่ะ
เพื่อนผมก็ฉีดฟิวเลอร์ตัวนี้ มีแต่ปัญหา
ขอบคุณครับที่นำเรื่องราวจะบอกว่าดีก็ไม่ได้ แต่มันเป็นประโยชน์อย่สงมากเลยทีเดียว เพราะทุกคนต้องการดูดี แต่เรื่องราวแบบนี้มันจะได้ข้อคิดและ คิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป
เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจหยุไม่น้อยเปนประโยชน์เปนอย่างมากเลยค่ะ สู้ๆนะค่ะ
พอพูด คลินิกเสริมสวยใต้ คอนโดเมืองทองแล้วสยอง เกือบไปทำแล้วล่ะ พอเดินเข้าไป สังหรณ์ใจถามเหมือนไม่ใช่หมอฉีด แถมเชียร์นี่นั้นโน้น ถอยดีกว่า บอกวันหลังมาใหม่ เกือบเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัวแล้ว...
ระวังน๊า  อย่าเผลอไปฉีดเด็ดขาดเลย..  เรา โง่โดนหลอกฉีดมาแล้วครั้งนึง สุดท้ายก็เกิดปัญหา  ต้องวิ่งโร่ไปหาทางเอาออก  เจ็บมาก...เสียเงินเยอะอีกหลายเท่า แถมออกมาหน้าไม่เหมือนเดิม จิตตกอยู่พักใหญ่ แต่  ก็ทำจัยได้แล้วค่ะ
17#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-23 22:50:40 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ทุกคนอยากสวยดูดีเป็นเรื่องปกติของคนทั่วไป ไม่ใช่โง่หรือไม่โง่ แต่มันอยู่ที่การทำมาหากินบนความทุกข์ของคนอื่น ขอใช้คำว่า พวกนรกแล้วกันนะคะที่หากินกับชีวิตคนอื่นโดยอยากได้แต่เงินทอง ไม่ได้คำนึงถึงเบื้องหลังของคนๆ นั้น ว่า เค้าเป็น พ่อ เป็นแม่ เป็นลูก เป็นญาติของใคร ถ้าผลข้างเคียงมากๆ จะรับผิดชอบชีวิตเค้าได้ไหม คนที่กำลังคิดว่า ตัวเองฉลาดที่เห็นคนพลาด กลายเป็นคนผิด ที่แส่หาเรื่องกันเอง อยากให้เปลี่ยนวิถีคิด เพราะถ้าคนดีๆ ไม่ช่วยกันระวัง ช่วยกันแชร์ ช่วยกันเตือน คนชั่วๆ ก็จะลอยนวลและใกล้ตัวเราขึ้นทุกทีนะคะ ดิฉันไม่ใช่คนไม่อายที่มาเปิดเผยตัวเองให้ใครๆ ได้รู้ แต่ดิฉันคือผู้เสียหาย ที่ยังมีจิตสำนึกที่อยากให้ทุกคนเดินทางที่ถูก เท่าที่จะช่วยเพื่อนมนุษย์ได้ ไม่ได้อยากให้ใครมาโดนเหมือนกันแล้วคอยสมน้ำหน้า ดิฉันเป็นคนตรงๆ ทั้งต่อตัวเองและทุกคนตรงหน้า จึงรู้สึกว่า ฉันกำลังโดนมิจฉาชีพมาหลอก อยากให้ช่วยกันเตือน เพื่อพวกนี้จะไม่มาอยู่เบียดเบียนในสังคมคนดีๆ ให้ต้องมาจิตตกตามกัน อยากให้คนอื่นเป็นเหมือนกันจะได้หัวอกเดียวกัน ดิฉันทำไม่ได้จริงๆค่ะ
ขอบคุณนะคะ ที่นำเรื่องราวมาแชร์ประสบการณ์บอกต่อกัน
แต่ ปล.แอบสงสัยนิสนุง คุณหมอเอามือเปล่าๆจับสารฟิลเลอร์เลยหรอคะ
ไม่เห็นใส่ถุงมือเลยอ่ะ ^^
ขอบคุณนะครับที่มาแชร์ประสบการณ์ให้ทุกคนได้ระวังกันไว้
เป็น case study ที่ดีมีประโยชน์มาก และขอนับถือที่ได้เข้ามาโพสบอกต่อๆกัน ถ้าใครคิดจะฉีดแล้วได้อ่านก่อนถือเป็นวิทยาทานที่ดีมากเลยคะ
21#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-8-28 13:50:35 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
อย.ออกมาเตือนแล้วนะคร้าาาว่า สารฟิลเล่อร์ห้ามฉีดที่จมูกและคางคร้าาา...ทั้งถูกกฏหมายและไม่ถูกกฏหมาย ใครที่กำลังลังเล อย่าเสี่ยงเลยคร้าาา มันไม่คุ้มจริงๆ ถ้าฉีดวันนี้ไป 5 นาที สวย แต่หลังจากนี้ คุณจะจิตตกไปอีกหลายปี กว่าจะมาเอาออกด้วยความกลัวต่างๆ นานา แต่มันก็ต้องเอาออก และทุกอย่างไม่ได้เริ่มต้นทำเพื่อความสวยงามอีกต่อไป เพราะคุณกำลังจะเดินเข้าสู่การเป็นโรคเนื้องอกในจมูกแทน เพราะปฏิกิริยาการสร้างผังผืดมารัดก้อนฟิลเล่อร์นี้ไว้ให้แนบแน่น และใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ รอการปะทุ ตามแต่บุคคลนั้นๆ ที่จะแพ้สารไหนที่ฉีดมาให้เป็นพิเศษ
สรุปอย่าเสี่ยงเลยนะคะ
ส่วนที่คุณหมอให้จับก้อนเนื้องอกผสมฟิลเล่อร์ด้วยมือเปล่า ตอนแรกก็สงสัยอ่ะนะค่ะ แต่เราจับหลังการผ่าตัดต่างๆ เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้วกว่า ครึ่งชั่วโมงแล้วคุณหมอค่อยเอามาให้เราดูพร้อมสาธยายต่างๆ เกี่ยวกับตัวมันว่ามันใช่ของเราใช่ไหม ลองจับดูนะ มันหยุ่นๆ ที่คุณเคยจับมันอยู่ทุกวันใช่ไหม ถ้าสัมผัสผ่านถุงมืออาจจะไม่รู้สึก ก็เลยจับมันมือเปล่า เสร็จแล้วก็ล้างมืออะคะ ไม่ได้เอามาใส่จมูกไว้ที่เดิมนะคร้าาา...ที่นี่เค้าอนามัยจิงๆค่ะ นี่ก็ครบ 8 วันแล้วค่ะ ทุกอย่างปกติดี เราไปทำงานได้ปกติ โดยมีผ้าปิดจมูกอนามัยไว้สักหน่อย กันเชื้อโรคเข้าจมูกนิ้ดนึง...นอกนั้นเหตุการณ์ปกติค่ะ^^
ว่างๆ จะเล่าเรื่องขั้นตอนการผ่าตัดให้ทราบนะคะ จริงๆ การผ่าตัดของคุณหมอ ก็จะแพทเทิร์ตเดียวกับที่คนอื่นๆ เล่ามาน่ะคะว่า อนามัยมากกก สะอาดสุดๆ เท่าที่เคยสัมผัสมาค่ะ
สรุปอย่าฉีดเลยนะคะ อะไรที่มีมันเป็นของเหลว และมีการไหลตัวไปได้เอง มันน่ากลัวมากค่ะ เพราะการไหลมันไม่มีรูปร่างนะคะ
ขอบคุณที่นำมาเล่าสู่กันฟังนะค่ะ  เป็นกำลังใจให้นะ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้