ดู: 2148|ตอบกลับ: 6
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[ตัดลดโหนกแก้ม/กราม] ศัลยกรรมเปลี่ยนชีวิต...เพราะการโดนล้อไม่ใช่เรื่องตลก

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย haefon5555 เมื่อ 2017-9-7 14:43

กระทู้นี้เกิดขึ้นมาได้เพราะคำสบประมาททุกคำที่ได้รับมา จนเกิดความอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง และเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยู่สถานการณ์แบบเดียวกัน ขอให้ฮึดสู้เข้าไว้



..จากเด็กหน้าเหลี่ยมกรามใหญ่ดั้งแหมบ...ตัวดำ ๆ ไปไหนก็มีแต่คนล้อ..


สวัสดีค่ะทุกคนนน หนูขอแนะนำตัวก่อนเลยน้า หนูชื่อฝนนะคะ แต่ชอบเรียกตัวเองว่าอาฝน เพราะอยากดูเก๋ ๆ ขึ้นมาบ้าง 555  นี่เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรกในพันทิปที่ตั้งใจมากๆเพราะอยากให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของฝนแบบเต็มๆ เขียนผิดอะไรตรงไหนติชมกันได้เลยนะคะ
ปกติฝนจะชอบเล่นอยู่ไม่กี่ห้องหรอกค่ะ ส่วนใหญ่จะซุ่มอยู่ตามโต๊ะเครื่องแป้ง ดูสาว ๆ แต่งหน้ากันสวย ๆ ดูพวกเครื่องสำอางค์ มาส์กหน้า อีกห้องก็คงจะเป็นก้นครัว เพราะว่า ฝนชอบตามไปกินพวกรีวิวน่าอร่อย ๆ อะไรแบบนี้ ไม่ค่อยได้โพสต์หรอกค่ะ



นี่คือรูปฝนตอนเด็ก ๆ กับครอบครัวค่ะ เด็กน้อยจากสุรินทร์ (ขอเสียงชาวสุรินทร์หน่อยค่ะ ^ ^)  สมัยเด็ก ๆ ฝนว่าหลายคนก็เป็นคือ ติดวิ่งเล่น ไม่ห่วงเรื่องความสวย ฝนก็ด้วย คือเกิดมาก็คิดว่าตัวเองไม่สวยอยู่แล้ว ไม่รู้จะดูแลตัวเองไปทำไม ตอนเด็ก ๆ เคยมีเพื่อนคนหนึ่งเลิกเล่นกับฝนเพราะบอกว่าฝน “ขี้เหร่” “หน้าตาน่ากลัว” บอกเลยว่าตอนนั้นรู้สึกเฉย ๆมากค่ะ จะบอกว่าชินก็ได้



สมัยเป็นสาวรุ่นๆตอนอยู่ตจว.เนอะ


โตมาก็มีดูแลตัวเองบ้าง เห็นเพื่อน ๆ ทำสวยกันฝนก็เริ่มดูแลตัวเองบ้าง แต่ก็ไม่พ้นการโดนล้อมาตลอดสารพัดคำที่จะคิดกันอย่าง “หน้าเหลี่ยม” “หน้าบาน” “จานดาวเทียม” ฝนก็รู้ตัวเองแหละว่าหน้าตาไม่ได้ดูดี แต่ไอ้ที่มาล้อๆกัน เริ่มเยอะๆเข้าบางทีมันก็บั่นทอนจิตใจจริง ๆ บางครั้งก็อยากตอบกลับไปแรง ๆ แต่ยิ่งตอบกลับ บางคนก็เหมือนยิ่งสนุก ยิ่งเป็นปมในใจ พอกลับมาบ้านก็มีแอบร้องไห้นะบางที
ตอนเข้าเรียนที่ อัฒกรบริรักษ์ ฝนเรียนหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลค่ะ ช่วงที่เรียนใกล้จบ จะมีให้เราเลือกสถานที่เพื่อฝึกงาน มีคนแนะนำให้ฝนเข้ามาฝึกงานที่คลินิกศัลยกรรมในกรุงเทพฯ ตอนแรกฝนว่าจะไม่ไปนะ เพราะมันไกลบ้านต้องย้ายที่อยู่จากอีสานเข้ากรุงเทพฯ
แต่เพราะอยากได้ประสบการณ์การทำงาน เลยไปขอพ่อกับแม่ คำแรกที่ได้ยินคือ “ไม่” จนสุดท้ายเพราะความตั้งใจ และอยากหาประสบการณ์การทำงาน พ่อแม่ก็ใจอ่อน และได้มาฝึกงานที่ มาสเตอร์พีซ คลินิกค่ะ สำหรับที่นี่จะเปลี่ยนชีวิตฝนไปตลอดกาล... (เวอร์วังอลังการเนอะ แต่เรื่องจริง)



ก่อนทำศัลยกรรมและก่อนเข้ามากทม.ค่ะ บ้านมากกก


2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-9-7 12:31:24 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ฝนมาฝึกงานที่นี่กับเพื่อนอีก 5 คน ตอนแรกคิดว่าเข้ามาแล้วจะได้ฝึกเป็นผู้ช่วยพยาบาลเลย แต่จับผลัดจับผลูได้มาอยู่ตรงที่แผนกคีย์ข้อมูลคนไข้ค่ะ ส่วนเพื่อนอีกกลุ่มได้ไปฝึกที่หน้าคลินิก ด้วยความที่ ที่ทำงานอยู่ใกล้พวกสยาม เวลาพี่ ๆ ที่ทำงานพาไปเลี้ยงข้าวแต่ละที ก็ไม่พ้น สยามแสควร์ ก็จะเจอแต่คนหน้าตาดี ๆ น่ารัก ๆ กันทั้งนั้น
จนฝึกงานจบ พี่ที่คลินิกก็ถามค่ะว่าฝนสนใจทำงานต่อมั้ย? ฝนตัดสินใจบอกพ่อกับแม่ว่า ฝนขออยู่ทำงานเก็บเงินที่นี่ต่อก่อนละกัน หลังจากนั้นฝนเลยได้เป็นพนักงานที่นี่เต็มตัว ได้มาทำงานในตำแหน่งกรอกประวัติคนไข้ ตอนแรกก็ใช้ชีวิตตามปกติ  ได้สนิทกับพี่ๆที่ทำงานเพราะเราเป็นน้องเล็กสุด ก็มีโดนแซวแบบฮา ๆ บ้าง มีเล่าให้พี่ ๆ ที่ฝนสนิทฟังว่าฝนโดนล้อ พี่ ๆ บางคนก็ปลอบใจว่า เค้าเอ็นดูเราเค้าถึงแซว อย่าคิดมาก



ตอนนั้นคือมั่นใจว่าก็สวยในระดับหนึ่ง555


จนมีวันนึง พี่ที่ทำงานคนนึงปกติจะล้อฝนเป็นประจำอยู่แล้ว ฝนไม่ได้ไปต่อล้อต่อเถียงอะไร พี่เค้าก็พูด ๆ ไม่หยุดแต่ละคำที่ฝนฟังแล้วก็เสียใจจริง ๆ “หน้าบาน” “หน้าเหลี่ยม” “นี่หน้าหรือลูกเต๋า” ก็รู้แหละว่าพวกพี่เค้าหยอกเล่น แต่เราก็อดคิดไม่ได้ว่ามันเป็นปมด้อยของเรา  บางคนพอฟังแล้วก็หัวเราะตามไป แต่เราคือคนที่โดนล้อ ไม่สนุก ไม่ตลกเลย เสียใจ สุดท้ายวันนั้นความรู้สึกมันเหมือนระเบิด ฝนปล่อยโฮแล้วร้องไห้มาตรงนั้นเลย เหมือนโดนขยี้ปมในใจเยอะ ๆ “รู้แล้วว่าไม่สวย รู้แล้วว่าหน้าเหลี่ยม แล้วจะให้ทำยังไง ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้” คือทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ รู้ว่าตลก สนุก แต่ฝนก็ไม่ใช่ตัวตลกของใครนะ



ฝนตอนเริ่มฝึกงานแรกๆเลยค่ะ


       
..หยุดเถอะ ใครที่ชอบมีความสุขกับการเอาปมด้อยของคนอื่นมาล้อ..
        ..เพราะคนที่โดนเค้าไม่ใช่ตัวตลกของใคร!!..


ตอนหลังแผนกตรงที่ฝนอยู่ ได้ย้ายไปออฟฟิศที่คลินิกตรงสยาม คราวนี้ยิ่งหนักใหญ่ คนสวย ๆ เพียบ!!! คือดูดีกันเต็มไปหมด ทั้งพี่เซล ทั้งลูกค้าที่มาทำ ฝนยิ่งรู้สึกตัวเองด้อย จนกว่าจะรู้ตัวอีกที คนก็ทักว่าทำไมฝนเป็นคนที่ดูเศร้า ดูไม่ร่าเริง ไม่ยิ้มเลย เป็นอะไรรึเปล่า ฝนเองก็ไม่รู้สึกตัวนะ ถ้าไม่มีคนมาทัก



ใช้รูปนี้ส่งเข้าขอเป็นเคสทำศัลยกรรมค่ะ


3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-9-7 12:32:11 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แต่ในที่สุด...ที่คลินิกมีเปิดรับพนักงานทำศัลยกรรม Make Over !!! แต่มีการติดสัญญานะต่อการทำ 1 อย่างอะไรแบบนี้ เท่ากับแลกในส่วนที่ไม่ได้จ่าย  ตอนแรกที่เห็นฝนบอกเลยว่า เฉย ๆ เพราะไม่คิดว่าเราจะได้ทำ หรือ เราจะแก้ตรงไหนได้ แต่ฝนก็ลองยื่นสมัครดู ได้เข้าไปปรึกษาคุณหมอ ตอนปรึกษาฝนบอกคุณหมอว่า หนูไม่อยากหน้าเหลี่ยมอีกแล้ว วันนั้นตอนที่ฝนปรึกษาคุณหมอ ก็เล่าให้คุณหมอฟังชุดใหญ่เลยว่า เรามีปัญหาตรงไหนบ้าง เพราะฝนรู้สึกว่าเป็นคนที่กรามใหญ่ โหนกแก้มสูง แถมดั้งยังแหมบอีก รวมแล้วทุกอย่างคือไม่ชอบหน้าตัวเองเลย ไม่รู้น้ำตามาจากไหน มันไหลออกมาตลอดเวลาที่คุยกับคุณหมอ มันเหมือนเป็นปมในใจจริง ๆ  



ก่อนทำศัลยกรรมที่คลินิกต้องมีการเก็บภาพไว้ด้วย ฝนขอรูปมาใช้เขียนริวิวค่ะ


ลืมบอกไปก่อนปรึกษาทางคลินิกจะมีเก็บภาพก่อนและหลังของเราด้วย มีการเซ็นสัญญา และมีการถ่ายรูปทุกขั้นตอนการทำเลย ปรึกษากับคุณหมอนานมาก ถ้าให้เล่าให้หมด วันนี้กระทู้คงไม่จบ ฝนเลยย่อยมาเป็นข้อ ๆ ดีกว่า
สรุปคำปรึกษาของคุณหมอ สิ่งที่เราต้องแก้มีทั้งหมด 6 ข้อ ตามนี้เลย
1.        ลดโหนกแก้ม : เพราะฝนเป็นคนที่โหนกแก้มสูง เห็นชัด คุณหมอบอกว่ามันทำให้หน้าดูแก่ ถ้าลดโหนกแก้มลงจะทำให้ช่วงบริเวณใบหน้าดูเพรียวลงได้
2.        ตัดกราม : เพราะฝนกรามเป็นเหลี่ยมเห็นชัดเจนมาก! คุณหมอบอกว่าในส่วนของกรามฝน คุณหมอจะตัด! ให้เข้ารูปเพื่อรับกับใบหน้า
3.        เลื่อนคาง : คุณหมอบอกว่าถ้ามองจากมุมด้านข้าง คางด้านล่างจะยื่นออกมามากกว่าปากด้านบน ทำให้หน้าดูไม่สมส่วน คุณหมอจะเลื่อนคางของฝนให้อยู่ในที่ควรจะเป็น
4.        ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม : ส่วนนี้เป็นการกำจัดถุงกะเปาะไขมันออก เพื่อปรับให้หน้าเรียวเล็ก!!!
5.        ดูดไขมันกรอบหน้า : เพื่อเก็บให้หน้าเข้ารูปเรียวเล็กถึงขีดสุดเลยค่ะ คุณหมอคอนเฟิร์มตรงนี้ว่าถ้าครบตามนี้ หน้าเล็กเรียวสวยแน่นอน!
6.        เสริมจมูกซิลิโคน : จากที่เห็นว่าฝนดั้งแหมบมาก ใส่แว่นทีไรคือแว่นตก คุณหมอก็บอกว่าถ้าหน้าทำเต็มขนาดนี้แล้วก็ต้องมีดั้งด้วย
ฟังแล้วก็สตั้นท์ไป 3 วิ! นี่หน้าเราต้องทำขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!?!
คุณหมอบอกว่าจะทำให้ฝนสวยกว่าเดิมจนใครต่อใครที่ล้อต้องยอมรับเลยล่ะ ตอนแรกฝนโทรไปเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็เป็นห่วง แต่ฝนก็บอกแม่ว่า ฝนอยากทำจริง ๆ และฝนก็มั่นใจว่ามันจะต้องออกมาดีเพราะฝนเองตอนอยู่ที่ทำงานก็เห็นลูกค้าที่เข้ามาตลอด แต่ละคนหลังทำก็คือสวยจริงเปลี่ยนจริง
เคสของฝนจะแบ่งเป็นสองครั้ง และต้องมีคุณหมอถึงสองคนในการทำศัลยกรรมครั้งนี้ โดยรอบแรก จะเป็นคุณหมอสมบูรณ์ ไหวพริบ คุณหมอจะลดโหนก ตัดกราม เลื่อนขากรรไกร ส่วนรอบที่สอง คุณหมอวลภ ศุภวณิช หรือคุณหมอเชี้ยว รับหน้าที่ดูดไขมันกรอบหน้า ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม และ ทำจมูก แต่จะต้องทำห่างกันประมาณ 1 – 2 เดือน เพราะต้องรอพักฟื้นหลังจากทำส่วนแรกก่อน
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-9-7 12:42:29 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ศัลยกรรมรอบที่ 1  : ลดโหนก ตัดกราม เลื่อนขากรรไกร



เตรียมตัวเข้าห้องศัลยกรรมแล้วค่ะ

และแล้วก็ถึงวันที่ฝนจะเปลี่ยนตัวเอง คือวันที่เข้ามาทำ ลดโหนกแก้ม ตัดกราม เลื่อนคาง เป็นวันแรกที่เหยียบที่ทำงานแล้วตื่นเต้นมากค่ะ ปกติมันเป็นความเคยชิน ว่าเราก็มาทำงานที่นี่แหละ แต่พอเป็นวันนี้ที่ต้องเปลี่ยนตัวเองจริง ๆ ก็เลยรู้สึกกลัวปนตื่นเต้นขึ้นมาเลยแต่ก้าวขามาขนาดนี้แล้วจะให้ถอยก็คงไม่ได้! ถามตัวเองซ้ำ ๆ ถ้าวันนี้เราไม่ทำ อีก 5 ปีข้างหน้าจะรู้สึกเสียดายมั้ย ไม่ใช่แค่เพราะคำพูดของใคร แต่เป็นเพราะตัวเราเองก็อยากเปลี่ยนแปลง เพราะอย่างนั้นต้องลุยอย่างเดียวค่ะ



ทำความสะอาดหน้าก่อนเข้าห้องศัลยกรรมค่ะ


จะเข้าห้องผ่าตัดก็ต้องเปลี่ยนชุด ทำความสะอาดหน้า เตรียมตัว จะบอกว่าฝนลืมล้างเล็บก่อนมาด้วยค่ะ ทั้ง ๆ ฝนก็ตั้งใจเตือนตัวเองไว้แล้วแท้ ๆ ว่าอย่าลืมล้าง ดีที่พี่พยาบาลเห็นพอดีก็เลยบอกว่าต้องล้างเล็บก่อนด้วย เพื่อความปลอดภัยของเรานะคะ



คุณหมอจะวาดจุดสำหรับเตรียมศัลยกรรมค่ะ



รูปฟิล์มเอ็กซ์เรย์ของฝนค่ะ หมอจะเอาไว้วิเคราะห์รูปหน้าของเราแบบเจาะลึกเลย


ก่อนจะทำการผ่าตัดคุณหมอสมบูรณ์ก็จะมีวาดรูปที่ใบหน้า เพื่อมาร์คจุดที่จะทำตอนผ่าตัดค่ะ ระหว่างอยู่ในห้องผ่าตัดบรรยากาศไม่ค่อยเกร็งมาก อาจเป็นเพราะฝนคุ้นเคยกับพี่ ๆ ที่นี่อยู่แล้วด้วย วันนี้ส่วนใหญ่พี่ ๆ ก็จะมีแซวกันแค่ว่า “จะสวยใหญ่แล้วน้า” สำหรับที่นี่การผ่าตัดไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลย เพราะมีแพทย์วิสัญญีประจำคอยควบคุมระหว่างผ่าตัดตลอด การันตีความปลอดภัยได้เลยค่ะ



ยิ้มเจื่อนๆแบบเตรียมขึ้นเขียงค่ะ หน้าลายมากกก ทำเยอะอะเนอะ


5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-9-7 12:43:07 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ก่อนที่ฝนจะโดนดมยานอนหลับ ฝนพูดกับคุณหมอสมบูรณ์ว่า “คุณหมอคะ เอาให้สวยจนกลับบ้านแล้วแม่จำไม่ได้เลยนะคะ” จากนั้นก็เริ่มทำนับ 1 2 แค่สองเองนะที่ฝนจำได้ คือวูบหลับไปเลย รู้ตัวอีกที คุณหมอก็สะกิดเรียกฝนให้ตื่น ความรู้สึกแรกตอนที่ตื่นมา เจ็บ! แน่น! ตึง! ร้าว! แต่ทน อดทนเท่านั้น ฝนท่องไว้ในใจตลอดว่าต้องผ่านไปให้ได้จำได้ว่านอนอยู่ในห้องพักฟื้นนานมาก เพราะยังรู้สึกเพลีย ๆ



หลังทำเสร็จมีคูลแพ็คให้ค่ะตอนพักฟื้น


นอนอยู่สักพักก็กลับบ้าน ฝนให้เพื่อนที่อยู่หอเดียวกันมารับฝนกลับ ตอนแรกจริง ๆ ก็จะกลับเอง แต่ฝนกลัวว่าจะเบลอ ๆ เลยคิดว่าเพื่อนมารับน่าจะดีกว่า ฝนแนะนำเลยนะคะว่าให้พาเพื่อนสนิทหรือญาติมาดีกว่า เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้มีคนช่วยได้ด้วย
วันแรกที่กลับมาความรู้สึกที่เริ่มเกิดขึ้นคือ “ปวด” ฝนก็กินยาตามที่คุณหมอสั่งมาให้แล้วก็พยายามนอนหลับเพื่อพัก เวลาหลับก็จะไม่ค่อยปวดค่ะ เรียกว่าวนเวียนอยู่อย่างงี้คือ นอน ตื่น กินข้าว กินยา นอน มาดูรูปฝนหลังทำกันดีกว่า ฝนเก็บไว้ทุก ๆ วันจนครบ 1 เดือนเลยแทบจะจดเป็นไดอารี่เลยก็ว่าได้ค่ะ



หลังการทำศัลยกรรมวันที่ 1 ก็จะบวมๆนิดๆ


คืนวันแรกผ่านไปด้วยความปวด ๆ หลังทำ หน้าบวม ทุกอย่างปวดและช้ำ ท่องไว้ในใจ ฉันต้องสวย แล้วมันต้องผ่านไป...



หลังการทำศัลยกรรมวันที่ 3 บวมเยอะหน่อยแต่ไม่เจ็บค่ะสบาย ๆ


วันที่ 3 ทุกอย่างเริ่มบวมกว่าเก่า รอยช้ำชัดขึ้น รู้สึกเหมือนแก้มจะแตกเลยค่ะ บางอารมณ์มีรู้สึกว่านี่เรากำลังทำอะไรอยู่ แต่..ยังคงท่องอยู่ในใจ ชั้นต้องสวย!



หลังการทำศัลยกรรมวันที่ 5 หน้าที่บวมเริ่มยุบลงบ้างแล้วค่ะ


วันที่ 5 อาการปวดหายไปแทบจะหมดแล้วค่ะ ที่เหลือคือรอยช้ำ แต่ไม่เจ็บ ใกล้ครึ่งทางแล้วดีใจสุดๆ  



หลังการทำศัลยกรรมวันที่ 7 หน้ายุบแล้ว ไวมากเลยจริง ๆ

วันที่ 7 วันนี้มีไปตัดไหม ตอนแรกตื่นเช้ามาส่องกระจกดีใจมาก เพราะว่ารอยช้ำอะไรหายไปหมดแล้ว แต่หน้ายังบวม ๆ เอาตรง ๆ ก็ยังไม่รู้สึกว่าหน้าตัวเองเรียว แต่รู้สึกว่ามุมเหลี่ยมกับโหนกแก้มหายไปค่ะ



แล้วในที่สุด..วันนี้ที่ฝนรอมานาน คือ ครบผ่าตัดรอบแรก 1 เดือน โหนกกับกรามจ๋าฝนลาก่อนค่ะ

6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-9-7 12:43:28 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หลังจากครบ 1 เดือน ฝนไปทำงาน ทุกคนก็ทักว่า ฝนหน้าเปลี่ยนไปมาก บางคนก็มาบอกว่า ต่อไปคงล้อไม่ได้แล้ว คือการตอบรับที่ได้มาทุกอย่างดีมาก ดีจนฝนร้องไห้ที่ทำงาน! คนก็รุมตกใจกัน นึกว่าพูดอะไรที่ทำให้ฝนเสียใจอีก แต่จริง ๆ ที่ฝนคิดคือ ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ วันที่คนจะเลิกเอาเรามาล้อเลียน เอามาเป็นตัวตลกที่พูดกันขำ ๆ
สรุปหลังจากทำรอบแรก ศัลยกรรมครั้งใหญ่ โดยรวมเลยถ้าถามว่าเจ็บไหม.. จะบอกว่า ไม่เจ็บเลย ก็คงดูเหมือนโกหกเกินไป สำหรับฝน เจ็บนะ แต่ทนไหว แถมผลลัพธ์หลังทำก็รู้สึกเลยว่าหน้าเรียวเล็กขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเล็กขึ้นทุก ๆ วันด้วย ปลื้มมากจริง

ศัลยกรรมรอบที่ 2  : ดูดไขมันกรอบหน้า ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม และ ทำจมูก



ถ่ายรูปเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมรอบสอง


หลังจากพักฟื้นมาได้สักพัก ฝนก็เดินหน้าทำครั้งที่สองต่อเลยค่ะ ครั้งนี้จะดูดไขมันกรอบหน้า ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม และ เสริมจมูก กับคุณหมอเชี้ยว สาวตจว. ดั้งแหมบแบบหนูจะมีสันดั้งกับเค้าบ้างแล้ว ความตื่นเต้นยังมี แต่ตอนนี้ใจสู้เต็มร้อย เชื่อมือและไว้ใจคุณหมอที่สุด
ครั้งนี้ไม่ต้องดมยาสลบค่ะ จะเป็นการใช้ยาชากับเทคนิคให้ยาที่จะทำให้เรารู้สึกเบลอ ๆ แต่ผ่อนคลาย จะบอกว่าตอนแรกฝนก็ผ่อนคลายนะคะ แต่สุดท้ายก็หลับ! ตื่นมาอีกทีก็รู้สึกหน้าตึงๆ คุณหมอเชี้ยวก็มีแซวว่า หลับเพลินเลยนะ กรนด้วย 55555 อายไปใหญ่ค่ะ
หลังทำเสร็จไม่รู้สึกหนักมากเหมือนรอบที่แล้วค่ะ ก็นั่งทำงานต่อได้เลย โดยยังไม่ต้องกลับบ้าน ชิลมั้ยล่ะ เห็นไขมันที่คุณหมอดูดไปด้วย ตอนแรกคิดว่าหน้าฝนบานเพราะกราม ที่ไหนได้สรุปแล้วทั้ง ไขมันที่กรอบหน้า ไขมันกระพุ้งแก้มก็ออกมาเยอะมาก ไหนจะ กราม หน้าเลยบานกันไปใหญ่



หลังทำทันที สบาย ๆ ค่ะ ไม่เจ็บแล้ว ^^ ชิล์ลมากๆๆ



อันนี้เป็นไขมันกรอบหน้าของฝนที่ดูดออกมาแล้ว รูปมันจะดูน่ากลัวก็เลยเอาเป็นสีขาวดำค่ะ



ไขมันกระพุ้งแก้มออกมาเยอะมาก



หลังทำศัลยกรรมวันที่ 1 ใส่ผ้ารซัพพอร์ตเพื่อให้หน้ากระชับค่ะ


7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-9-7 12:43:33 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
วันแรกหลังทำเสร็จเราจะใส่ผ้ารัดหน้าที่เรียกว่าผ้าซับพอร์ตเพื่อให้ผิวกระชับและเข้าที่ไวขึ้นค่ะ ฝนซื้อของที่คลินิกเลย แต่จะซื้อที่นี่ หรือ ซื้อข้างนอกก็ได้



หลังทำศัลยกรรมวันที่ 3 บวมนิดหน่อย


วันที่ 3 หลังทำเอาที่ปิดแผลตรงจมูกออกแล้วเห็นสันดั้งมาแล้ว เหลือแค่รอยุบ!!! คือเห็นเท่านี้ก็ดีใจแล้วจริง ๆ ร้องไห้บ่อยมาก แต่เป็นการร้องไห้ที่เกิดจากความรู้สึกดีอะค่ะ^^



หลังทำศัลยกรรมวันที่ 5 เริ่มหายบวมแล้วค่ะ


วันที่ 5 ถ่ายเก็บไว้ทุกๆวัน แต่ครั้งนี้เจ็บน้อยกว่าครั้งที่แล้วมาก รอยช้ำอะไรก็ไม่มีแล้ว อยากให้ทุกอย่างยุบแล้วเข้าที่ไว ๆ คือทุกวันแทบนับวันรอจริงๆค่ะตอนนั้น



หลังทำศัลยกรรมวันที่ 7 หน้ายุบไม่บวมแล้ว V-shape เริ่มมาแล้วค่า เย้ ๆ


วันที่ 7 เริ่มถอดผ้าซัพพอร์ตออกมาบ้างแล้ว เห็นกรอบหน้าตัวเองชัดขึ้นมากก ยิ่งเห็นยิ่งร้องไห้ มันทั้งดีใจ ทั้งรู้สึกว่าเราผ่านมันไปได้แล้วจริงๆ


และในที่สุดก็ครบ 1 เดือนแล้ว
เป็น 1 เดือนที่ยาวนานมากสำหรับฝนเลยค่ะ
คือ 1 เดือนหลังทำศัลยกรรมครบทุกอย่าง!!!!!!
   


หลังทำศัลยกรรมเสร็จชีวิตดีขึ้นเยอะค่ะ


สรุปหลังทำรอบ2 รู้สึกเลยว่า โหนกแก้มเล็กลง หน้าเรียวลงมาชัดเจนขึ้น และมีดั้งใส่แว่นไม่ตกแล้วด้วย มีความสุขมากก รู้สึกเลยว่าชีวิตเปลี่ยนไปจริง ๆ
สุดท้ายแล้วค่ะ ฝนเป็นกำลังใจให้ทุก ๆ คนที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองถ้าตอนนี้ตัดสินใจอยู่ ก็ขอให้ศึกษาข้อมูลให้ดี อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนค่ะ ถ้าคิดจะทำก็ต้องมั่นใจ ส่วนคนที่อาจจะคิดว่า การล้อเล่นเป็นเรื่องที่เราเอ็นดู ไม่เห็นจะต้องโกรธเลย ฝนเข้าใจนะคะ ที่คิดมาก็ไม่ผิด แต่อยากให้เข้าใจคนที่โดนล้อด้วยไม่มีใครอยากเป็นตัวตลกของใคร บางคนอาจจะมีความรู้สึก แต่เค้าแค่ไม่กล้าพูด อย่าล้อกันจนอีกคนนึงต้องเจ็บปวดจนมีปมในใจเลย ^^
อ่อ เกือบลืมไป หลังจากทำมาแล้ว ฝนก็ยังได้เจอพี่ที่เคยแซวฝนอยู่นะ วันนึงฝนก็ตัดสินใจเล่าว่าพี่เองก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้ฝนเปลี่ยนตัวเองนะ เพราะตอนนั้นฝนคิดมาก พี่เค้าได้ฟังก็ตกใจ บอกว่าไม่คิดว่าที่ล้อไปจะทำให้รู้สึกแย่ พี่เค้าก็ขอโทษฝนค่ะ จนตอนนี้ก็อยู่กันเฮฮาแบบปกติ Happy!
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกระทู้เด็กตัวดำๆ หน้าบาน ๆ คนนึงที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองนะคะ สุดท้ายขออวดรูปหลังทำที่ไปถ่ายที่คลินิกหน่อยน้า เพราะกว่าหน้าจะมาถึงขนาดนี้ปาดน้ำตาไปหลายที แต่วันนี้ยิ้มออกแล้วค่ะ ^ ^



เทียบกันแบบชัดเจน ผลลัพธ์ถูกใจ ไม่ผิดหวังเลยค่ะ


ใครที่อยากถามข้อมูลเพิ่มเติมแอดเฟสมาได้เลยนะคะ ฝนจะตอบหมดทุกคำถามเลย
FB : Sirima Rakmee IG : haefon.sirima
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้