|
ผมอ่านหลายกระทู้ที่รีวิว ผลการทำศัลยกรรมจากหลาย ๆ หมอมานานเกือบ 6 เดือนแหนะครับ (นานเวอร์ไปไหมครับ) จนผมตัดสินใจแล้วว่าจะทำกับหมอภู (ภูนิศาคลีนิค) ก็เลยหาโอกาสบินตรงจากเชียงใหม่ไปหาหมอถึงคลีนิคเลย เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2554 คลีนิคหมอภูจะว่าหายาก ก็ยาก จะว่าหาง่ายก็ง่าย ครับ ก็นั่งแท็กซี่ไปลงที่หน้าพาต้าปิ่นเกล้า รถแท็กซี่จะจอดตีนสะพานลอยข้ามถนน ตรงนั้นจะมีเซเว่น (หรือ แฟมิลี่มาร์ท จำไม่ได้) ก็เดินขึ้นสะพานลอยข้ามมาอีกฝั่ง พอลงมาอีกฝั่งก็เดินตามทางรถวิ่ง มาประมาณ 20 เมตร ก็เห็นคลีนิคหมอภูอยู่ซ้ายมือ เป็นคลีนิคสีขาวครับ
ผมเข้าไปก็ตื่นเต้นอะ (เป็นครั้งที่สองที่เข้าคลีนิคศัลยกรรมแบบตั้งใจทำ ครั้งแรกเสริมจมูกตอนเรียนที่กรุงเทพฯ ที่ คลีนิคสุขุมวิทซอยข้างเอ็มโพเรียม) ได้เจอน้องสาวคุณหมอด้วย น่ารักดีครับ
นั่งรอสักพัก ก็เจอพี่คนหนึ่งเดินออกมาและใช้ผ้าปิดปาก ก็เดาได้เลยว่าต้องมาทำปากแน่ ๆ พอเขาคุยกับจนท.ที่เคาน์เตอร์เสร็จ ก็เลยขอคุยกับเขาหน่อย ตอนแรกนึกว่าคนทำปากเสร็จใหม่ ๆ จะพูดไม่ได้ .. ที่ไหนได้พูดคล่องปรือ แถมพูดชัดอีกด้วยวุ้ย
พี่เขาเปิดรูปให้ดู (ถ้าพี่มาอ่านคงจำผมได้นะ) บอกว่า ทำงานเป็นพริตตี้ ในรูปสวยมาก ของมากอยู่แล้ว และพี่เขามาทำปากบนให้เล็กลงกับหมอภูเมื่อ 3 เดือนก่อน และวันนี้มาทำปากล่างเพิ่ม .. โอวว พระเจ้า หมอภูทำปากบนพี่เขาได้สวยงามอลังการมาก ยิ่งทำให้หัวใจผมพองโตมากมาย
ขณะเดียวกัน คนที่มาทีหลังผมก็เข้ามาเสวนาด้วย ปรากฏว่า วันนั้นคนที่มาคลีนิคหมอภู มาทำปากกับหมอภูทุกคนเลยครับ !! สุโค่ยจริง ๆ
แล้วผมก็ได้เข้าไปพบคุณหมอครับ , หมอใช้ผ้าปิดปากอะ (เสียดายอยากเห็นหน้าหมอเต็มๆ) พอได้ยินเสียงหมอก็เคลิ้มเลย ฮ่าๆ หมอเสียงนุ่มและเสียงหล่อมากกกกกกกกกกกกก ก็บอกความต้องการของตัวเองให้หมอฟัง , หมอก็ให้ผมทำหน้าเฉย ๆ แล้วก็เอาลวดเหล็กเล็ก ๆ มาช้อนปากบนผมอะ ขยับขึ้นลง แล้วหมอก็บอกผมว่า
"เนื้อปากเยอะมากครับ สามารถตัดปากให้เล็กลงแบบดาราเกาหลีคนนี้ได้เลย"
แล้วหมอก็เปิดจากหน้าจอคอมให้ดูเลย โอ้ว พระเจ้าครับ นี่แหละปากที่ผมอยากได้ หมอภูยืนยันว่า ทำได้เหมือนในรูปแน่นอน เพราะโชคดีที่ผมมีเนื้อปากเยอะและขอบเป็นรูปกระจับ (คือ ผมมีรอยหยักตรงกลางปากชัดเจนครับ)
หลังจากนั้นก็วัดปีกจมูกครับ ผมไม่อยากได้ปีกจมูกหู่ ๆ เหมือนเอามือไปกดทับ หมอบอกว่า จมูกผมไม่ได้บานมากขนาดนั้น (เพิ่งรู้ว่า คนที่ไปตัดปีกจมูกมาแล้วจมูกมันหู่ ๆ เป็นวงรี นั่นคือบานมากกกกก) ดังนั้น ผมจะได้รับการตัดปีกจมูกแบบยกขึ้น เพื่อทำให้จมูกกลมมน
ระหว่างนั้นแอบมองตาหมอ , วุ้ย หมอตาสวยชิบบบ เคลิ้มเลยอะ (แอบชอบหมอภูด้วยไม่รู้ตัว ฮ่าๆๆ) คิ้มก็เข้มมากกก จังหวะที่หมอกำลังเขียนรายละเอียดลงในบัตรคนไข้ ผมก็อ้อนหมอขอลดราคาหน่อย , หมอน่ารักอะคับ ลดราคาให้ผมด้วย 2 อย่างรวมกัน แค่ 16,000 บาทเองครับ
ผมก็เลยตัดสินใจจองคิวไปเลย จ่ายแค่ 1,000 บาทครับ (จริง ๆ จ่าย 2,000 บาทครับ แต่ความซวย คือ วันนั้นรีบมาจากสุวรรณภูมิ แล้วก็จ่ายค่าแท็กซี เหลือติดตัว 1,300 กว่าบาท)
ส่วนวันนัดทำนั้น ผมขอเลือกเองเพราะว่าผมจะต้องมาทำฟันปลอมใส่ปากก่อน 2 ซี่ครับ คือ พอดีแฟนเก่าเป็นหมอฟัน เขาบอกว่า มีคนไข้ทำปากมา จะอ้าปากได้ไม่กว้าง หมอฟันจะทำฟันลำบากมาก ผมก็เลยเลือกขอทำฟันอันได้แก่ ใส่ฟันปลอมเพื่อป้องกันฟันล้ม (ไม่อยากจัดฟัน) และ อุดช่องว่างของฟัน กว่าจะพิมพ์ปาก กว่าจะหล่อฟัน กว่าจะใส่สกรู และตรวจสอบผล ประมาณ 4 เดือนครับ
ก็ตรงตามแผน คือ ผมว่าจะไปทำปากเดือนตุลาคมนี้ครับ แล้วผมจะมาอัพเดทที่กระทู้นี้อีกทีนะครับ |
คะแนน
-
1
ดูบันทึกคะแนน
-
|