|
ปัจจุบัน ราคาศัลยกรรมความงามในสถานพยาบาลระดับใหญ่ล้วนมีราคาสูง และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากจำนวนของผู้เข้ารับการศัลยกรรมทั่วโลกในแต่ละปีมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาเป็นตัวเลขเพียง 1-2% แต่เมื่อดูตัวเลขมูลค่าตลาดศัลยกรรมกลับพบมูลค่าขยับขึ้น 20% ซึ่งเหตุผลสำคัญในการขยับราคามาจากต้นทุนทั้งในเรื่องของเครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคนิคการผ่าตัดของศัลยแพทย์ ซึ่งมีการนำเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ามาช่วยวิเคราะห์ก่อนทำการผ่าตัด เช่น เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัท GC Aesthetic ได้ประกาศเปิดตัวซิมูเลเตอร์ที่มีชื่อว่า “Eve 4.0” ออกมาในยุโรปและบราซิล เพื่อแสดงภาพการเปลี่ยนแปลงของขนาดไซส์หน้าอกที่มีความแตกต่างกันบนร่างกายก่อนที่จะตัดสินใจเสริมหน้าอก และได้มีการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้แล้วในวงการศัลยกรรม หรือการใช้เครื่องมือมาช่วยในการผ่าตัด และดูแลอาการบวมช้ำหลังการผ่าตัด เป็นต้น
ปัจจุบันราคาศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมในโรงพยาบาลชั้นนำ อาทิ ศัลยกรรมเสริมจมูก เดิมราคา 20,000 - 40,000 บาท ปัจจุบันราคาขยับขึ้นมาเริ่มต้นอยู่ที่ 60,000 – 250,000 บาท, ศัลยกรรมตาสองชั้นเดิมราคาอยู่ที่ 10,000 – 20,000 บาท แต่ปัจจุบันราคาเริ่มต้น 40,000 – 100,000 บาทขึ้นอยู่กับเทคนิค, ศัลยกรรมเสริมหน้าอก เดิมราคา 100,000 บาท ปัจจุบันราคาขยับขึ้นมาเริ่มต้นที่ 300,000 บาทขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัดและวัสดุซิลิโคน, ศัลยกรรมดูดไขมัน เดิมจุดละ 50,000 บาท ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 70,000 บาท เป็นต้น
“สิ่งสำคัญในการศัลยกรรม ควรคำนึงถึงความปลอดภัยก่อนเป็นประการสำคัญ อย่าเลือกราคา หรือภาพการโฆษณารีวิว ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีความปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล ควรเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เฉพาะทาง โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อแพทย์ได้จากเว็บไซต์ของ แพทยสภา หรือสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย เป็นต้น รวมทั้ง การเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจวิเคราะห์ ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เพราะแพทย์จะทำการตรวจอย่างละเอียดว่า ลักษณะโครงสร้างของคนไข้สามารถเสริมได้ขนาดไหนที่จะพอดีกับร่างกาย การเลือกวัสดุ ปัญหาของคนไข้ เพื่อแก้ไขได้ตรงจุด” นพ.ธนัญชัย กล่าว |
|